10 ประโยชน์และสรรพคุณของ “ใบบัวบก” วิธีทำน้ำบัวบกที่น่ารู้
บัวบก หรือ ใบบัวบก เป็นพืชล้มลุกขนาดเล็ก มีกลิ่นฉุน มีรสขมหวาน มีต้นกำเนิดในแถบเอเชีย เป็นพืชผักสมุนไพรที่มีสรรพคุณมากมาย ซึ่งได้รับการกล่าวขานเกี่ยวกับการรักษาโรคได้หลายชนิด เพราะมีสารประกอบสำคัญหลายอย่าง เช่น บราโมซัยด์ บรามิโนซัยด์ ไตรเตอพีนอยด์ เป็นต้น ซึ่งมีฤทธิ์ช่วยต้านการอักเสบ นอกจากนั้น ยังมีกรดมาดิแคสซิค วิตามินต่าง ๆ และแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อร่างกายหลายชนิด ใบบัวบก จึงมีสรรพคุณมาก บางตำราบอกสรรพคุณของใบบัวบกมีถึง 86 ข้อ แต่ในที่นี้จะนำมากล่าวเฉพาะประโยชน์ที่สำคัญและจำเป็น 10 ข้อ คือ
1.ช่วยบำรุงและรักษาสายตา ฟื้นฟูรอบดวงตา เพราะมีวิตามินเอสูง
2.ช่วยรักษาโรคเบาหวาน คือช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยโรคเบาหวานได้ดี
3.ช่วยแก้อาการปวดศีรษะ ปวดศีรษะข้างเดียว หรืออาการวิงเวียนศีรษะ
4.ช่วยคืนความอ่อนเยาว์ ย้อนอายุและวัย ทำให้หน้าตาสดใสเหมือนเป็นวัยรุ่น
5.ช่วยต่อต้านโรคมะเร็ง ในใบบัวบกมีสารยับยั้งหรือชะลอการขยายตัวของเซลล์มะเร็ง
6.ช่วยรักษาโรคความดันโลหิตสูง ใช้ต้นสด 1 กำมือ ต้มกับน้ำแล้วนำมาดื่ม ประมาณ 5 - 7 วัน
7.ช่วยแก้อาการช้ำใน การบาดเจ็บจากการกระทบกระแทก
8.ช่วยรักษาโรคนิ่วทางเดินปัสสาวะ ใช้ใบบังบก 50 กรัมต้มกับน้ำซาวข้าวครั้งที่ 2 แล้วนำมาดื่ม
9.มีฤทธิ์ต้านไวรัส กรดเอเซียติกในบัวบกสามารถจับกับโปรตีนของไวรัส ส่งผลให้ไวรัสไม่สามารถเข้าสู่เซลล์และเพิ่มจำนวนได้
10.มีฤทธิ์ทางระบบประสาท ลดความเครียด อาการซึมเศร้า บำรุงสมอง ช่วยป้องกันโรคอัลไซเมอร์
วิธีทำน้ำบัวบกแบบง่าย ๆ
นำใบบัวบกทั้งต้นมาล้างด้วยน้ำเปล่าให้สะอาด หั่นต้นและใบเป็นท่อง ๆ ตามความเหมาะสม แล้วนำมาปั่นรวมกับน้ำเปล่า ใส่น้ำเปล่าลงไปให้ท่วมใบบัวบก กรองเอาแต่น้ำมาดื่ม หรืออาจใส่น้ำตาลลงบ้างเล็กน้อยเพื่อลดความขม
ข้อควรระวังในการรับประทานใบบัวบก
1. คนที่มีภาวะเย็นพร่อง หรือขี้หนาว ท้องอืดบ่อย ๆ ก็ไม่เหมาะที่จะรับประทานใบบัวบก
2. อย่ารับประทานใบบัวบกปริมาณมากเกินไป เพราะจะทำให้ธาตุในร่างกายเสียสมดุล เนื่องจากใบบัวบกเป็นยาเย็น
3. ไม่แนะนำให้เด็กรับประทาน และผู้ใหญ่วัย 65 ปีขึ้นไป ควรรับประทานแต่น้อย