ตำนาน “แมรี่กระหายเลือด" (Bloody Mary)
"Bloody Mary" สตรีนิรนามที่ถ้าใครเรียกชื่อ 3 ครั้งหน้ากระจกภายใต้ห้องที่มืดมิด วิญญาณตนนี้จะปรากฎและสามารถบอกถึงอนาคตแก่ผู้ที่ขานเรียกได้ แต่ใครจะไปรู้ว่าแท้จริงแล้วชื่อ "Bloody Mary" นั่นจะเป็นชื่อที่มาของ "สมเด็จพระราชินีนาถแมรีที่ 1 แห่งอังกฤษ" (Mary I of England)
ที่มาของตำนาน "Bloody Mary"
ซึ่งการเห็นผีสุดสยองจากฝั่งยุโรปหลายคนอาจจะเคยได้ยินชื่อ "Bloody Mary" กันมาบ้าง ? โดยมีวิธีคือ..ให้เตรียมเทียนมา 1 เล่มพร้อมจุดเทียน จากนั้นถือเทียนเข้ามาในห้องน้ำที่ดับไฟมืดสนิท ให้มองเข้าไปยังกระจกพร้อมเอ่ยชื่อ "Bloody Mary" 3 ครั้ง ก็จะปรากฎผียืนอยู่ข้างหลังคุณ นี่เป็นความเชื่อเรื่องการเห็นผีของยุโรป แต่เรื่องราวของ Bloody Mary นั้นมีอยู่จริงๆ
"Bloody Mary" คือใคร ?
คือ “สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 1 แห่งอังกฤษ" (Elizabeth I of England) น่าจะคุ้นกับพระนามของ “สมเด็จพระราชินีนาถแมรีที่ 1 แห่งอังกฤษ (Mary I of England)” พระราชินีองค์ก่อนหน้าพระราชินีเอลิซาเบธ ซึ่ง “สมเด็จพระราชินีนาถแมรีที่ 1 แห่งอังกฤษ (Mary I of England)” เป็นที่มาของชื่อ “Bloody Mary” หรือ “แมรี่กระหายเลือด”
สมเด็จพระราชินีนาถแมรีที่ 1 แห่งอังกฤษ (Mary I of England)
ทรงพระราชสมภพ เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1516 (พ.ศ. 2059) ที่พระราชวังพลาเซนเทีย เป็นพระราชธิดาของ “พระเจ้าเฮนรีที่ 8 แห่งอังกฤษ" (Henry VIII) กับพระราชมารดา “แคทเทอรีนแห่งอารากอน" (Catherine of Aragon) แม้จะเป็นพระราชธิดาของพระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 แต่กลับต้องประสบกับความลำบากตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์
พระเจ้าเฮนรีที่ 8 แห่งอังกฤษ (Henry VIII)
แคทเทอรีนแห่งอารากอน (Catherine of Aragon)
เนื่องจากพระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 ได้หย่ากับพระราชมารดาของพระองค์ เพราะผิดหวังที่พระองค์ทรงเกิดมาเป็นพระราชธิดา ไม่ใช่พระราชโอรสที่จะได้สืบราชบัลลังก์ ภายหลังจากการหย่า พระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 ก็ทรงอภิเษกสมรสใหม่กับ “แอนน์ โบลีน" (Anne Boleyn) นางกำนัลของพระราชมารดา และพระราชินีแอนน์ก็ได้ประสูติ "พระราชินีเอลิซาเบธ" ซึ่งก็ทำให้พระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 ผิดหวัง เพราะไม่ใช่พระราชโอรสอีก
การใส่ร้ายป้ายสีเพื่อชิงบัลลังก์
พระราชินีแอนน์ก็กังวลว่าเจ้าหญิงแมรี่ อาจจะเป็นก้างขวางคอทำให้เจ้าหญิงเอลิซาเบธของตนไม่ได้ขึ้นครองบัลลังก์ จึงกดดันให้สภาประกาศว่าเจ้าหญิงแมรี่นั้นเป็นพระราชธิดานอกสมรสแทน จึงทำให้ต่อมาพระราชินีแอนน์ได้ถูกประหารชีวิต แต่ชื่อเสียงของเจ้าหญิงแมรี่ก็เสื่อมเสียไปแล้ว
ชีวิตของเจ้าหญิงเลดี้ แมรี่
ตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ก็มีพระพลานามัยไม่แข็งแรงอยู่แล้ว มักจะปวดเวลามีรอบเดือน และมีอาการของโรคซึมเศร้าร่วมด้วย แต่ต่อมาภายหลังก็ได้ทรงขึ้นครองราชบัลลังก์เป็น "พระราชินีแห่งอังกฤษในปี ค.ศ.1553 (พ.ศ.2096) และได้อภิเษกสมรสกับ “พระเจ้าฟิลิปที่ 2 แห่งสเปน" (Philip II of Spain)
พระเจ้าฟิลิปที่ 2 แห่งสเปน (Philip II of Spain)
ตั้งครรภ์ทิพย์
พระราชินีแมรี่ทรงคาดหวังที่จะมีพระราชโอรสสืบบัลลังก์ พอไม่นานก็ประกาศว่าพระองค์กำลังทรงพระครรภ์ แต่กลับทำให้ประชาชนสงสัยเพราะร่างกายพระองค์ไม่สมบูรณ์ แถมในสมัยนั้นยังไม่มีการตรวจครรภ์ แพทย์ก็ไม่สามารถเข้าใกล้ได้ ข่าวลือจึงเกิดขึ้นต่างๆมากมาย พอถึงกำหนดคลอดพระองค์ก็ยังไม่พระประสูติกาล เหล่านางกำนัลจึงบอกว่าน่าจะคำนวณระยะเวลาผิด แต่ไปๆมาๆผ่านไปไม่นานพระครรภ์ของพระองค์ก็เริ่มยุบหด สุดท้ายหลังจากที่เฝ้ารอผลก็ออกมาว่าพระองค์ไม่ได้ประสูติพระราชบุตร ทำให้พระองค์เสียพระทัย และคิดว่าบางทีคงเป็นบทลงโทษจากพระเจ้า
ความโหดร้ายที่พระองค์เคยกระทำ
พระองค์ทรงคิดว่าการที่ไม่มีบุตรนั้น เป็นเพราะการลงโทษจากพระเจ้า ที่เวลานั้นพระองค์ทรงบังคับให้ชาวอังกฤษนับถือศาสนาคริสต์นิกายคอทอลิก และได้ชักชวนให้สภายกเลิกกฎหมายว่าด้วยนิกายโปรเตสแตนต์ ซึ่งเป็นนิกายที่มาตั้งแต่สมัยพระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 และถ้าหากใครฝ่าฝืนก็จะมีโทษประหารชีวิต ซึ่งผู้นำนิกายโปรเตสแตนต์ก็ถูกประหารไปมากมาย โดยการสั่งให้เอาไปเผาทั้งเป็นซึ่งมีผู้ที่ฝ่าฝืนและโดนเผาไปกว่า 284 คนเลยทีเดียว
โดนขนานนามใหม่
ด้วยความโหดร้ายของพระองค์ ผู้คนจึงขนานพระนามพระองค์ว่า..“แมรี่กระหายเลือด" (Bloody Mary) จึงเป็นที่มาของชื่อ Bloody Mary ในเวลาต่อมานี้เอง และสำหรับอาการของพระองค์ที่ช่วงแรกคล้ายกับคนท้องนั้น แพทย์สมัยใหม่วิเคราะห์ว่าอาจจะเป็นโรคอะไรบางอย่าง รวมถึงอาการทางจิตที่เลยทำให้หลอกตัวเองว่าท้อง
สำหรับอาการของพระองค์ที่คล้ายคนท้องในช่วงแรกนั้น ก็ได้มีการวิเคราะห์จากการแพทย์สมัยใหม่ว่า พระองค์อาจจะเป็นโรคอะไรซักอย่าง รวมถึงอาจจะมีอาการทางจิตที่ทำให้หลอกร่างกายตัวเองว่าท้อง
สวรรคต
พระราชินีแมรี่ที่ 1 เสด็จสวรรคตในวันที่ 17 พฤศจิกายน ค.ศ.1558 (พ.ศ.2101) ขณะมีพระชนมายุ 42 พรรษา ณ พระราชวังเซนต์เจมส์ สาเหตุการสวรรคตน่าจะมาจากการพยายามมีทายาทของพระองค์ ทั้งๆที่ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์แต่พระองค์คิดว่าพระองค์มีบุตรจึงเกิดภาวะครรภ์เทียม ซึ่งส่งผลให้ร่างกายเสื่อมโทรมลงไปเรื่อยๆ หรืออาจจะเกิดจากการทรงเป็นเนื้องอกในมดลูก
ดังนั้นทุกวันนี้ชื่อของ "Bloody Mary" ที่มาจากความโหดร้ายของพระองค์นั้น ก็ได้กลายมาเป็นตำนานที่ทำให้เด็กๆ กลัวและเกี่ยวข้องกับเรื่องของภูติผีไปแล้วจนถึงปัจจุบันนั้นเอง
ขอบคุณภาพต่างๆจาก : google, wikipedia