ปลายประสาทอักเสบ
วันนี้มาดูเคสคนไข้ในกลุ่มอาการคล้ายๆกันนะครับ
“หมอจ๊ะ ขาชาจังเลย” คุณป้าวัย 65 ปี ที่ป่วยเป็นเบาหวาน แล้วมีอาการปลายประสาทที่เท้าอักเสบ
หลังจากที่ได้ตรวจดูระบบประสาทและไขสันหลังแล้ว ไม่ได้มีอะไรผิดปกติเป็นพิเศษ ผมก็แนะนำให้แช่น้ำอุ่น เผอิญแกมีอาการไอร่วมด้วยพอดี ก็เลยบอกให้ดื่มน้ำอุ่นด้วย
“อ๋อ แช่ขาเสร็จ แล้วก็เอามาดื่มเหรอจ้า” แกอำผมเล่น ทำให้ผมตกใจ ร้องเสียงหลง
“ไม่ช๊าย... อย่าทำอย่างนั้นนะครับ”
รายนี้เป็นหนุ่มวัยรุ่นตอนปลาย ที่เคยมาปรึกษาปัญหาเรื่องอยากมีบุตร แล้วตอนนี้มีอาการชาตามแขนขา เหมือนสวมถุงเท้า เนื่องจากว่า โด๊ปมากเกินไป
“ควรรับประทานหอยนางรม และไข่แดงให้น้อยลงนะครับ”
“แต่ผมอยากมีลูกมากๆนะหมอ ทำการบ้านบ่อยๆแล้ว กลัวของมันไม่แรง เลยต้องโด๊ป”
“การดูแลสุขภาพในส่วนอื่นก็สำคัญนะครับ เช่น ไม่เครียด รับประทานผักมากๆ ออกกำลังกายบ้าง และนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ”
“นอนหลับก็ไม่มีลุกสิหมอ ต้องหลับนอน”
แหม รายนี้ มันช่างจ้อ ดีจริงๆ เอาเหอะน่าจะอย่างไร ก็ฟังหมอนิดนึงได้ไหม
“แล้วผลเลือดที่ตรวจมาก็มีไขมันในเลือดสูง หมอคงต้องให้ยาลดไขมันช่วยนะครับ”
“ขอบคุณมากครับหมอ แล้วผมจะทำตามที่หมอบอกนะครับ”
อืมม พูดแบบนี้ค่อยน่ารักหน่อย
อีกเคสหนึ่ง รับประทานวิตามินอยู่ จากอีกโรงพยาบาลหนึ่ง แต่ตอนนี้จะมาขอยาบำรุงปลายประสาทจากผมเพิ่มเติม
“ขอหมอดูยาที่ได้รับจากอีกโรงพยาบาลหนึ่งก่อนนะครับ”
คุณลุง ยื่นยา ที่ใส่ซองเรียบร้อยมาให้ผมดู
“อยากได้วิตามินบีรวมหน่อยหมอ เพราะผมซื้อกินเองหลายครั้งแล้ว”
ผมตรวจยาดู เห็นมีซองยาที่เขียนว่า บี คอมเพล็กซ์ อยู่ในนั้นด้วย
“ในนี้ มียาบำรุงปลายประสาทอยู่แล้วนะครับ”
“อ้าว จริงเหรอครับหมอ”
“ใช่ครับ นี่เท่ากับคุณลุง กินสองเท่าเลยนะครับ เบิ้ลยาเลยนะครับ”
“ตายจริง!!!” คำอุทานของคุณลุง ทำให้ผมแทบอยากจะเปลี่ยนสรรพนามเป็น คุณป้า ซะงั้น “มันมีผลข้างเคียงอะไรไหมครับหมอ”
“ก็ถ้าตับไตยังปกติ มันก็อาจจะแค่ทำให้หิวบ่อย นะครับ”
“มิน่าหละ ช่วงนี้ผมหิวบ่อย น้ำหนักก็ขึ้น”
คนไข้ วัย 70ปีเพศชาย อีกคนบอกว่าตัวเองชาที่แขนซ้าย เป็นมากตอนใส่นาฬิกา พอถอดนาฬิกาออกก็หาย “แหนะ เป็นซะอย่างนั้น ถ้าอย่างนั้นนาฬิกาคงเรือนใหญ่มากไปหรือเปล่าครับคุณลุง ถอดออกมาบริจาคให้หมอบ้างก็ได้นะครับ”
เจ้าอาการชาตามปลายมือปลายเท้านี่ เกิดจากประสาทส่วนปลายเสื่อม ซึ่งไม่ใช่ว่าจะเกิดจากการขาดวิตามินบี แต่เพียงอย่างเดียว อาจจะมีสาเหตุอื่นเช่น โรคเรื้อรัง อย่างเบาหวาน ไขมันในเลือดสูง การกดทับนานๆพิษของยาบางชนิด พิษของสารเคมี เช่น ตะกั่ว สารหนู โรคติดเชื้อบางชนิด โรคเอส แอล อี หรือโรคมะเร็งก็เป็นได้
ทางที่ดีเมื่อเป็นแล้วอย่าได้นิ่งนอนใจ เพราะนอกจากมันจะซู่ซ่าปวดแสบร้อนตามปลายมือปลายเท้าแล้ว มันยังโดนเข็มตำก็ไม่เจ็บ อันนี้แหละอันตราย ถ้ายิ่งเป็นเบาหวานร่วมด้วย อาจจะทำให้เกิดแผล แล้วอักเสบลาม จนเน่าได้ นอกเหนือไปจากนี้เป็นมากอาจทำให้กล้ามเนื้อลีบ หรืออัมพาตได้
การดูแลสุขภาพจึงเป็นสิ่งที่จำเป็น ไม่รับประทานสุรา ยาเมา งดสูบบุหรี่ หรือดมควันบุหรี่จากคนอื่น หลีกเลี่ยงของดอง หลีกเลี่ยงการสัมผัสสารเคมีที่เป็นพิษ รับประทานยาเมื่อจำเป็นและตามแพทย์สั่งเท่านั้น ควบคุมโรคเรื้อรังอย่างเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูงให้ดี โดยเลี่ยงการรับประทาน หวาน เค็ม มัน ควบคุมน้ำหนักไม่ให้มากเกินไป ออกกำลังกายและรับประทานผักให้มากๆ แต่ไม่เน้นผลไม้ที่หวาน และถ้าหากท่านอายุ 30 ปีขึ้นไป เมื่อมีโอกาส ควรจะเจาะเลือด และตรวจสุขภาพ ประจำปีบ้างนะครับ