ตำนานแห่งรถไฟความเร็วสูงที่มาตรงเวลาอยู่เสมอ
สำหรับใครที่เคยได้มีโอกาสได้ไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่น
หรือแม้แต่เคยชมวิดีโอหรือภาพยนตร์ที่เกี่ยวกับคนญี่ปุ่น
น่าจะรู้ดีว่าที่ญี่ปุ่นนั้น ผู้คนจริงจังกับ 'การตรงเวลา' เป็นอย่างมาก
ประชาชนรวมถึงระบบเครื่องมือต่างๆของประเทศนี้
ล้วนถูกฝึกและออกแบบมาให้คุ้นเคยกับความตรงเวลา
จนกลายเป็นเรื่องปกติที่ผู้คนแทบจะไม่รู้สึกอะไรกันแล้ว
โดยหนึ่งในเทคโนโลยีที่สำคัญและมีชื่อเสียงมาก
ในด้านประสิทธิภาพการตรงเวลาของประเทศญี่ปุ่น
ก็คือ 'รถไฟชิงกันเซ็ง' (Shinkansen)
ซึ่งเป็นชื่อเรียกเครือข่ายรถไฟความเร็วสูงในประเทศญี่ปุ่น
ซึ่งดำเนินงานโดย 4 กลุ่มบริษัทรถไฟญี่ปุ่น สายแรกที่เปิดใช้งานคือ
โทไกโดชิงกันเซ็ง (ความยาวเส้นทาง 515.4 กิโลเมตร) ในปี 1964
จากนั้นเป็นต้นมา เครือข่ายรถไฟความเร็วสูงชิงกันเซ็งก็ได้ถูกขยายออกไปทั่วประเทศ
ด้วยระยะทางรวมกว่า 2,765 กิโลเมตร และวิ่งด้วยความเร็ว 240–320 กม./ชั่วโมง
นอกจากนี้ ยังมีสาย มินิชิงกันเซ็ง สั้น ๆ ความยาว 10.3 กม. ที่วิ่งด้วยความเร็ว 130 กม./ชั่วโมง
รถไฟชิงกันเซ็งให้บริการแก่ผู้โดยสารด้วยความเร็วสูงสุด 320 กม./ชั่วโมง
แม้ว่าจะสามารถทำความเร็วได้สูงสุดถึง 443 กม./ชั่วโมง ในการทดสอบเมื่อปี 1996
และรถไฟชิงกันเซ็งยังทำลายสถิติรถไฟที่วิ่งเร็วที่สุดในโลกด้วยความเร็วถึง 603 กม./ชั่วโมง
ในการทดสอบขบวนแม็กเลฟ เมื่อเดือนเมษายน ค.ศ. 2015 อีกด้วย
รถไฟชิงกันเซ็ง มีชื่อเสียงมากในเรื่องของการมาตรงเวลา
โดยในปีหนึ่งๆ มีการบันทึกสถิติการมาสายรวมกันที่ประมาณ 36 วินาทีเท่านั้น
จากจำนวนรถไฟทั้งหมดที่ให้บริการมากถึง 120,000 ขบวนในหนึ่งปี
ถือเป็นระบบการจัดการรถไฟที่ยอดเยี่ยมที่สุดแห่งหนึ่งของโลก