"Antinous" เด็กหนุ่ม..ผู้กุมหัวใจ "Hadrian"
ถ้าเอ่ยถึงประติมากรรมรูปเหมือน งานศิลปกรรมในยุคโบราณที่ถูกค้นพบและอนุรักษ์ไว้มากที่สุด คงหนีไม่พ้นรูปปั้นของ "แอนทิโนอุส" ที่มักปรากฎทั้งในรูปแบบชายหนุ่มทั่วไป และรูปแบบกึ่งเทพเจ้าที่เขาถูกนำไปเชื่อมโยง
ด้วยลักษณ์ใบหน้าอันหล่อเหลา ผมหยิก หน้าอกกว้าง รูปร่างสมส่วน ถือเป็นประติมากรรมที่ยอมรับโดยทั่วกันว่าคือ..ความงามอันลึกซึ้งของศิลปกรรทคลาสสิคยุคกรีก-โรมัน
แต่รู้หรือไม่ประติมากรรมหนุ่มรูปงามคนนี้คือเป็นคนที่ได้ "กุมหัวใจจักรพรรดิโรมัน" นามว่า "เฮเดรียน" (Hadrian) ซึ่งเป็นจักรพรรดิแห่งโรมัน (ค.ศ. 76-138, และครองราชย์ ค.ศ. 117-138) งั้นเรามาตามดูความรักของทั้งคู่กันดีกว่า
"แอนทิโนอุส" (Antinous) คือใคร ?
เขาเกิดวันที่ 27 พฤศจิกายน ค.ศ. 110 ณ เมืองคลอดิโอโปลิส (Claudiopolis) แคว้นไบธีเนีย ตอนเหนือของอนาโตเลีย หรือประเทศตุรกีฝั่งทวีปเอเชียในปัจจุบัน ซึ่งไบธีเนียในอดีตนั้นเป็นส่วนหนึ่งของโลกกรีกโบราณ และอยู่ในอาณาเขตการปกครองของจักรวรรดิโรมัน ดังนั้นเขาจึงเป็นชาวกรีกโดยกำเนิด และเป็นหนุ่มน้อยชาวกรีกที่มีใบหน้าอันงดงาม จนเป็นที่ต้องพระทัยตั้งแต่แรกเห็นของเฮเดรียนในทันที ในวัยเด็กเขาไม่ค่อยมีบันทึกอะไรไว้มากนัก
การพบกันครั้งแรก
ไม่มีหลักฐานว่าเฮเดรียนพบหนุ่มน้อยแอนทิโนอุสได้อย่างไร แต่ทราบว่าพวกเขาเจอกันเมื่อครั้งจักรพรรดิเสด็จเยือนเมืองไนโคเมเดีย (Nicomedia) ในแคว้นไบธีเนียช่วง ค.ศ. 123 เพื่อการฟื้นฟูเมืองหลังไนโคเมเดียเผชิญภัยพิบัติแผ่นดินไหว ซึ่งเขาอาจจะเป็นส่วนหนึ่งของคณะต้อนรับ หรือมาร่วมในงานเฉลิมฉลองการเสด็จมาของเฮเดรียนก็เป็นได้ จึงได้มีโอกาสได้พบกันในเหตุการณ์ครั้งนี้ ซึ่งถ้าสำหรับเฮเดรียนแล้วนี่คือการ "ตกหลุมรักตั้งแต่แรกพบ" กับหนุ่มน้อยวัย 13 ปีเท่านั้น
เฮเดรียนกับรสนิยมทางเพศ
จริงๆแล้วเฮเดรียนมีราชินีชื่อว่า "วิเบีย ซาบินา" (Vibia Sabina) ซึ่งเป็นคู่สมรสของพระองค์ แต่ความสัมพันธ์นั้นไม่ค่อยราบรื่นมาตั้งแต่แรกแล้ว เพราะรสนิยมทางเพศของเฮเดรียนนั้นไม่ใช่สตรี ดังนั้นพออายุล่วงเข้าปีที่ 47 ก็เป็นช่วงที่ได้พบหนุ่มน้อยแอนทิโนอุสที่ไนโคเมเดีย และได้อุปการะหนุ่มน้อยชาวกรีกผู้นี้ทันที ซึ่งสำหรับสังคมในยุคนั้นไม่ถือว่าความสัมพันธ์ระหว่างชายสูงวัยกับเด็กหนุ่มจะเป็นเรื่องผิด ตราบที่เป็นความยินยอมของทั้งสองฝ่าย ซึ่งสำหรับชาวโรมันแล้วจะไม่ได้มาแยกระหว่าง "รักร่วมเพศ" กับ "รักต่างเพศ"
