24 วิธี มีความสุขกับการเป็นตัวเอง
24 วิธี มีความสุขกับการเป็นตัวเอง
โดย อักษราลัย
ความสุข คือสิ่งที่เราไขว่คว้าใช่หรือไม่ อะไรคือความสุขที่เราทุกคนแสวงหา สิ่งต่าง ๆ ที่เราต้องการนั้น ทั้งงานที่อยากทำ คนรัก งานอดิเรกที่ชื่นชอบ เงินทองที่มีมากพอสำหรับใช้จ่าย การท่องเที่ยวไปตามฝัน สิ่งเหล่านี้คือความสุขไหม อาจใช่ในชั่วครู่ชั่วยาม เมื่อเราได้สมปรารถนากับสิ่งเหล่านี้แล้ว เหตุใดความรู้สึกสุขสมกลับหายไป ดังคำกล่าวของท่าน เทนซิน เกียตโซ ทะไลลามะองค์ที่ 14 กล่าวไว้ว่า
“เราไม่สามารถหาความสงบสุขได้จากโลกภายนอก ตราบใดที่เรายังไม่ได้สร้างความสงบสุขขึ้นภายในจิตใจของเราเสียก่อน”
นั่นหมายถึงท่านบอกเราว่า ความสุขที่แท้จริงเกิดขึ้นจากตัวเรา มิใช่สิ่งภายนอก
แล้วเราจะมีความสุขจากตัวเองได้อย่างไร ? มี 24 วิธีสำหรับคำตอบนี้ เพื่อให้เรามีความสุขได้ด้วยตัวเราเอง มีอะไรบ้างมาดูกันค่ะ
- ชื่นชมสิ่งที่ทำให้คุณดูพิเศษ
ลองสังเกตตัวเองดูว่าตัวเรามีดีอะไรเป็นพิเศษ เช่น พูดได้สี่ภาษา วาดภาพได้ดี มีมนุษยสัมพันธ์ในการสร้างเพื่อนใหม่ ๆ หรือแม้แต่เรื่องง่ายๆ อย่างเช่นรู้จักร้านอร่อยแถวบ้าน ซึ่งคนทั่วไปไม่ค่อยรู้ ก็ถือว่าคือเรื่องพิเศษที่คุณมีไม่เหมือนใคร จงเชื่อเถอะว่าคนทุกคนมีดีในแบบที่ตัวเองเป็น และใช่ว่าทุกคนจะทำสิ่งเหล่านี้ได้อย่างที่เราทำ
TIP : “มีดี” อาจไม่ได้แปลว่า ดีหรือเก่งที่สุด แต่อาจหมายถึงสิ่งที่ทำแล้วดีต่อใจ พอชอบสิ่งนั้น เราก็จะทำได้ดี
- ลดความไม่มั่นใจ
การรู้สึกไม่มั่นใจไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะทุกคนล้วนมีเรื่องไม่มั่นใจด้วยกันทั้งนั้น ลองสำรวจดูว่าเราไม่มั่นใจในเรื่องอะไร แล้วจดรายการเรื่องเหล่านั้นออกมา เพื่อตรวจสอบดูว่าเราสามารถแก้ไขได้ไหม บางเรื่องอาจเป็นปัญหาเล็ก ๆ ที่หากมองดี ๆ อาจไม่ใช่เรื่องที่ทำให้เราต้องเสียความมั่นใจก็ได้
TIP : “ไม่มีใครสมบูรณ์แบบ” อย่าคิดมาก
- เขียนสิ่งที่ต้องการพัฒนา
มองตัวเองอย่างซื่อสัตย์ แล้วเลือก ‘ข้อเสีย’ ที่ต้องการแก้ไขและทำให้ได้ เช่น ถ้ารู้สึกว่าตัวเองเป็นคนตื่นสาย ลองหัดตื่นเช้าขึ้นด้วยการตั้งนาฬิกาปลุกเร็วขึ้นกว่าเดิมทีละนิด เช่น 5 หรือ 10 นาที แล้วค่อย ๆ ขยับไปเรื่อย ๆ จนถึงเวลาที่ตั้งใจไว้
TIP : หาเวลานิ่งๆ 10-15 นาที หยิบกระดาษปากกาขึ้นมาเขียนข้อดีและข้อเสีย แล้วเลือกข้อเสียที่สุดมาหนึ่งเรื่อง แล้วจัดการมันซะ
- หัวเราะให้ตัวเอง
