เปลี่ยนญาติดีกว่า
เปลี่ยนญาติดีกว่าจ้า
เคสคุณยายวัย70+ปี มาพร้อมกับญาติ ที่อายุน้อยกว่านิดนึง มาถึงในประวัติบอกว่ามีอาการ ปวดต้นขา หมอกอลืฟแนะนำให้ยืดเหยียดท่าบริหารต้นขา ให้คนไข้ทำตาม ญาติตอบกับมาว่า
"แก ไม่ได้ปวดต้นขา นะคะ" แล้วเดินเข้ามาใกล้หมอ ทั้งๆที่มีที่กั้น กั้นเอาไว้ ทำท่าจะเปิดแมสก์ลงต่ำ หมอมองไปหา ก็เลยดึงขึ้นมา "แก จะแปล๊บๆที่ต้นขาค่ะ"
"แบบนี้มีเดินเยอะ หรือล้มอะไรไหมครับ"
"ไม่มีคะ" ญาติตอบ
"หมอคิดว่า น่าจะต้องทานวิตามินบำรุงปลายประสาท เหมือนรอบที่แล้วที่เคยมาหานะครับ นี่ไม่ได้ทานนานแล้วใช่ไหมครับ"
"ไม่เคยมาหานะคะ" ญาติแย้ง
"เมื่อ5 เดือนที่แล้ว ในประวัติ คุณป้าแกเคยมาหาหมอ ด้วยอาการ เบื่อๆ ทานอาหารไม่ค่อยลง แล้วให้วิตามินบีรวมไปนะครับ"
แกฟัง แล้วแกก็แย้งต่อไม่ได้
"ทีนี้ วันนี้ ประเมินคะแนนซึมเศร้า มีเรื่องความคิดเบื่อๆ เซ็งๆ แต่ไม่ถึงขนาดคิดฆ่าตัวตาย หมอจะให้ยาปรับความคิด ไปรับประทาน จะได้รู้สึกดีขึ้นด้วยนะครับ"
"ไม่ต้องไปรพ.เหรอคะ" ดูเหมือนว่าญาติจะอยากให้ส่งไปรพ.
"ยังนะครับ รับยาก่อน ถ้าไม่ดีขึ้นหมอจะทำใบส่งตัวไปให้"
"หมายความว่า ตอนนี้ยังไม่ต้องไปรพ. ใช่ไหมคะ"
"ยังไม่ต้องไปครับ ถ้าไปตอนนี้ต้องเสียเงินนะครับ"
"เค้าบอกว่าบัตรทองไป รพ.ได้เลย ไม่ใช่เหรอคะ"
ดูท่า จะเรื่องยาวละ เดี๋ยวคนอท่านจะเข้าใจผิด บัตรทองนี่อันที่จริงถ้าฉุกเฉินไปได้ตลอดนะครับ แต่ถ้าไม่ฉุกเฉิน ต้องให้ต้นสังกัดเขียนใบส่งตัวไปให้ ถ้าต้นสังกัดรักษาได้ เค้าก็ไม่ส่งตัวไป ไม่งั้นก็เพิ่มภาระ ให้กับหมอ พยาบาล ที่รพ.ใหญ๋ ที่งานหนักอยู่แล้ว ไม่งั้นเค้าจะมีคลินิก หรือ ศูนย์สาธารณสุข ปฐมภูมิไว้ทำไม จริงไหมครับ
"อ๋อ ถ้าไม่ดีขึ้น ค่อยไปรพ." ค่อยเข้าใจขึ้นมาหน่อย
แล้วหมอก็บอกให้ออกไปรับยา ได้ยินเสียงพูดข้างนอกอีก เหมือนบอกให้ญาติคนอื่นรับฟัง ประมาณว่า หมอบอกให้รักษาก่อน ถ้าไม่ดีขึ้นค่อยไปรพ.
สักพักหนึ่งเคาะประตู เปิดเข้ามาหาหมออีก ถามว่า "แล้วต้องมาที่นี่อีกไหมคะ" ผมถอนหายใจแล้วก็ตอบไปว่า "ถ้ายาหมดแล้วไม่ดีขึ้น ให้มาหานะครับ" เค้าก็ตอบขอบคุณคะ แล้วปิดประตูไป
เคสแบบนี้ จะไม่ต้องกินยาแก้ซึมเศร้า หรือยาอื่นๆ เลย ถ้าเปลี่ยนญาติ 555