การอุปการะส่งเสียเด็กหนุ่ม
เฮเดรียนพาหนุ่มน้อยแอนทิโนอุสมายังกรุงโรม และส่งเขาไปเรียนในสถาบันการศึกษา “Paedogogium” ซึ่งเป็นโรงเรียนฝึกสอนเด็ก ๆ สำหรับการรับใช้เหล่าวุฒิสมาชิกกับชนชั้นสูงในอนาคต รวมถึงฝึกเหล่าเด็กหนุ่มเพื่อมาเป็นมหาดเล็กส่วนพระองค์ของจักรพรรดิด้วย
สายเปย์อย่างสุดๆ
เฮเดรียนมอบความรักอย่างลึกซึ้งแก่หนุ่มน้อย มอบการศึกษาความรู้พื้นฐานทักษะทางสังคมในราชสำนัก มอบของขวัญสูงค่าต่างๆ และรวมถึงทักษะเรื่องเพศให้ด้วย และหลังจาก 2 ปีหลักการศึกษา เฮเดรียนก็พาเขาออกจากกรุงโรมที่วุ่นวายมาอยู่ในคฤหาสน์อันหรูหราบนเนินเขา ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองเป็นที่ที่เพียบพร้อมด้วยสวนดอกไม้ สระน้ำ, น้ำตก ,น้ำพุ, อ่างน้ำอุ่น, ห้องนอน, ห้องชุด, ห้องจัดเลี้ยง ที่แสนวิจิตรอันงดงาม
พร้อมข้าทาสบริวารผู้รับใช้ต่างๆไม่ว่าจะบริกร พ่อครัวและคนสวนอีกมากมาย และมีคอกม้ารวมถึงผู้ดูแลสำหรับการออกไปล่าสัตว์ ซึ่งถือว่าเป็นกิจกรรมที่เฮเดรียนชอบ ซึ่งเฮเดรียนจะพาเขาติดตามไปทุกที่และทุกครั้งหากเดินทางออกจากกรุงโรม
เฮเดรียนล้มป่วยด้วยโรคปริศนา
ในช่วงปี ค.ศ. 127 ระหว่างที่ทั้งสองเดินทางท่องเที่ยวทั่วคาบสมุทรอิตาลี เฮเดรียนก็ล้มป่วยด้วยโรคปริศนาและมีอาการเรื้อรังมาตั้งแต่บัดนั้น หมอหลวงต่างก็พยายามหาวิธีรักษา แต่ก็ไม่สามารถรักษาโรคให้หายขาดได้ โรคนี้จึงทำให้เฮเดรียนได้เข้าร่วมลัทธิลึกลับหนึ่งในดินแดนกรีก และแอนทิโนอุสก็อยู่ข้างกายเฮเดรียนตลอด จบพิธีกรรมก็ไปกรีซแคว้นจูเดียและซีเรีย ก่อนจะลงใต้ไปยังอียิปต์ในช่วงเดือนสิงหาคม ค.ศ. 130 ซึ่งคาดว่าการไปอียิปต์คือการไปรักษาโรคที่เป็นอยู่
สู่อียิปต์เพื่อรักษาโรคปริศนา
เฮเดรียนสนใจศาสตร์และพิธีกรรมของชาวอียิปต์ ดังนั้นการมาอียิปต์ก็เพื่อหาวิธีรักษาโรคของตน พร้อมกับท่องเที่ยวล่องเรือในคลองคาโนพิค (Canopic canal) และล่าสัตว์ด้วยกัน แต่มีเหตุการณ์ระทึกขวัญเกิดขึ้นระหว่างการล่า เมื่อแอนทิโนอุสถูกสิงโตจู่โจม เฮเดรียนช่วยเหลือและปกป้องเขาได้ทันพร้อมลงมือสังหารสิงโตตัวนั้นด้วยพระองค์เอง