ไม่มีใครที่สมบูรณ์แบบ ดังนั้นจึงไม่แปลกถ้าบางครั้งเราจะทำอะไรผิดพลาดไปบ้าง อย่ากังวลเกินไป ผ่อนปรนให้ตัวเองบ้าง หัวเราะให้กับความผิดพลาดนั้น แล้วเริ่มต้นใหม่
TIP : คนที่หัวเราะหรือมีอารมณ์ขันจะมีอายุยืนกว่าคนที่ไม่ค่อยหัวเราะ
- ยินดีกับสุขภาพของตัวเอง
‘ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ’ พุทธวจนนี้ยังคงเป็นจริงเสมอ แต่คนส่วนใหญ่อาจไม่ได้นึกถึง กว่าจะรู้ซึ้งก็ตอนที่ป่วยหนัก ฉะนั้นหากวันนี้เรามีสุขภาพแข็งแรง เดินสบาย กินอร่อย นอนหลับได้สนิท จงยินดีกับความปกตินี้เถอะ ว่าเราช่างโชคดีจริง ๆ
TIP : สุขภาพดีไม่ได้หมายถึงเอวโค้งเว้าหรือกล้ามเนื้อหน้าท้องเป็นลอนสวย แต่คือการไม่เจ็บป่วยและมีชีวิตอย่างปกติสุข
- พูด “ขอบคุณ” เสมอ
การพูดคำ “ขอบคุณ” ต่อสิ่งต่าง ๆ ที่มีและเป็นอยู่ตอนนี้ จะช่วยให้เราตระหนักถึงคุณค่าของสิ่งที่มีอยู่มากกว่าจะไปหมกมุ่นถึงสิ่งที่ขาดและอยากได้มา ลองมองดูสิ่งที่เรามีอยู่ในตอนนี้ แม้รองเท้าที่สวมจะคู่เก่าไปบ้าง แต่อย่างน้อยมันก็พาเราเดินไปไหนมาไหนได้ในทุก ๆ วัน หรือแม้แต่เพื่อนและคนใกล้ตัวที่คอยเป็นเพื่อนคุยและเป็นที่ปรึกษา นั่นก็เป็นเหมือนของขวัญในชีวิต
TIP : “คำว่า ขอบคุณ คือกุญแจสำคัญของความสุข”
- ออกกำลังกาย
ออกกำลังกายนั้นดีและไม่ยาก แค่ 30 นาที 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ ก็ช่วยทำให้เรามีสุขภาพที่ดี แถมยังทำให้เรารู้สึกดีกับตัวเองด้วย ลองหากีฬาที่ชอบ เช่น โยคะ วิ่ง ปั่นจักรยาน ตีปิงปอง เล่นฟุตบอล หรืออะไรก็ได้ แล้วเริ่มต้นตั้งแต่วันนี้เลย
TIP : วิ่งหรือเดิน 30 นาทีต่อวัน ป้องกันการเพิ่มของน้ำหนักตัว
- กินอาหารที่ดีต่อสุขภาพ
กินอาหารไม่ดี ร่างกายก็ย่ำแย่ ใจก็ยากที่จะเบิกบาน ลองหันมากินอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ลดหวาน ลดมัน ลดรสจัด ทานผักและผลไม้ โปรตีนและคาร์โบไฮเดรตอย่างพอดี จะช่วยให้สุขภาพดีขึ้น ขับถ่ายสะดวก บวกกับรูปร่างที่ดีกว่าเดิม นั่นจะส่งผลดีต่อใจของเราอีกด้วย
TIP : “กินน้อยตายยาก กินมากตายเร็ว” คาถาสั้น ๆ ที่ นพ.เฉก ธนะศิริ ผู้เฒ่าวัย 94 ปี ที่ยังแข็งแรงให้ไว้
- เลือกสิ่งที่ชอบบนร่างกาย
ไม่จำเป็นต้องหล่อสวยแบบดารา เราก็รักหน้าตาหรือร่างกายของเราได้ แค่เลือกหนึ่งหรือสองสิ่งบนร่างกายที่ชอบ หรืออาจมีคนชมให้ได้ยินบ่อย ๆ เช่น ตาหรือปาก นิ้วหรือเรียวขา แก้มกลม ๆ ลักยิ้มเก๋ ๆ ก็ได้ สิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้ บางทีก็เป็นเสน่ห์และทำให้เราดูน่ารักในแบบของตัวเอง ยากที่ใครจะลอกเลียนแบบได้
