มนต์รักวัวชน หนังตลกไทยของเอกชัย เปิดตัวคว้ารายได้หลักแสนทั่วกรุงเทพฯ ในวันแรก
เอกชัย ศรีวิชัย ศิลปินชั้นนำของชาวใต้ในฐานะผู้กำกับภาพยนตร์ สร้างผลงานเข้าฉายโรงภาพยนตร์มาแล้ว 4 เรื่อง โดย หนังตลกที่เน้นชาวใต้เป็นหลักอย่าง มนต์รักดอกผักบุ้ง ประสบความสำเร็จสูงสุดด้านรายได้ ตามด้วยเรื่องตลกโรแมนติกที่เน้นชาวอิสานเป็นหลัก อีหล่าเอ๋ย ประสบความสำเร็จด้านคำวิจารณ์ และ สีดา หนังชีวิตรักเศร้าเฉพาะกลุ่มที่ประสบความสำเร็จกับชาว LGBT หลังจากมีงานสามเรื่องติดกันนี้ เอกชัยก็เว้นวรรคไปนานจนถึงภาพยนตร์เรื่องล่าสุด มนต์รักวัวชน เข้าฉายตั้งแต่ 30 มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา โดยทำรายได้ในวันแรกวัดเฉพาะกรุงเทพฯ ปริมณฑล และเชียงใหม่ได้เป็นหลักแสน เนื่องจากมีรอบฉายน้อยมาก แต่คาดว่าจะทำรายได้เป็นหลักล้านในภาคใต้
มนต์รักวัวชน เป็นภาพยนตร์แนว รัก ตลก ชีวิต นำแสดงโดยดาราจากมนต์รักดอกผักบุ้งเกือบยกชุด ทั้งตัวเอกชัย ศรีวิชัย ลิลลี่ เลิกคุยทั้งอำเภอ พลตรี แสงมณี ไพศาล ขุนหนู อาภาพร นครสวรรค์ หม่ำ จ๊กมก ส่วนตั๊กแตน ชลลดา ก็เคยงานกันมาอีหล่าเอ๋ย นอกนั้นก็มีดาราสมทบอีกคับคั่ง เนื้อหากล่าวถึง 3 ครอบครัวที่เป็นนักเลงวัวชนที่มีปัญหาต่อกันมาตั้งแต่รุ่นพ่อ ส่วนรุ่นลูกก็มีทั้งที่รักกันและเป็นศัตรูกัน ทุกครอบครัวชิงดีชิงเด่นกันในด้านวัวชนมาตลอด บ้างก็เอาชนะด้วยเล่ห์กลโกง เมื่อความขัดแย้งใกล้จะถึงจุดแตกหัก ก็ดันมีคนร้ายเข้ามาแทรกในเหตุการณ์อย่างไม่คาดฝันอีก
รีวิวแบบไม่สปอยล์ ตามที่เห็นตัวอย่างแล้วแทบไม่อยากคาดฝันใดๆ เนื่องจากไม่ชอบมุกตลกหลายมุกเท่าที่เห็น และไม่ชอบความโหดร้ายของการแข่งขันวัวชน แต่เมื่อได้ดูเพราะใช้เอ็มพาสไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มและมีเวลาว่าง ก็พบว่าหนังมีอะไรดีๆ กว่าที่คิด เช่นวิวทุ่งนาป่าเขาที่ถ่ายมุมสูงได้อย่างสวยมาก ความเข้าใจในความแตกต่างของการเป็นนักเลงวัวชนกับนักพนันวัวชน (แต่ก็ไม่ชอบความโหดร้ายอยู่ดี) มิตรภาพที่ตกทอดกันระหว่างรุ่นสู่รุ่น บทตลกที่ยังมีตลกใหม่ๆ แปลกๆ ทะลึ่งๆ ให้ได้ขำบ้าง (ที่แป้กก็ยังมีอยู่) มีฉากเซ็กซี่ของพระเอกหน้าหวานพลตรีหุ่นดีมาก นักแสดงเล่นอยู่ในระดับที่ใช้ได้ แต่ 3 ดาราใหญ่ทั้งพี่หม่ำ เอกชัย และ อาภาพร นครสวรรค์ ก็ดูเหมือนจะขโมยซีนได้หมด
ใครสนใจหนังตลกไทยเรื่องนี้วันนี้หาชมได้ในโรงภาพยนตร์นะครับ โปรดตรวจสอบรอบฉายเพราะมีรอบน้อยมาก เว้นบางสาขาที่ยังมีเต็มวัน บางโรงอาจมีสติ๊กเกอร์แจกด้วยถ้าเขายังมีแจก เพราะนี่ได้มาปึกหนึ่ง เราก็เลยคุยแบบค่อนข้างอวยนิดหนึ่ง ใครที่ดูแล้วไม่เห็นด้วยไม่ว่ากันนะครับ