การรักษาโรคของเฮเดรียน
ซึ่งที่เมืองเฮลิโอโปลิส (Heliopolis) ในอียิปต์ นักบวชชื่อ "Pachrates" ได้ปรุงยาและทำพิธีบางอย่างเกี่ยวกับการรักษาโรคของเฮเดรียน และไปยังเมืองเฮอโมโปลิส (Hermopolis) เพื่อบูชาเทพทอธ (Thoth) และเทพโอซิริส (Osiris) พร้อมจัดพิธีบวงสรวงและการเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่
การสูญเสียคนรัก
แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็ทำให้หัวใจของเฮเดรียนนั้นแตกสลาย กับการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ ซึ่งเป็นวันที่ 22 ตุลาคม ค.ศ. 130 ศพของแอนทิโออุสถูกพบลอยมาตามแม่น้ำไนล์ นำมาซึ่งความโศกเศร้าอย่างยิ่งใหญ่สำหรับหัวใจของเฮเดรียน จากการเสียชีวิตของคนรักหนุ่มอย่างเป็นปริศนาด้วยวัยเพียง 20 ปี จากการจมน้ำ
ปริศนาการเสียชีวิตของแอนทิโออุส
นักประวัติศาสตร์โรมันหลายคนก็อ้างแตกต่างกันออกไป
1. มาจากโรคประหลาดของเฮเดรียนที่ไปร่วมลัทธิลึกลับที่พระองค์เข้าร่วม
2. อาจจะเป็นฝีมือของพ่อมดหมอผีบางคน ซึ่งอาจจะเป็นนักบวชอียิปต์ "Pachrates" ก็เป็นได้
3. หรือเป็นการสมัครใจของแอนทิโออุส เพื่อแสดงออกถึง "ความรักอันยิ่งใหญ่" ที่แอนทิโออุสมีให้แก่เฮเดรียน
แต่หลังจากเหตุการณ์ครั้งนี้ก็ทำให้สุขภาพของเฮเดรียนดีขึ้นจริงๆ และยังมีอายุสืบต่อมาอีก 8 ปี
สร้างประติมากรรมรูปเหมือนแอนทิโนอุส
จากการเสียชีวิตของแอนทิโนอุส ก็ถูกทำให้เป็นมัมมี่และนำกลับกรุงโรมพร้อมเฮเดรียนคู่รักของเขา การตายของคนรักมันคือความสูญเสียอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ จึงได้ทรงรับสั่งให้ช่างสร้างประติมากรรมรูปเหมือนของแอนทิโนอุสขึ้นมามากมาย และตั้งชื่อของเขาเป็นชื่อหมู่ดาว และได้สร้าง เมืองแอนทิโนโปลิส (Antinopolis) เพื่อเป็นเกียรติแก่เขาริมฝั่งแม่น้ำไนล์ ณ จุดที่เขาจมน้ำ ยิ่งไปกว่านั้นมีการยกย่องให้แอนทิโนอุสเป็นเทพองค์หนึ่งด้วย
ความเป็นเทพของแอนทิโนอุสจึงแพร่กระจาย และเป็นที่นิยมอย่างรวดเร็วจากบริเวณอียิปต์ไปสู่พื้นที่ต่างๆ ทั่วจักรวรรดิโรมัน กล่าวได้ว่าหนุ่มน้อยชาวกรีกตายจากความเป็นมนุษย์ แต่ฟื้นคืนชีพในฐานะเทพเจ้าจาก "ความรัก" ที่เฮเดรียนมีให้เขานั่นเอง
ขอบคุณภาพจาก : กูลเกิล, พิกิมีเดียร์