TIP : การมองเห็นความสวยงามจากสิ่งใกล้ตัวไม่ใช่เรื่องยาก ฝึกได้ด้วยการลองมองหาความงามจากจุดที่เราอยู่ แล้วจะพบว่าทุก ๆ ที่มีความสวยงามเสมอ แม้แต่ตัวของเราเอง
- ดูแลผิวหน้าของตัวเอง
การปล่อยให้ใบหน้ามีคราบมันเยิ้มเป็นคราบเพราะเหงื่อไคล บางทีอาจเป็นสัญญาณของการละเลยที่จะดูแลตัวเอง ดังนั้น ลองล้างหน้าทุกวัน ใช้ครีมบำรุงผิวเพิ่มเติมดูสักหน่อย สิ่งเล็ก ๆ นี้จะช่วยให้ผิวหน้าของเราผุดผ่องมากขึ้น พอหน้าผ่องแล้วส่องกระจกเราจะภูมิใจกับตัวเราในกระจกว่าเราก็ดูดีได้เหมือนกัน
TIP : ควรล้างหน้าด้วยน้ำอุณหภูมิห้อง จะช่วยรักษาความชุ่มชื้นบนใบหน้า
- มุ่งเป้าหมายในส่วนที่ถนัด
มีคนส่วนน้อยที่ได้ทำงานที่ชอบร้อยเปอร์เซ็นต์ หากงานที่ทำมีบางอย่างชวนให้หงุดหงิดหรือน่าเบื่อ ลองมองหาจุดที่ชอบและถนัดในงานนั้น แม้จะเป็นจุดเล็ก ๆ อย่างการได้ออกเดินทาง การได้ใช้ความคิดเงียบ ๆ คนเดียว หรือการได้เรียนรู้แนวความคิดใหม่ ๆ อะไรก็ได้สักอย่างที่สอดรับกับตัวเรา แล้วพุ่งความสนใจไปที่งานส่วนนั้น ตั้งใจทำ และลองหาทางต่อยอดจากสิ่งที่ชอบดู ไม่แน่อาจได้เห็นโอกาสใหม่ให้เราได้เข้าใกล้งานที่ชอบมากขึ้น
TIP : หมั่นสังเกตดูว่า สิ่งใดที่ทำแล้วไม่ฝืน รู้สึกเป็นธรรมชาติ สิ่งนั้นอาจเป็นสิ่งที่เราถนัด
- รักเพื่อนร่วมงาน
ทุกคนต่างอยากเป็นเพื่อนกับใครสักคน เพื่อนร่วมงานของเรา (รวมถึงตัวเรา) ก็เช่นกัน ถึงแม้เพื่อนร่วมงานของเราจะไม่มีอะไรเหมือนกันเลย มีวิถีชีวิตและความคิดต่างจากเรามาก ก็ไม่ได้หมายความว่า เราจะให้ความเป็นมิตร ทำความรู้จัก และชื่นชมในตัวคนที่ทำงานด้วยไม่ได้ ลองสร้างมิตรภาพให้เกิดขึ้นกับเพื่อนสักคน แล้วคุณจะรู้สึกอยากตื่นไปทำงานมากขึ้น
TIP : “จงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง” (คัมภีร์ไบเบิล, มัทธิว 22:37–39)
- อ่านข่าว
โลกเปลี่ยนไปทุกวัน การติดตามข่าวสารต่าง ๆ ว่าเหตุการณ์บ้านเมืองในช่วงนี้เป็นอย่างไร จะช่วยให้เรามองโลกได้กว้างขึ้น ไม่ตกยุค และยังช่วยให้เรามีคลังความรู้เอาไปต่อยอดในชีวิตประจำวัน รวมถึงช่วยให้มีบทสนทนาที่น่าสนใจเวลาคุยกับคนอื่นอีกด้วย
TIP : โหลดแอพอย่าง Twitter, Flipboard, Feedly, Google News ติดโทรศัพท์ไว้ รับรองไม่พลาดข่าวสำคัญ
- เรียนรู้ภาษาใหม่
การรู้ภาษาใหม่คือการเปิดโลก เพราะจะช่วยให้เราเข้าถึงข้อมูล ความรู้ รวมถึงวัฒนธรรมที่อยู่ในภาษานั้น ๆ นอกจากนี้ยังช่วยให้เราได้เพื่อนใหม่ และช่วยเปิดโอกาสใหม่ ๆ ให้กับชีวิตของเราอีกด้วย
