หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ฝุ่นpm2.5

เนื้อหาโดย Sittha Likitnukul

... กระทู้นี้ขอสรุปรายละเอียดและเรื่องราวของฝุ่นPM2.5 ให้เข้าใจง่ายๆละกันนะครับ

---ฝุ่นPM2.5 จริงๆมีมานานแล้ว มันมีขนาดเล็กมาก 1/50 ของเส้นผมเรา เราจึงมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ขนาดของมันคือ2.5ไมครอน (เล็กกว่าเม็ดเลือดที่ขนาด5ไมครอน) เกิดจากการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ ทั้งจากท่อไอเสียรถยนต์ โรงงาน เผาขยะ เผาศพ รวมไปถึงเผาไหม้ตัวเองด้วยการสูบบุหรี่ (ขอเน้นจุดนี้ครับ)

---เนื่องด้วยมันมีขนาดเล็กมาก มันจึงเข้าไปได้ถึงส่วนลึกที่สุดของถุงลม ทางเดินหายใจส่วนล่าง แล้วซึมแทรกเข้าไปยังผนังหลอดเลือดฝอย จากนั้นอยากไปไหนก็ไป ไปก่อเรื่องกับอวัยวะต่างๆได้ มันมีสารอนุมูลอิสระหรือ สาร P-A-Hs ติดไปด้วย ซึ่งนี่แหละที่ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อมะเร็งปอดได้ นอกจากนี้การที่มันซึมเข้าทุกส่วน มันไปป่วนหลอดเลือดให้เกิดการอักเสบ ก็จะเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง และหัวใจด้วย

---สรุปง่ายๆมันก่อโรคตั้งแต่ ไอ จาม น้ำมูก ภูมิแพ้ ไซนัส ผื่นคัน ปอดอุดกั้นเรื้อรัง ติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนล่าง เสี่ยงต่อมะเร็งปอด หลอดเลือดสมองอักเสบหรืออุดตัน รวมถึงหัวใจขาดเลือด โดยเฉพาะในกลุ่มบุคคลเสี่ยงได้แก่ เด็ก ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจ หอบหืด ผู้ป่วยโรคหัวใจ ผู้ทำงานกลางแจ้ง

---ปริมาณฝุ่นที่รายงานกัน คือ (ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร) ถ้ามีไม่เกิน 25 ถือว่าปกติ ถ้า26-37 เราพอทนได้ ถ้าระดับ38-50 จะเริ่มระคายเคือง มีการคัน ไอจาม ถ้าระดับ51-90 เริ่มอึดอัดอยู่ได้ยากขึ้น ระดับ91-250 หายใจลำบาก และมากกว่า 250 อันตรายมาก

---การป้องกันฝุ่นละเอียดนี้ มีตั้งแต่ หลีกเลี่ยงการสัมผัสฝุ่นละออง, ปิดประตูหน้าต่างให้มิดชิด ทำความสะอาดทุกวัน, เลี่ยงการทำงานหรือออกกำลังกายในที่แจ้ง,สวมมาร์คN95 หรือP100 ที่ป้องกันฝุ่นอนุภาคขนาดเล็ก, ตรวจสุขภาพหากมีอาการหายใจติดขัด แน่นหน้าอก วิงเวียน, รับประทานอาหารเสริมบำรุงปอดเช่น ถังเช่า โสม เห็ดหูหนู, รับประทานตัวล้างสารพิษ เช่น คลอโรฟิลล์ หรือไฟเบอร์ รวมไปถึงพืชผักในครัวเรือน ที่ช่วยเสริมเบต้าแคโรทีน อย่างแครอท, เสริมเคอร์ซิทีน อย่างแอปเปิ้ล, เสริมวิตามินซี อย่างแคนตาลูป บร็อกโคลี่ และต้านการอักเสบอย่างขิง ก็จะช่วยปกป้องปอดเราได้ครับ

เนื้อหาโดย: Sittha Likitnukul
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
Sittha Likitnukul's profile


โพสท์โดย: Sittha Likitnukul
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
5 VOTES (5/5 จาก 1 คน)
VOTED: Sittha Likitnukul
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ทิดสมปองประกาศเเต่งงานแฟนสาว ชาวเน็ตแซวแต่งปลายปี เชิญตั้งแต่ต้นปี ไม่ค่อยจะเห่อเลยนะพี่ทิดรีวิวหนังดัง RED ONE เรด วัน
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
เพื่อนบ้านวุ่นวาย!! ทหารเขมรพาชาวบ้านมาร้องเพลงชาติหน้าปราสาทตาเมืยนธม ซึ่งอยู่ในชายแดนไทย ทหารไทยเข้าตักเตือนแล้ว
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
ฝรั่งเดือด เจอคอมเมนต์ด่าอาหารไทยน่าขยะแขยง ก่อนฟาดกลับจุกๆใจฟูสุดๆ คู่รักเกาหลีเที่ยวราชบุรี ติดป่า กุญแจหาย แต่คนไทยไม่ปล่อยให้เดือดร้อน10 แนวทางพัฒนาตนเองสู่ความสำเร็จการแข่งขันในยุคโซเชียลมีเดีย: การเติบโตที่ไม่มีที่สิ้นสุด
ตั้งกระทู้ใหม่