หนังทำเงินสูงสุดในรอบปีที่ญี่ปุ่น อนิเมะสุดล้ำด้วยไซไฟอภิปรัชญา เอวานเกเลี่ยน จบบริบูรณ์เสียแล้วในโรงภาพยนตร์
ภาพยนตร์อนิเมะและมมังงะเป็นที่สุดยอดแห่งไซไฟ-อภิปรัชญา เนื้อหาลึกล้ำผสมผสานจินตนาการระหว่างจิตวิญญานและวิทยาศาสตร์ได้อย่างกลมกลืนกลมกล่อมเรื่อง เอวานเกเลี่ยน EVANGELION ได้ปิดฉากจบลงอย่างบริบูรณ์แล้วในโรงภาพยนตร์ โดยมีฉายในประเทศไทยทั้งสองเวอร์ชั่นคือ 3.0+1.0 และ 3.0+1.01 โดยผู้ใช้บัตรสมาชิกเอ็มพาสของเมเจอร์ซิเนเพล็กซ์ สามารถรับชมได้สองรอบทั้งระบบไอแม็กซ์หนึ่งรอบและระบบปกติอีกหนึ่งรอบโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ เพิ่มเติม สำหรับระบบไอแม็กซ์มีแต่ภาษาญี่ปุ่นซับไทย ส่วนระบบธรรมดาเลือกชมภาษาได้ตามใจ หนังฉายมาเป็นสัปดาห์ที่สองแล้ว ขณะนี้จึงโดนแบล็กอดัมทำให้ลดรอบแต่ยังคงมีเหลืออยู่ 4 สาขา 4 จังหวัด ได้แก่ แคราย ซีคอน รังสิต และ สำโรง โปรดตรวจสอบรอบฉายในแอพหรือเว็บโรงภาพยนตร์เองนะครับ
เรื่องนี้มีความยาวถึง 2 ชั่วโมง 24 นาที เรท 16+ (ญี่ปุ่นเขาแบ่งอายุแปลก ประเทศอื่นเขา 15 กัน แต่เรื่องนี้เห็นว่าแม้แต่เด็ก 15 ก็รับไม่ไหว) จัดอยู่ในประเภท แอนิเมชั่น แอ็คชั่น ดราม่า และไซไฟ กำกับและเขียนบทมาตั้งแต่เริ่มเรื่องตั้งแต่แรกในปี 2538 จนจบที่ภาคนี้โดย ฮิเดอากิ อันโน คนเดียวกับที่ทำชิน โกจิร่า (ก็อดซิลล่าญี่ปุ่น) และชิน อุลตร้าแมนที่เพิ่งเข้าโรงบ้านเรา แต่ที่จริง เอวานเกเลี่ยนที่ญี่ปุ่นฉายไปแล้วตั้งแต่ปี 2021 โดยทำรายได้สูงสุดของญี่ปุ่นประจำปีด้วยตัวเลข 92 ล้าน$ (คิดเป็นดอลล่ารสหรัฐแล้ว) แต่บ้านเรากลับฉายชินอุลตร้าแมนก่อน
ภาพยนตร์เรื่องนี้แม้ว่าจะทำเงินสูงเกือบร้อยล้านในญี่ปุ่นประเทศเดียว แต่ก็ไม่คิดที่จะฉายในตลาดต่างประเทศแต่อย่างใด อาจเนื่องจากเนื้อหาที่จะเข้าถึงคนต่างชาติได้ยากหรืออย่างไรไม่ทราบ แต่แฟนคลับเหนียวแน่นอย่างฮ่องกงก็อยากดูจนเกิดตัวแทนจำหน่ายให้ชาวฮ่องกงได้ชมเป็นตลาดแรกนอกประเทศญี่ปุ่น ประสบความสำเร็จจนมีอีกหลายประเทศได้ชมในลำดับต่อๆ มา ส่วนไทยน่าจะเป็นประเทศสุดท้ายเพราะหนังลงสตรีมมิ่งของแอมะซอนพราหมณ์วีดิโอไปเรียบร้อยแล้ว แต่ไทยเรายังโชคดีมีทั้งไอแม็กซ์และระบบปกติ ทั้งเสียงญี่ปุ่นและเสียงไทยอีกต่างหาก แฟนคลับก็มีมากขนาดฉายได้สองสัปดาห์ด้วยทั้งที่ในสตรีมมิ่งก็ดูได้แล้ว ทุกคนยังยืนยันว่าชมในโรงภาพยนตร์ดีกว่ามาก
