Krao Farini หญิงสาวจากสยาม..สู่เวทีละครสัตว์
เป็นเรื่องราวของหญิงสาวจากสยาม ที่มีเส้นขนดกปกคลุมทั่วทั้งตัวจนเธอถูกมองว่าเป็น "มนุษย์ประหลาด" จนถูกนำไปโชว์ตัวในละครสัตว์ ทั้งในยุโรปและสหรัฐอเมริกา นามของเธอคือ "เครา ฟารินี" (Krao Farini) งั้นเรามาติดตามชีวิตของเธอกันดีกว่า
ประวัติของเธอ
เธอเกิดในดินแดนลาวตอนเหนือของประเทศสยาม ในที่นี้หมายถึง "ลาวล้านนา" เธอถูกจับพร้อมกับพ่อและแม่ แต่ภายหลังพ่อเสียชีวิตไปก่อน ส่วนเธอก็ถูกพรากจากแม่ โดย "คาร์ล บ็อค" (Carl Bock) นักธรรมชาติวิทยาและนักสำรวจนำตัวเธอลงมายังกรุงเทพฯ ก่อนที่จะส่งเธอให้กับ "วิลเลียม ลีโอนาร์ด ฮันต์" (William Leonard Hunt) หรือที่รู้จักกันในนาม “The Great Farini” ซึ่งเลยเป็นที่มาของนามสกุล "ฟารินี" ของเธอในเวลาต่อมา และได้ไปยังประเทศอังกฤษเพื่อทำการแสดงโชว์
Signor_Farini_(William Leonard Hunt)_with_Krao_1883
ชาวตะวันตกฮือฮาความประหลาด
เธอเป็นที่ฮือฮาของชาวตะวันตกอย่างมาก การปรากฏตัวของเธอทำให้ชาวตะวันตกตื่นเต้นมองว่าเป็น "มนุษย์ประหลาด" จากดินแดนอันห่างไกล และยังนำไปเชื่อมโยงเข้ากับทฤษฎีของ "ชาร์ลส์ ดาร์วิน" (Charles Darwin) เพื่อชี้ว่ามนุษย์และลิงมีความเชื่อมโยงกัน
โดยในช่วงแรกเธอทำการแสดงที่ "London Aquarium" ในประเทศอังกฤษ ซึ่งดึงดูดฝูงชนจำนวนมาก ผู้คนนับร้อยนับพันยินดีจ่ายเงินเพื่อดู “สิ่งมีชีวิต” ที่อาจเป็นข้อพิสูจน์ถึงการเชื่อมโยงระหว่างสัตว์อย่างลิงกับมนุษย์ ต่อมาเธอเดินทางไปทำการแสดงกับคณะละครสัตว์ในสหรัฐอเมริกา ร่วมงานกับคณะ "ริงกลิงบราเดอร์ส" และ "บาร์นัมกับไบเลย์" (Ringling Bros. and Barnum & Bailey Circus)
Ringling Bros. and Barnum & Bailey Circus
เพราะมีการนำเอาลักษณะผิดปกติของเธอ ไปเป็นข้อพิสูจน์ทฤษฎีของชาร์ลส์ ดาร์วิน ดังที่ "เฟรดเดอริค ดริมเมอร์" (Frederick Drimmer) เขียนถึงเธอเอาไว้ในหนังสือ "Very Special People"
ข้อพิสูจน์ทฤษฎีของชาร์ลส์ ดาร์วิน
เธอถูกนำมาออกแสดงให้ชมเป็นครั้งแรกเมื่อต้นศตวรรษที่ 80 ของปี 1800 (ประมาณปี พ.ศ. 2423) หลังจากถูกนำตัวมาจากประเทศสยาม ซึ่งขณะนั้นเธอมีอายุเพียง 6 ขวบ จากนั้นก็ถูกพาไปยังสหรัฐอเมริกา จากการจัดการของฟารินีนักจัดการแสดงผู้มีชื่อเสียงของลอนดอน
ซึ่ง "เอช. เคาลิทซ์-จาร์โลว์" ผู้เป็นสมาชิกสถาบันชาติพันธุ์วิทยา ได้กล่าวทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับเคราเมื่อตอนอายุ 6 ขวบว่า...
