รีวิวซีรีส์ญี่ปุ่น :: "Tokyo Love Story กลรักกรุงโตเกียว" นำแสดงโดย อิโต้ เคนทาโร่, คิโยฮาระ โช, อิชิอิ อันนะ และ อิชิบาชิ ชิซูกะ
เมื่อนึกถึงซีรีส์ญี่ปุ่นแนวรักโรแมนติกผสมผสานดราม่าได้อย่างลงตัวที่สุดเรื่องหนึ่ง เชื่อว่าหลายคนนึกถึง ซีรีส์ญี่ปุ่นคลาสสิก "Tokyo Love Story" ที่ออกอากาศเมื่อปี 1991 โดยเรื่องนี้ดัดแปลงมาจากผลงานการ์ตูนที่ได้รับรางวัลของอาจารย์ “Saimon Fumi” แม้จะผ่านมานานถึง 31 ปี เรื่องนี้ก็ยังคงถูกพูดถึงอยู่เสมอ ๆ และเมื่อปี 2020 ได้มีการนำกลับมาสร้างใหม่อีกครั้ง เป็นการดัดแปลงเรื่องราวให้เข้ากับสมัยปัจจุบันมากขึ้น มาในปี 2022 ทาง “MONOMAX” (โมโนแมกซ์) ได้นำมาพากย์ไทย ภายใต้ชื่อ "Tokyo Love Story กลรักกรุงโตเกียว" ทำให้ได้อรรถรสในการชมอีกแบบหนึ่ง และแน่นอนว่าผ่านมา 2 ปีแล้ว ซีรีส์เรื่องนี้ก็ยังคงน่าติดตาม เราเชื่อว่าซีรีส์ความยาว 11 ตอน ตอนละไม่เกิน 1 ชั่วโมงนี้ จะสร้างความประทับใจให้ทุก ๆ คนที่รัก ซีรีส์ญี่ปุ่น รวมทั้งคนที่ได้ติดตามชมอย่างแน่นอน จากการแสดงของนักแสดงฝีมือคุณภาพ อิโต้ เคนทาโร่, คิโยฮาระ โช, อิชิอิ อันนะ และ อิชิบาชิ ชิซูกะ
→เรื่องย่อ←
"Tokyo Love Story กลรักกรุงโตเกียว" เป็นเรื่องราวของ นางาโอะ คันจิ (อิโต้ เคนทาโร่) เดินทางจากบ้านเกิดเข้ามาทำงานที่ โตเกียว ซึ่งที่นี่ มิคามิ เคนอิจิ (คิโยฮาระ โช) นักศึกษาแพทย์ และ เซกิงุจิ ซาโตมิ (อิชิอิ อันนะ) ครูสอนชั้นอนุบาล เพื่อนสนิทของเขาสมัยเรียนชั้นมัธยมใช้ชีวิตอยู่ที่โตเกียวอยู่ก่อนแล้ว การได้พบ "ซาโตมิ" อีกครั้ง แม้จะห่างหายกันไปนาน 5 ปี แต่ "คันจิ" ที่แอบชอบเธอมานาน ก็พบว่าเขายังรู้สึกต่อเธออย่างไม่เปลี่ยนแปลง "คันจิ" ได้ใช้โอกาสที่มาพบกันอีกครั้งสารภาพรักกับ "ซาโตมิ" แต่ "ซาโตมิ" ให้ได้แค่ความเป็นเพื่อนกับ "คันจิ" เท่านั้น เพราะในใจของเธอเองชอบ "เคนอิจิ" มาตลอด แม้ว่าจะเป็นไม่เบื่อไม้เมาทะเลาะกันอยู่เสมอ แต่หลังจากที่ "เคนอิจิ" รู้เรื่องการสารภาพรักเขาก็ตัดสินใจขอ "ซาโตมิ" เป็นแฟน