คะแนนที่เรื่องนี้ได้จากเว็บมะเขือคือ ความชอบ 100% ทุกคนที่มาลงคะแนนชอบทั้งหมด (เว็บนี้วัดแค่ชอบกับไม่ชอบ ดังนั้นหากชอบไม่ว่าจะกี่คะแนนก็ถือว่าชอบ ดังนั้นเมื่อชอบทั้งหมดไม่มีคนไม่ชอบจึงเท่ากับ 100%) ส่วนอีกเว็บคือ IMDb คิดเฉลี่ยเป็นคะแนน จากคนลงคะแนนกว่าหมื่นคนยังเฉลี่ยได้ถึง 8.0/10 คนดูว่าชอบสูงมากแล้ว นักวิจารณ์ยังสูงกว่าที่ค่าเฉลี่ย 84/100
สำหรับคนไม่เคยดู ไม่เคยรู้เรื่องมาก่อน อยู่ดีๆ จะเข้ามาชมภาคจบของเรื่องนี้ รับรองว่ามีงงแน่นอน เพราะเหตุการณ์ต่างๆ มันผูกพันกันมาอย่างแนบแน่นจนค่อยคลี่คลายไปถึงจุดจบในภาคสุดท้ายนี้ แม้ว่าจะมีการทวนเรื่องราวตั้งแต่ภาค 1-3 ให้ ก็ตัดให้ชมอย่างรวดเร็วจนไม่น่าจะรู้เรื่องได้อยู่ดี แต่สำหรับคนที่รู้เรื่องหรือติดตามมานานแล้วจะทบทวนได้ทันเพราะสมองถูกปรับให้เข้าใจเรื่องราวไปแล้ว เปรียบเทียบอย่างง่ายที่สุดก็น่าจะเท่ากับคนที่ไม่เคยอ่านไม่เคยดูแฮรี่มาตลอด 7 ภาคแรก หรือไม่เคยอ่านหนังสือ 6 เล่มครึ่งแรก อยู่ดีๆ มาดูภาค 7.2 เลยก็ไม่น่าจะรู้เรื่องและไม่น่าจะดื่มด่ำหรือดูอย่างมีความสุขได้
โพสท์นี้ไม่มีสปอยล์เพราะหนังเรื่องนี้คนที่ดูแล้วไม่สามารถอธิบายให้คนที่ไม่เคยดูเข้าใจได้ บอกได้แค่เรื่องราวอยู่ในโลกที่ถูกทำลายล้างไปบางส่วนแล้ว คนที่เหลือต้องต่อสู้เพื่อยับยั้งการถูกทำลายล้างทั้งหมด โดยมีผู้ขับเอวา พระเอกของเรื่องผู้เป็นโรคซึมเศร้า(เหมือนคนเขียน)เป็นตัวดำเนินเรื่อง ส่วนเอวานเกเลี่ยนคือสิ่งมีชีวิตที่ถูกสร้างขึ้น ทุกฝ่ายในเรื่องนี้ต่างก็มีเจตนาดี ฝ่ายหนึ่งก็อยากล้างโลกจัดระเบียบใหม่ อีกฝ่ายก็อยากอยู่ต่อไปตามธรรมชาติ ส่วนวิธีการนำเสนอและรายละเอียดปลีกย่อยนั้นล้วนเป็นสเน่ห์ที่ทำให้แฟนๆ ติดเรื่องนี้ รวมถึงสภาวะอันหมองหม่นในจิตใจของตัวละครด้วย (ใครเป็นพวกโลกสวยเบิกบานบางคนอาจดูแล้วรู้สึกรำคาญกับนิสัยคนเป็นโรคซึมเศร้านี้เป็นเรื่องปกติ)
สิ่งดีงามที่อนิเมะมีแต่มังงะไม่สามารถให้ได้คือ เสียงประกอบทั้งหลาย รวมทั้งดนตรีและเพลง ทีมงาน CGI และ VFX เรื่องนี้เป็นคนไทยกว่า 20 คน (อ่านรายชื่อท้ายเรื่องแต่นับไม่ทัน) เพลงและดนตรีประกอบเน้นบรรยากาศแบบได้อารมณ์สุดๆ ในทุกฉากทุกตอนไม่ว่าจะอารมณ์ไหน มีทั้งเพลงภาษาอังกฤษและญี่ปุ่น ส่วนเอ็นเครดิต ได้อุทาดะ ฮิคารุ มาปิดเรื่องถึง 2 เพลงคือ ONE LAST KISS และ BEAUTIFUL WORLD
อ้างอิงจาก: IMDb