ธอร์ 4 เทพเจ้าสายฟ้า ด้วยรักและอัสนี ทำเงินไร้คู่แข่ง ทั่วไทย 140 ล้านบาท ทั่วโลก 300 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ (แถมชาร์ทหนังทำเงินประจำปีนี้ทั่วโลกและรีวิว)
ภาพยนตร์ของมาร์เวลเรื่อง ธอร์ ภาค4 เทพเจ้าสายฟ้า ด้วยรักและอัสนี Thor: Love And Thunder เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ประเทศไทยตั้งแต่วันพุธที่ 6 กรกฎาคม 2565 โดยที่ไม่มีภาพยนตร์เรื่องอื่นเข้าฉายในสัปดาห์เดียวกันเลย ทำให้กวาดรายได้อย่างถล่มทลายสบายๆ ด้วยการเปิดตัวทั่วประเทศสุดสัปดาห์แรก 5 วัน 140.3 ล้านบาท ซึ่งตัวเลขใกล้เคียงกับอเมริกาที่เปิดตัวหลังไทย 2 วัน รวมสามวันได้ 143 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ (ตัวเลขคล้ายกันตรง 143 ต่างกันที่ค่าเงินนะครับ) สัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์ที่ออกฉายพร้อมกันนอกอเมริกา 47 แห่ง(รวมไทย) ได้มากกว่าที่คาดการณ์คือ 159 ล้าน เมื่อรวมกับอเมริกา(ที่ต่ำกว่าคาดการณ์) เท่ากับ 302 ล้าน $ โอกาสที่จะไปได้ถึงพันล้านค่อนข้างยาก เพราะก่อนหน้านี้ ด็อกเตอร์เสตรนจ์ จอมเวทย์มหากาฬในพหุจักรวาลมหาภัย เปิดตัวทั่วโลกไป 400 ล้าน จนป่านนี้ยังอยู่ที่ 953 ล้าน
อย่างไรก็ดี ถือว่า ธอร์ ภาคนี้เป็นภาคที่ประสบความสำเร็จทางด้านรายได้เปิดตัวสูงสุดกว่า ธอร์ ทุกภาค แต่จะทำรายได้ปิดโปรแกรมได้สูงสุดหรือไม่นั้นก็เป็นสิ่งที่น่าลุ้น เพราะเรื่องนี้คือเรื่องสุดท้ายของฤดูกาลซัมเมอร์ร้อนๆ ประจำปีในสหรัฐฯ จากนั้นฤดูฟอลหรือใบไม้ร่วงจะไม่มีหนังฟอร์มยักษ์เข้าฉายเลย(ถ้าไม่นับ BLACK ADAM ที่นักวิเคราะห์และคอหนังส่วนใหญ่เห็นว่านอกสายตา) กว่าจะมีหนังใหญ่อีกครั้งในโลก ต้องรอกันถึงเดือนธันวาคม กับภาพยนตร์เรื่อง อวตาร วิถีแห่งสายน้ำ ทำให้จากเวลานี้ถึงเวลานั้น ธอร์ อาจยืนโรงฉายแช่ได้นานกว่าหนังฟอร์มยักษ์เรื่องอื่นๆ ก่อนหน้า จึงมีเวลาที่จะเก็บเล็กผสมน้อยทำรายได้เกินหน้าภาคก่อนๆ ได้โดยง่าย การเปิดตัวที่อเมริกา 143 ล้านนี้เป็นรองเพียง ด็อกเตอร์เสตรนจ์ 2 และจูราสสิคเวิลด์ 3 เท่านั้น ขนาดท็อปกันเปิดตัวต่ำกว่าในเวลาที่หนังใหญ่ชุกชุม ขณะนี้ยังทำได้เกือบ 1200 ล้านทั่วโลก ดังนั้นถือว่าธอร์มีโอกาสมากกว่าเยอะ ภาคแรกทำได้ 400 ภาคสอง 600 ภาคสาม 800 กับเวลาที่เหลืออีกมากมายนั้นไม่น่าจะยาก