"คันจิ" เสียใจที่ถูกปฏิเสธ แต่เขาพยายามทำใจ เพราะยังรักในมิตรภาพของความเป็นเพื่อนของ "เคนอิจิ" และ "ซาโตมิ" เสมอ ขณะเดียวกัน "อากานะ ริกะ" (อิชิบาชิ ชิซูกะ) รุ่นพี่ที่ทำงาน ซึ่งเป็นผู้หญิงที่ทั้งสวย ทั้งเก่ง และมีความเป็นตัวของตัวเองสูง ได้เข้ามาใกล้ชิด "คันจิ" จึงเริ่มมีความรักอีกครั้ง กับคนที่มีสไตล์แตกต่างกับเขาโดยสิ้นเชิง แต่เส้นทางความรักของแต่ละคนต่างก็มีอุปสรรค ต้องเผชิญกับปัญหาต่าง ๆ มากมาย ท่ามกลางมิตรภาพในความเป็นเพื่อนที่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลงไป ขณะที่ใช้ชีวิตในกรุงโตเกียว เมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับต้น ๆ ของโลก
"Tokyo Love Story กลรักกรุงโตเกียว" เล่าเรื่องราวความรักในหลายรูปแบบ ทั้งเรื่องราวความรักในครอบครัว ที่เด่นชัดคือ "เคนอิจิ" ซึ่งมาจากครอบครัวนักธุรกิจที่ร่ำรวย แต่เขาไม่ต้องการที่จะสานต่อธุรกิจของครอบครัว จึงมาเรียนต่อที่ โตเกียว ด้วยสไตล์หนุ่มหล่อ เจ้าสำราญ ไม่แคร์ความรู้สึกของใคร
ทางด้านความรักทั้ง เคนอิจิ, คันจิ และ ซาโตมิ ต่างก็เริ่มจากความรู้สึกรักข้างเดียว ก่อนที่จะได้มารู้ความในใจของคนที่ตนรัก ขณะที่ "ริกะ" ผู้ซึ่งมีประสบการณ์ความรักมามากกว่าใครรู้ดีว่าความสัมพันธ์ส่วนใหญ่ เริ่มต้นมาจากรักข้างเดียวทั้งนั้น เธอจึงเป็นเหมือนตัวแทนของคนรุ่นใหม่ ที่จะต้องปรับตัวใช้ชีวิตอย่างมีความสุขให้ได้ทั้งเรื่องความรักและการทำงาน ใน โตเกียว เมืองใหญที่แสนจะวุ่นวายนี้
นอกจากเรื่องราวความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนของตัวละคร "Tokyo Love Story กลรักกรุงโตเกียว" เป็นซีรีส์ที่ถ่ายภาพเมือง โตเกียว ออกมาได้สวยมาก ฉากหลังของนักแสดงที่ได้เห็น "หอคอยโตเกียว" เป็นสัญลักษณ์ ทั้งช่วงเวลากลางวัน และกลางคืน เป็นภาพที่สวยงามจับใจ ทั้งภาพฉากหลังที่เป็นการใช้ชีวิตของผู้คนที่สัญจรไปมาบนท้องถนน บนรถไฟฟ้า สามารถถ่ายทอดออกมาได้อย่างมีชีวิตชีวา เมื่อภาพตัดมาที่ คันจิ และ ริกะ ที่ทำงานอยู่ที่บริษัทขนาดใหญ่ มีพนักงานจำนวนมาก ก็สอดคล้องกับภาพภายนอกกว้าง ๆ ที่ถ่ายโชว์ เมืองโตเกียว ได้อย่างลงตัวมาก ๆ ภาพเล่าเรื่องชีวิตคนทำงาน ความมุ่งมั่นในการทำงานของแต่ละคนได้อย่างตื่นตา ตื่นใจทีเดียว
"Tokyo Love Story กลรักกรุงโตเกียว" นอกจากเป็นซีรีส์ที่เนื้อเรื่องสนุกชวนติดตาม โชว์ภาพความยิ่งใหญ่ของ "กรุงโตเกียว" ให้เห็นกันแล้วยังสอดแทรกวัฒนธรรม ประเพณีที่สำคัญของญี่ปุ่นไว้ด้วย เชื่อว่าหลังจากดูจบหลาย ๆ คนอยากจะกิน "ข้าวญี่ปุ่น" ขึ้นมาทันที เรื่องนี้แนะนำเลยว่าไม่ควรพลาดค่ะ
♥♥ ♠♠ ♣♣ ♦♦♦
ขอบคุณภาพจาก MONOMAX โมโนแมกซ์