แหวนมาจากไหน แต่งงานกันทำไมต้องสวมแหวน?
แหวนมาจากไหน แต่งงานกันทำไมต้องสวมแหวน?
.
ดนตรีสุดคลาสสิกบรรเลง ดอกไม้สีสันสวยงามประดับประดามองชื่นตาเต็มไปหมด พร้อมกับการสวมแหวนของบ่าวสาว
.
เคยสงสัยกันไหมคะว่า ทำไมแหวนถึงกลายเป็นเครื่องประดับสื่อรัก ที่ไม่ว่าจะขอเป็นแฟน ขอหมั้น ขอแต่งงาน ก็จะต้องมีแหวนเป็นพระเอกอยู่เสมอ ยิ่งสมัยนี้ ถ้าหากแหวนใครแวววาว เพชรน้ำงามเม็ดโต ก็จะกลายเป็นคนที่น่าอิจฉาในแวดวงสังคมกันเลยทีเดียว
.
เมื่อเราจะสืบหาประวัติของแหวนนั้น ก็คงต้องย้อนเวลากลับไป ในสมัยอียิปต์โบราณเมื่อกว่า 4,000 ปีที่แล้ว ว่ากันว่าอียิปต์เป็นชนชาติแรกที่เริ่มนำแหวนเข้ามาใช้ในพิธีแต่งงาน แรกเริ่มเดิมทีนั้นแหวนถูกประดิษฐ์จากหญ้าปาปิรุสที่ทำมาถักทอให้เป็นวงเพื่อมอบให้แก่เจ้าสาวในวันวิวาห์
.
ด้วยถือคติว่าวงกลมไม่มีจุดเริ่มต้นและสิ้นสุด ดังนั้น แหวนจึงเป็นสื่อสัญลักษณ์ที่แสดงถึงความรักอันเป็นนิรันดร์อย่างไรก็ตาม ข้อจำกัดของแหวนที่ทำจากหญ้าปาปิรุสคือ ขาดความคงทนถาวร ชาวอียิปต์จึงได้นำวัสดุประเภทอื่นที่ทนทานมากกว่ามาใช้ทดแทน เช่น หนังสัตว์ เขาสัตว์หรืองาช้าง
.
วัฒนธรรมการมอบแหวนให้แก่เจ้าสาวในวันแต่งงานได้แผ่ขยายมาสู่จักรวรรดิโรมันอันรุ่งเรืองจะผิดแผกกันไปบ้างก็ตรงที่แหวนของชาวโรมันนั้นทำจากโลหะ* ด้วยเชื่อว่าความแข็งแกร่งของโลหะคือสัญลักษณ์ของความรักที่มั่นคงยืนยาวและสำหรับชาวโรมันนอกจาก ‘แหวน’ จะเป็นสื่อกลางที่แสดงออกถึงความรักระหว่างชายหญิงแล้ว ยังเป็นเครื่องบ่งชี้ความเป็นเจ้าของอีกด้วย และชาวโรมันนี้เองที่เป็นผู้ริเริ่มและนำธรรมเนียมการสวมแหวนแต่งงานที่นิ้วนางของมือข้างซ้ายจวบจนปัจจุบัน
.
แหม๋ๆ ทราบถึงประวัติอันหวานซึ้งอย่างนี้แล้ว ผู้เขียนชักจะอยากหาคนมาสวมแหวนให้สักวงจังเลยค่ะ แต่ก็คงได้แค่คิด แล้วรอซื้อแหวนที่แถมจากซองขนม คงเหมาะสมกว่า ฮ่าฮ่า