รีวิว พุซ อิน บู๊ทส์ 2 - Puss In Boots: The Last Wish เหมียวนักสู้กับชีวิตสุดท้าย คะแนนดีมาก
พุซอินบูทส์ PUSS IN BOOTS เป็นการ์ตูนแอนิเมชั่นที่แยกตัวออกมาจากเรื่อง SHREK ยักษ์ตัวเขียวที่มีมาทั้งหมด 4 ภาคตั้งแต่ปี 2001 ถึง 2010 ภาพยนตร์ชุดเชร็คได้รับการยกย่องให้เป็นวรรณกรรมสำหรับเด็กยุคใหม่ที่มีคุณค่ามากกว่าวรรณกรรมในแบบเรียนหรือหนังสือนอกเวลาสำหรับเด็กดั้งเดิมจำพวก สโนไวท์ ซินเดอเรลล่า เจ้าหญิงนิทรา และบรรดาเจ้าหญิงต่างๆ ที่ดีแต่สวยไปวันๆ และรอเจ้าชายมารัก จึงมีการแก้หลักสูตรผลักดันให้เชร็คได้รับการส่งเสริมเป็นวรรณกรรมเด็กที่มีคุณค่า แสดงให้เห็นว่าคนเราไม่จำเป็นต้องสวยจากภายนอก
ตัวละคร พุซอินบูทส์ เป็นแมวส้มนักสู้ ปรากฏตัวตั้งแต่เชร็คภาค 2 รับบทโดยอันโตนิโอ แบนเดอรัส (ปัจจุบันอายุ 62) ภาคแรกของพุซอินบูทส์ ออกฉายปี 2011 ภาคใหม่นี้ชื่อ THE LAST WISH ทิ้งห่างจากภาคแรก 11 ปี และเป็นการกลับมารับบทเดิมของอันโตนิโอเป็นครั้งที่ 5 เท่ากับว่า เขารับบทในตัวละครเรื่องเชร็คเป็นจำนวนครั้งมากกว่าตัวพระเอกเชร็ค ที่รับบทโดยไมค์ ไมเออร์เองเสียอีก
พุซอินบูทส์ 2 มีความยาว 1 ชั่วโมง 40 นาที จัดอยู่ในประเภท แอนิเมชั่น ผจญภัย ตลก ครอบครัว แฟนตาซี ลึกลับ โรแมนติก ได้รับคะแนนดีมากจากเว็บมะเขือ ROTTEN TOMATOES นักวิจารณ์ชอบ 95% คนดูชอบ 93% ใน IMDb คะแนนเฉลี่ยนักวิจารณ์ 75/100 คนดู 7.8/10 ซิเนม่าสกอร์ได้เกรด A ทุนสร้าง $90 ล้าน ขณะนี้ทำรายได้จากการฉายทั่วโลกมาสองสัปดาห์ได้ 80 ล้านแล้ว สำหรับที่อเมริกาเพิ่งเข้าฉายสัปดาห์ที่แล้วเปิดตัวได้กว่า 10 ล้าน เป็นรองเพียงอวตารเรื่องเดียว ส่วนประเทศไทยเข้าฉาย วันพฤหัสบดีที่ 29 ธันวาคม ที่ผ่านมา ทำรายได้วันแรกเป็นอันดับ 3 รองจาก อวตาร2 และหนังเกาหลี คริสต์มาสแค้น (สำรวจเฉพาะ กรุงเทพ ปริมณฑล และเชียงใหม่ โดยชมรมวิจารณ์บันเทิง)
คะแนนภาคนี้เหนือกว่าภาคที่แล้วมาก ใน RT นักวิจาร์ให้ 86% คนดู 67% ใน IMDb นักวิจารณ์ให้ 65/100 คนดู 6.6/10 แต่รายได้ภาคที่แล้วปิดโปรแกรมทั่วโลกไปสูงถึง 555 ล้านจากทุนสร้าง 130 ล้าน ภาคนี้โชคร้ายที่สัปดาห์เปิดตัวเกิดพายุฤดูหนาวทั่วสหรัฐอเมริกา ทำให้รายได้ต่ำกว่าที่คาดหมายไปมาก ส่วนคนที่ออกมาชมภาพยนตร์ได้ก็เลือกดูอวตารเป็นหลัก แต่ผู้เชี่ยวชาญได้แสดงความเห็นชวนอุ่นใจว่า เรื่องนี้ยังมีอนาคตอีกยาวเนื่องจากยังไม่มีหนังเด็กเข้าฉายจนกว่าจะถึงเดือนเมษายนที่จะมี SUPER MARIO BROS. จึงน่าจะทำเงินได้ต่อไปเรื่อยๆ 2-300 ล้านก็ยังดี เราอาจจะมีสิทธิ์เห็นภาคใหม่เพราะท้ายเรื่องหนังก็ทิ้งเชื้อไว้อย่างชัดเจน
ภาคนี้ที่ได้คะแนนสูง น่าจะมาจากการที่เรื่องนี้แฝงไปด้วยคติสอนใจอันทรงคุณค่าในหลายด้าน นอกเหนือจากประเด็นที่คนควรงดงามจากจิตใจซึ่งเป็นประเด็นหลักของเชร็คแล้ว ยังนำเสนอประเด็นว่าอะไรคือความปรารถนาของชีวิต คนควรต่อสู้เพื่อสิ่งใด ความประมาทกับความรอบคอบในการใช้ชีวิต ความสัมพันธ์กับเพื่อน ครอบครัวและคนรัก ความเห็นแก่ตัว และทุกคนต้องถึงที่ตายในสักวันหนึ่ง แต่ละเรื่องที่แฝงไว้นี่แทบจะไม่ควรเรียกว่าเรื่องนี้เป็นแค่หนังเด็กเลยจริงๆ
เนื้อเรื่องภาคนี้ เหมียวพุซ ใช้ชีวิตอย่างประมาทจนมาถึงชีวิตสุดท้าย เขากำลังโดนมัจจุราชตามล่าและไม่สามารถต่อชีวิตได้ใหม่แล้ว เขาต้องสงวนตัวให้อยู่ในความปลอดภัยที่สุด จึงได้กลายสภาพเป็นแมวเลี้ยงสุดเชื่อง ในขณะที่ไกลออกไป มีอุกกาบาตมหัศจรรย์ที่สามารถให้พรอันเป็นสุดยอดปรารถนากับผู้ขอได้ เขาจึงกลับมามีความหวังอีกครั้ง ความหวังที่จะขอให้มีชีวิตสำรองไม่สิ้นสุด การผจญภัยจึงได้เริ่มต้นอีกครั้ง ร่วมกับหมาน้อยคู่ใจ ท่ามกลางคู่แข่งมากมายทั้งครอบครัวสามหมีและอดีตคนรักของเขาเอง
อ้างอิงจาก: UIP/ IMDb/ Rotten Tomatoes