TIP : อยากเรียนภาษาอะไร ลองค้นหาในอินเทอร์เน็ตได้เลย ในกรณีที่อยากเรียนภาษาอังกฤษ ขอแนะนำแอพ BBC Learing English
- ให้เวลากับตัวเอง
เวลาเป็นสิ่งมีค่า การใช้เวลาไปกับอะไร บ่งบอกว่าเราให้คุณค่ากับสิ่งใด ถึงบางวันเราจะยุ่งไปบ้าง แต่อย่าลืมเผื่อเวลาให้กับตัวเอง อาจจะเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ สักชั่วโมงต่อวันไว้สำหรับทำสิ่งที่รัก เช่น อ่านหนังสือ ฟังเพลง ดูละครก่อนนอน หรือนั่งสมาธิ เพราะในยุคที่เร่งรีบ เวลาคือความหรูหรา ที่แม้แต่เศรษฐีก็อาจหาได้ยากกว่าคนธรรมดาที่รู้จักให้เวลากับตัวเอง
TIP : การตื่นเช้าคือจุดเริ่มต้นของการบริหารเวลา
- พักผ่อนให้เพียงพอ
รู้หรือไม่แค่นอนพักผ่อนให้เพียงพอ ก็ช่วยให้ร่างกายมีสุขภาพดีและสดใส ลองพยายามเข้านอนในเวลาเดิมที่ไม่ดึกจนเกินไป วางความกังวลทิ้งไว้ข้างหมอน แล้วจะได้นอนหลับเต็มตื่น เพื่อมีแรงพลังในการเริ่มต้นวันใหม่
TIP : วางสมาร์ทโฟนให้ห่างตัว แล้วทำสมาธิก่อนนอน จะช่วยให้การนอนมีคุณภาพมากขึ้น
- รักพ่อแม่
บางเวลาชีวิตก็พัดพาเราให้ไกลบ้าน จนลืมว่าบุคคลที่รักเราที่สุดคือคนใกล้ตัวที่ดูแลเรามาตั้งแต่เกิดจนเติบใหญ่ แม้บางเวลาจะยุ่งมากแค่ไหน ลองหาเวลาสักห้านาทีโทรหาพูดคุย และแวะไปหา ใช้เวลาโอบกอดสนทนา หรือออกไปเที่ยวด้วยกัน เชื่อเถอะว่าช่วงเวลาเล็ก ๆ เหล่านี้ จะสร้างความสุขให้เราและพ่อแม่จนรู้สึกอิ่มในหัวใจ
TIP : “ใครหนอรักเราเท่าชีวัน ใครหนอใครกันให้เราขี่คอ…” ยังจำความรู้สึกตอนที่ร้องเพลงนี้ได้หรือเปล่า
- รักพี่น้องของคุณ
ถึงจะไม่ได้คุยกันบ่อย ขัดแย้งกันบ้าง แต่สายใยของพี่น้องนั้นยากจะตัดขาด หากมีเวลาลองถามไถ่พี่น้องของเราบ้างว่า ช่วงนี้เป็นอย่างไร ปรึกษาช่วยเหลือกันบ้างตามกำลัง เพราะหลายครั้งเวลาโตขึ้น หน้าที่และภาระที่มีก็ทำให้เราต่างหลงลืมเพื่อนที่ดีที่สุดคนนี้
TIP : หาเวลานัดกินข้าวตามประสาพี่น้องกันเดือนละครั้ง จะช่วยกระชับความสัมพันธ์ได้
- เรียนรู้ที่จะยอมรับคำขอโทษ
ไม่มีใครไม่เคยพลาดพลั้ง หากเพื่อนหรือคนสำคัญเดินเข้ามาขอโทษอย่างจริงใจ เพราะพวกเขาทำบางอย่างลงไป จงยกโทษและให้อภัย ไม่เป็นไรนะ ไม่เป็นไร รู้สึกไหมว่าหัวใจกำลังพองโต
TIP : “คนที่อ่อนแอไม่เคยรู้จักการให้อภัย การให้อภัยเป็นคุณลักษณะของคนเข้มแข็ง” มหาตมะ คานธี
- พูด “ขอโทษ” เสมอเมื่อทำผิด
