ประเทศที่อนุญาตให้แต่งงานได้แต่ไม่อนุญาตให้มีการหย่า
การตกลงปลงใจแต่งงานกันของคู่รัก ถือเป็นเรื่องปกติธรรมดา
เช่นเดียวกับเมื่อได้ใช้ชีวิตร่วมกันแล้ว แต่หากเกิดปัญหาขึ้นในภายหลัง
'การหย่าร้าง' ก็ยังถือเป็นเรื่องปกติที่คนทั่วโลกสามารถทำได้
แต่ไม่ใช่กับประเทศนี้ 'ที่ไม่อนุญาตให้มีการหย่าร้าง'
ในปัจจุบันมีเพียง 2 ประเทศในโลก ที่ไม่มีกฎหมายเกี่ยวกับการหย่า
ประเทศแรกคือ 'ฟิลิปปินส์' ฟิลิปปินส์เป็นประเทศที่คนส่วนใหญ่นับถือศาสนาคริสต์
นิกายโรมันคาทอลิก เป็นประเทศที่ไม่มีกฎหมายหย่าร้าง
ทำให้คู่แต่งงานไม่สามารถหย่าขาดจากกันได้ แม้จะมีความสัมพันธ์เลวร้ายแค่ไหนก็ตาม
โดยตัวเลือกของคู่รักที่ต้องการยุติความสัมพันธ์นั้น ทำได้แค่การแยกกันอยู่
หรือยื่นเรื่องขอให้ศาลสั่งให้การสมรสนั้นเป็นโมฆะ ซึ่งกระบวนการนี้
ถือเป็นเรื่องที่มีกระบวนการซับซ้อน ใช้เวลานาน และต้องเสียค่าใช้จ่ายจำนวนมาก
ชาวฟิลิปปินส์จำนวนมากที่มีชีวิตสมรสล้มเหลว แต่ก็ยังไม่สามารถเป็นอิสระจากคู่สมรสได้
เพราะไม่มีกฎหมายการหย่าร้างมาสนับสนุน มีเพียงชาวมุสลิมซึ่งมีจำนวนประชากรเพียง 10%
ในประเทศเท่านั้นที่สามารถหย่าร้างได้ ภายใต้กฎหมายครอบครัวของมุสลิม
ทั้งนี้ แม้ว่าสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจะมีการเสนอให้ผ่านกฎหมายหย่าร้างเมื่อเดือนมีนาคม 2561
แต่กลับถูกเห็นค้านจากกลุ่มบิชอป และประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต
(ซึ่งปัจจุบันก็แยกกันอยู่กับภรรยาเช่นกัน) โดยผู้นำประเทศแสดงความกังวลถึงสวัสดิภาพของเด็กๆ
ที่พ่อแม่หย่ากัน ส่วนศาสนจักรมองว่า ควรหากฎหมายอื่น
เพื่อมายับยั้งปัญหาความรุนแรงในครอบครัว แทนการออกกฎหมายหย่าร้าง
อีกหนึ่งประเทศที่ไม่มีกฎหมายการหย่าร้าง คือ 'นครรัฐวาติกัน'
ซึ่งเป็นอีกหนึ่งประเทศที่นับถือศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกอย่างเคร่งครัด
โดยชาวคาทอลิกมีความเชื่ออย่างมาก ในความศักดิ์สิทธิ์ของการแต่งงาน
และเชื่อว่าการแต่งงานเป็นการอยู่ร่วมกันอย่างถาวร วาติกันไม่มีบทบัญญัติทางกฎหมาย
สำหรับการหย่าร้าง แต่คู่รักสามารถร้องขอให้มียกเลิกการสมรสได้