มนุษย์คนแรกของโลกที่รอดตายจากโรคพิษสุนัขบ้า
การเตรียมตัวเพื่อป้องกันจากการเจ็บป่วยด้วยโรคต่างๆ
ถือว่ามีความจำเป็นอย่างมาก เพราะโรคบางอย่างนั้นร้ายแรงมาก
ถึงขนาดที่ทำให้ผู้ป่วยแทบไม่มีโอกาสรอดชีวิตเลย โดยหนึ่งในโรคร้าย
ที่คร่าชีวิตคนไปมาก และยังไม่มีวิธีรักษาให้หายได้ (แต่มีวัคซีนป้องกันได้)
ก็คือ 'โรคพิษสุนัขบ้า' ที่เราคุ้นชื่อกันดีนี่เอง
โรคพิษสุนัขบ้า หรือโรคกลัวน้ำ (rabies, hydrophobia)
เป็นโรคไวรัสที่ทำให้เกิดการอักเสบเฉียบพลันของสมอง ทั้งในมนุษย์และสัตว์เลือกอุ่นชนิดอื่น
โดยอาการเริ่มต้นจะมีไข้และอาการเป็นเหน็บ ณ ตำแหน่งสัมผัส และมักจะตามมาด้วยอาการต่อไปนี้อย่างหนึ่ง
หรือมากกว่า ได้แก่ การเคลื่อนไหวรุนแรง ความตื่นเต้นควบคุมไม่ได้ กลัวน้ำ ไม่สามารถขยับร่างกายบางส่วน
สับสนและไม่รู้สึกตัว เมื่อเกิดอาการแล้ว มักจะลงเอยด้วยการเสียชีวิตแทบทั้งสิ้น ช่วงเวลาระหว่างการติดต่อโรค
และการเริ่มแสดงอาการนั้นปกติจะกินระยะเวลาระหว่างหนึ่งถึงสามเดือน แต่ก็อาจจะพบได้เร็วหรือช้ากว่านั้น
โดยเวลานี้ขึ้นอยู่กับระยะทางที่ไวรัสเข้าสู่ระบบประสาทส่วนกลาง
โรคพิษสุนัขบ้าเป็นโรคที่ร้ายแรงมาก ที่ผ่านมาเกือบทั้งหมดของผู้ป่วย
มักจะเสียชีวิตหลังจากแสดงอาการได้ไม่นาน โดยมนุษย์คนแรกที่ถูกบันทึกชื่อ
ว่าเป็น 'ผู้ป่วยคนแรกที่รอดจากโรคพิษสุนัขบ้าได้โดยไม่ได้รับวัคซีน'
ก็คือ Jeanna Giese หญิงสาวที่นอนป่วยด้วยโรคนี้ยาวนานถึง 4 ปี
ก่อนที่เธอจะหายป่วยและถูกกล่าวขานในเวลาต่อมา และแม้จะผ่านมานานหลายปีแล้ว
Jeanna Giese ก็ยังคงถูกจดจำในฐานะของผู้รอดชีวิต โดยในทางการแพทย์ก็ยังคงค้นคว้า
และวิจัยเรื่องยารักษาโรคนี้ต่อไป โรคพิษสุนัขบ้าเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตประมาณ 26,000 ถึง
55,000 คนต่อปี การเสียชีวิตจากโรคพิษสุนัขบ้ากว่า 95% หรือเกือบทั้งหมดเกิดในทวีปแอฟริกาและเอเชีย