สิ่งที่เป็นอุปสรรคเพียงประการเดียวนั่นคือเรื่องนี้ไม่ได้มีคนดูชอบมากอย่างที่คิด แถมนักวิจารณ์ก็ให้คะแนนต่ำ ใน IMDb นักวิจารณ์ให้เฉลี่ย 58/100 ประชาชน 7/10 ในเว็บมะเขือนักวิจารณ์ชอบ 68% คนดู 81% (ที่จริงไม่น่าจะถือว่าต่ำนะ ฟาสท์กับไดโนเสาร์ต่ำกว่านี้ตั้งเยอะ)
ธอร์ 4 ได้เรท PG13 ความยาว 1 ชั่วโมง 58 นาที ประเภทแอ็คชั่น ผจญภัย ตลก แฟนตาซี โรแมนติก และไซไฟ กำกับโดยผู้กำกับเดียวกับภาคที่แล้ว แร็กนาร็อก ไทกา ไวตีติ เจ้าของรางวัลออสการ์บทภาพยนตร์ยอดเยี่ยมจากโจโจ้แรบบิท เพลงประกอบโดยวง GUNS N ROSES 4 เพลงคือ Welcome to the Jungle, Paradise City, Sweet Child O'mine และ November Rain นำแสดงโดยพระนางคู่ขวัญตั้งแต่สองภาคแรก คริส เฮมสเวิร์ธ และ นาตาลี พอร์ตแมน ร่วมด้วยนักแสดงเจ้าของรางวัลออสการ์ถึง 4 คนคือ คริสเตียน เบล, รัสเซล โครว์, แมต เดม่อน และ มาลิสซ่า แมคคาร์ที่ นอกจากนี้ยังมีนักแสดงสมทบชื่อดังอีกมากมาย อาทิ ทีมการ์เดี้ยนออฟเดอะกาแล็คซี่ เป็นต้น
ธอร์ ถ่ายทำด้วยระบบไอแม็กซ์สามมิติ อาจเป็นได้ว่าคนดูระบบนี้จะชอบมากกว่าระบบปกติ (อ้างอิงจากข้อมูลวิเคราะห์ใน BOX OFFICE MOJO) เพราะอาจสนุกไปกับระบบด้วย ในขณะที่โรงปกติคนดูกันที่เนื้อหาของหนังอย่างเดียวเป็นส่วนใหญ่ ตัวผู้โพสท์เองก็มีโอกาสได้ดูระบบสามมิติ(มีแถมโปสเตอร์ ระบบธรรมดาแถมโปสการ์ด) ก็รู้สึกสนุกเช่นกันครับ เหมาะสำหรับคนชอบหนังตลกมากกว่าดราม่าแอ็คชั่น เรื่องนี้ตั้งแต่ภาคที่แล้วเน้นตลกกระจายฉากแอ็คชั่นก็ยังตลก ฉากดราม่าตัวละครควรจะทำให้คนดูร้องไห้ก็ยังตลก มีจุดหักมุมหลายแห่งทำให้ไม่สามารถเล่าหรือเปิดเผยเนื้อเรื่องได้ ถ้ามีโอกาสได้ดูก็ควรดูครับ เพราะไม่เหลือหนังฟอร์มยักษ์แล้วจนถึงปลายปี หนังมีความยาวไม่ถึง 2 ชั่วโมงควรอดทนรอให้หมดเอ็นเครดิตจะมีเนื้อเรื่องที่อาจทำให้มีความสุขและตื่นเต้นเพิ่มขึ้นก่อนออกจากโรง อนึ่ง ระบบสามมิติจะทำให้เห็นตูดเทพเจ้าขนาดใหญ่มากและเป็นสามมิติ แต่ข้อเสียก็คือแพะคู่ตัวใหญ่ก็จะแผดเสียงดังหนวกหูกว่าโรงปกติเช่นกัน
อ้างอิงจาก: IMDb/ Box Office Mojo/ Variety/ Rotten Tomatoes/ Marvel/ Imax/ Major/ Disney