บางครั้งเราเองก็เป็นฝ่ายผิด อาจโดยตั้งใจหรือพลั้งเผลอ จงยอมรับในความผิดพลาด แล้วกล่าวขอโทษคนที่เราทำผิด แม้อีกฝ่ายจะไม่สนใจหรือยอมรับคำโทษก็ไม่เป็นไร เพราะอย่างน้อยที่สุดในฐานะคนที่ทำผิด เราได้ทำสิ่งที่ควรทำ และกล้าหาญที่จะยอมรับความผิดนั้นแล้ว ซึ่งสิ่งนี้จะทำให้เราไม่มีอะไรติดค้างในใจ
TIP : ขอโทษด้วยด้วยคำง่ายๆ จริงใจ และอย่าอ้างนั่นอ้างนี่
- ชื่นชมธรรมชาติ
ธรรมชาติช่วยให้มีความสุขอย่างรู้สึกได้ ลองมองหาพื้นที่สีเขียวในละแวกบ้านหรือที่ทำงาน ไม่จำเป็นต้องเป็นสวนสาธารณะใหญ่ แค่เป็นพื้นที่เล็ก ๆ หรือสวนหย่อมที่มีต้นไม้โอบล้อม แล้วมองหาม้านั่งหรือต้นไม้ที่ให้ความรู้สึกว่านี่คือ “ที่ของฉัน” ที่ให้เราสามารถนั่งทอดอารมณ์ได้อย่างสงบสุข
TIP : การออกเดินเล่นแถวบ้านและที่ทำงาน จะช่วยให้เราพบมุมสงบง่ายขึ้น
- ออกไปขับรถเล่นบ้าง
การออกเดินทางเปลี่ยนบรรยากาศ ไม่ว่าจะขับรถ ปั่นจักรยาน เพื่อเสาะหาสถานที่น่าสนใจใกล้บ้านในวันหยุด เช่น ห้องสมุด สวนสาธารณะ ร้านกาแฟลับ ร้านหนังสือ รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวในชุมชน จะช่วยเปิดหูเปิดตาให้เรารู้จักย่านที่อยู่อาศัยมากขึ้น ว่าในละแวกบ้านที่เราอยู่ ยังมีอะไรให้ค้นหาเยอะกว่าที่คิด
TIP : เปิด Google Maps แล้วค้นหาของดีที่ซ่อนอยู่ในละแวกบ้านกันเถอะ
- ทำความสะอาดทุกซอกทุกมุม
ความสกปรกนอกจากจะส่งผลต่อสุขภาพแล้ว ยังไม่เจริญตาเจริญใจ การทำความสะอาด จัดสิ่งของต่างๆ ให้เข้าที่และเป็นระเบียบ ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะทำงาน หรือห้องหับต่าง ๆ โดยเฉพาะพื้นที่ที่เราใช้เป็นประจำ จะช่วยให้ชีวิตในแต่ละวันราบรื่น เรียบง่าย ไม่วุ่นวาย หรือต้องหงุดหงิดกับเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างการหาของไม่เจอ
TIP : วิธีง่ายๆ ที่ช่วยให้บ้านเป็นระเบียบและสะอาด คือจัดการแยกของที่ไม่ได้ใช้หรือไม่จำเป็นออก
- ล้อมรอบด้วยสิ่งที่คุณรัก
ของที่มีคุณค่าทางใจคือวัตถุแห่งความทรงจำ การตกแต่งบ้านด้วยรูปของคนที่เรารัก ของฝากจากการท่องเที่ยวในวันหยุดที่แสนสนุก หรือภาพวาดที่เราชอบ จะย้ำเตือนว่าอะไรที่ทำให้เรามีความสุข และทำให้เรารู้สึกดีที่อยู่บ้าน ราวกับบ้านนั้นเป็นวิมานของเรา
TIP : ของสิ่งใดเห็นแล้วทำให้อมยิ้มได้ นั่นแหละ ของที่จุดประกายความสุข
จะเห็นได้ว่าความสุขในชีวิตนั้นสร้างได้ไม่ยาก สามารถสร้างได้เองจากแนวความคิดของตัวเราที่มีต่อสิ่งต่าง ๆ รอบตัว แค่คิดชีวิตก็เปลี่ยน ลองคิดเปลี่ยนตัวเราปรับปรุงให้ดีขึ้นด้วยวิธีเหล่านี้ เพื่อที่จะได้รับความสุขง่าย ๆ ได้ในทุกวันค่ะ