เป็นสิ่งวิเศษสุดของการโต้แย้งเกี่ยวกับทฤษฎีของชาร์ลส์ ดาร์วิน ที่ว่ามนุษย์สืบเชื้อสายมาจากสัตว์โลกคล้ายลิง (ซึ่งจริงๆแล้วดาร์วินไม่เคยกล่าวว่ามนุษย์สืบเชื้อสายมาจากลิง) และผู้ที่เชื่อตามทฤษฎีนี้ก็หวังว่าจะพบสัตว์โลก ที่อยู่ตรงกลางระหว่างมนุษย์กับลิง และเธอก็ดูเหมือนจะเป็นอะไรที่พวกเขากำลังค้นหาอยู่พอดี
ลักษณะของเครา
"เอช. เคาลิทซ์-จาร์โลว์" กล่าวว่า..เธอมีลักษณะเหมือนกับลิงเป็นพิเศษ ผมนุ่มดำสนิทดกหนาปกคลุมศีรษะไปจรดหลัง ที่ด้านหลังของคอก็ขนแผงคอ ขนคิ้วนุ่มมันแผงใหญ่บังดวงตาเอาไว้ ตาดำนั้นดำและเป็นประกายแวววาว และเส้นผมกับขนก็ปกคลุมร่างกาย ซึ่งโครงสร้างใบหน้าของเธอคล้ายคลึงกับโครงสร้างใบหน้าของ "ลิงกอริลลา"
ด้านอุปนิสัยของเธอ
เธอมีนิสัยน่ารัก ท่าทางรื่นเริงเอาใจง่ายและชอบเล่น และถ้ามีใครให้ความสนใจแก่เธอ เธอจะรู้สึกดีและขอบคุณ แต่ถ้าเธอรู้สึกรำคาญแล้วล่ะก้อ สัญญาตญาณดิบของเธอจะปรากฎให้เห็นทันที โดยเธอจะทุ่มตัวลงกับพื้นแล้วร้องกรีดๆๆๆ เตะถีบ และระบายความโกรธด้วยการทึ้งผมตัวเอง ซึ่งอาการเหล่านี้จะคล้ายกับลักษณะลิงเหมือนกัน และเท้ากับริมฝีปากของเธอมีพลังยึดมากอย่างผิดปกติ
แต่ยังไงเธอก็เป็นเพียงมนุษย์คนหนึ่ง
แม้ว่าคำกล่าวถึงลักษณะของเธอจะแปลกประหลาดอย่างไร แต่เธอก็เป็นเพียงมนุษย์คนหนึ่งที่แค่มีขนดกทั่วทั้งตัวเท่านั้น เมื่อเธออายุได้ 16 ปี เธอมีผมยาว ขนยาวตามขาแขน และมีหนวดเคราขึ้น แม้ว่าจะมีลักษณะประหลาด แต่เธอก็คือมนุษย์ผู้หญิงคนหนึ่งอย่างไม่ต้องสงสัย เธอเป็นคนที่อ่านหนังสือมามากและสามารถพูดได้หลายภาษา เธอจึงเป็าดาวดวงเด่นของคณะละครสัตว์
วาระสุดท้ายของชีวิต
เธอใช้เวลาส่วนใหญ่ในชีวิตไปกับการทำการแสดง โดยในห้วง 20 ปีท้ายของชีวิต เธออาศัยอยู่ในย่าน "Upper East Side" ในแมนฮัตตัน นครนิวยอร์ก และเสียชีวิตด้วยโรคไข้หวัดใหญ่ เมื่อวันที่ 16 เมษายน ค.ศ. 1926 (พ.ศ. 2469 ต้นสมัย ร.7) โดยเสียชีวิตที่นิวยอร์ก เมื่ออายุได้ 49 ปี
ซึ่งในยุควิกตอเรียนเป็นยุคสมัยที่ชาวตะวันตกตื่นตาตื่นใจกับของแปลก และการค้นพบสิ่งใหม่ๆ เคราซึ่งถูกมองว่าเป็นมนุษย์ประหลาด และเป็นหนึ่งในเรื่องที่ชาวตะวันตกให้ความสนใจมาก แต่สำหรับวิทยาศาสตร์ในยุคหลังนั้นเธอคือ "Hypertrichosis" หรือที่บางคนเรียกว่า "โรคมนุษย์หมาป่า" เป็นความผิดปกติทางพันธุกรรม ทำให้มีขนยาวปกคลุมทั่วทั้งตัวนั่นเอง
ขอบคุณภาพต่างๆจาก : google, wikimedia