สามประเทศที่พื้นที่ถูกล็อคไว้ให้อยู่ตรงกลางประเทศอื่น
การมีพรมแดนหรือพื้นที่ติดกับประเทศอื่นๆ ถือเป็นเรื่องปกติ
อย่างประเทศไทยเองที่มีชายแดนติดกับหลายประเทศไกล้เคียง
รวมถึงประเทศส่วนใหญ่ในโลก ก็ล้วนมีพื้นที่ติดกับประเทศอื่นๆ
มากกว่าหนึ่งประเทศ แต่มีอยู่เพียง 3 ประเทศเท่านั้นในโลก
ที่มีพื้นที่ตั้งอยู่ตรงกลางประเทศอื่น เหมือน 'ถูกล็อคไว้อยู่ตรงกลาง'
ถูกห้อมล้อมรอบทิศทางด้วยประเทศอื่นเพียงประเทศเดียว
ประเทศแรก คือ เลโซโท (Lesotho)
มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า ราชอาณาจักรเลโซโท (Kingdom of Lesotho)
เป็นประเทศขนาดเล็กในทวีปแอฟริกา มีพื้นที่ทั้งหมด 30,355 ตารางกิโลเมตร (11,720 ตารางไมล์)
โดยพรมแดนถูกล้อมรอบด้วยประเทศแอฟริกาใต้ทุกทิศ ทำให้ไม่มีทางออกสู่ทะเล ลักษณะภูมิประเทศส่วนใหญ่
เป็นภูเขาและที่ราบสูง มีเมืองหลวงและเมืองใหญ่ที่สุดคือมาเซรู เลโซโทมีรูปแบบการปกครอง
แบบราชาธิปไตยถายใต้รัฐธรรมนูญ และเป็นหนึ่งในสามประเทศในทวีปแอฟริกา ที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข
เช่นเดียวกับประเทศโมร็อกโก และประเทศเอสวาตีนี
ประเทศที่สอง คือ ซานมารีโน (San Marino)
หรือชื่อทางการคือ สาธารณรัฐซานมารีโน ( Repubblica di San Marino)
และอีกชื่อหนึ่งคือ สาธารณรัฐอันสงบสุขยิ่งซานมารีโน (อิตาลี: Serenissima Repubblica di San Marino)
เป็นประเทศที่มีขนาดเล็กที่สุดประเทศหนึ่งในโลก ตั้งอยู่ในภูมิภาคยุโรปตอนใต้ บนเทือกเขาแอเพนไนน์
ล้อมรอบทุกทิศทางโดยประเทศอิตาลี ซานมารีโนมีพื้นที่ 61 ตารางกิโลเมตร (24 ตารางไมล์) และมีประชากร 33,562 คน
ประเทศที่สาม คือ นครรัฐวาติกัน (Vatican City)
นครรัฐวาติกัน หรือ State of the Vatican City เป็นนครรัฐที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล
ซึ่งมีพื้นที่น้อยที่สุดในโลกรวมถึงมีประชากรน้อยที่สุดด้วย ตั้งอยู่ในกรุงโรม ประเทศอิตาลี
เป็นที่ประทับของพระสันตะปาปา ซึ่งเป็นประมุขสูงสุดแห่งศาสนจักรโรมันคาทอลิก ศูนย์กลางคือมหาวิหารนักบุญเปโตร
มีการปกครองเป็นแบบอำนาจเบ็ดเสร็จ อำนาจตกอยู่ที่พระสันตะปาปาเพียงผู้เดียว จะหมดวาระก็ต่อเมื่อสิ้นพระชนม์