กีฬาแบบไทยที่โด่งดังไปไกลในระดับโลก
'มวยไทย' ถือเป็นกีฬาเก่าแก่ชนิดหนึ่งที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก
มวยไทย เป็นศิลปะการต่อสู้ของประเทศไทย มีความโดดเด่นด้านเทคนิคการกอดคอต่อสู้
ซึ่งเป็นการใช้ทั้งกายและใจ สำหรับการต่อสู้ที่ใช้ร่างกายเป็นอาวุธ โดยเป็นที่รู้จักว่าเป็น "นวอาวุธ"
ซึ่งประกอบด้วยการโจมตีจากร่างกายทั้ง หมัด, ศอก, เข่า และเท้า หากมีการเตรียมพร้อมด้านร่างกายดี
จะก่อให้เกิดอาวุธที่มีอานุภาพ มวยไทยได้เป็นที่แพร่หลายในระดับนานาชาติในช่วงศตวรรษที่ยี่สิบ
เมื่อเหล่านักมวยไทยสามารถเป็นฝ่ายชนะนักต่อสู้ที่มีชื่อเสียงในแขนงอื่น ซึ่งการแข่งขันมวยไทยในระดับอาชีพ
ได้รับการดูแลโดยสภามวยไทยโลก ในปัจจุบัน ทางสหพันธ์มวยไทยสมัครเล่นนานาชาติ (IFMA)
มีแผนที่จะผลักดันกีฬามวยไทยเข้าสู่กีฬาโอลิมปิก โดยใน พ.ศ. 2557 ทางองค์การสหประชาชาติ
ได้ให้การยอมรับมวยไทยเป็นกีฬาแห่งประชาคมโลก โดยได้มีการลงนามข้อตกลงความร่วมมือ
กับสภามวยไทยโลก และสหพันธ์มวยไทยสมัครเล่นนานาชาติ
ความนิยมของมวยไทยในชาวต่างชาตินั้นสูงขึ้นกว่าในอดีต วัดได้จากการเก็บสถิติ
ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ในปี พ.ศ. 2559 โดยพบว่ามีชาวต่างชาติ
ที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทย เพื่อเรียนมวยไทยจำนวนมากกว่า 50,000 คน
ซึ่ง 10 อันดับแรก มีดังต่อไปนี้ สหราชอาณาจักร จำนวน 11,219 คน
ออสเตรเลีย 6,800 คน ฝรั่งเศส 5,852 คน เยอรมนี 4,688 คน สวีเดน 4,253 คน รัสเซีย 2,183 คน
เดนมาร์ก 1,855 คน ญี่ปุ่น 1,841 คน นิวซีแลนด์ 1,781 คน และสเปน 1,633 คน
จากความนิยมของมวยไทยดังกล่าวในชาวต่างชาติ ทำให้ในปี พ.ศ. 2556
มีค่ายมวยไทยในต่างประเทศเป็นจำนวนถึง 3,869 แห่ง และมีค่ายมวยไทยในประเทศไทย
ในปี พ.ศ. 2561 เป็นจำนวนถึง 5,100 แห่ง โดย 5 ประเทศที่มีค่ายสอนมวยไทยมากที่สุด
มีดังต่อไปนี้ บราซิล 1,631 แห่ง อิหร่าน 650 แห่ง อินเดีย 256 แห่ง
โมร็อกโก 220 แห่ง และสหรัฐอเมริกา 190 แห่ง