เพชรเม็ดงามที่ต้องแลกมาด้วยเลือดเนื้อและชีวิตของคนแอฟริกา
ขึ้นชื่อว่าอัญมณี เป็นใครก็คงอยากจะได้มาไว้ในครอบครอง
เพราะประกายสวยงาม ความหายาก และราคาที่สูงลิบลิ่วของมัน
ที่เบื้องหลังความงามอมตะนี้ หลายครั้งก็ต้องแลกมาด้วยเลือดเนื้อ
ความทุกข์ทรมานและความตาย
'เพชรสีเลือด' หรือเหมืองเพชรบนพื้นที่สงคราม
เป็นชื่อเรียกของบรรดาอัญมณีหลายชนิด(โดยเฉพาะเพชร)
ที่ถูกผลิต ขุดเจาะ และจำหน่ายในเขตพื้นที่สงคราม
เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ของภูมิภาคแอฟริกาตะวันตก
ตั้งแต่ประเทศแองโกลา, กินี, ไลบีเรีย, โกตดิวัวร์, กินีบิซเซา และเซียร์ราลีโอน
ประเทศในแถบนี้ส่วนใหญ่มีฐานะยากจนแต่มีแหล่งเหมืองแร่อุดมสมบูรณ์
และความที่มีแร่ราคาแพงพวกนี้นี่เอง จึงเป็นที่มาของสงครามอัญมณี
และก่อเกิดเป็นสงครามกลางเมืองที่ยืดเยื้อยาวนานจนปัจจุบัน
คำว่าเพชรสีเลือด ในความหมายคืออัญมณี
ที่กลุ่มผู้ก่อความรุนแรง/ผู้ก่อการร้าย หรือกลุ่มแบ่งแยกดินแดน
ทำการขุดเจาะ ผลิต ซื้อขายเพื่อแลกเปลี่ยนเป็นเงิน
ก่อนจะแลกเปลี่ยนเป็นอาวุธสงครามในตลาดมืด และสุดท้ายก็จะนำอาวุธ
ที่ได้จากการซื้อขายเพชรหรืออัญมณีพวกนี้ มาใช้ต่อสู้หรือทำสงครามกับรัฐบาลกลางอีกที
ความเสียหายที่เกิดขึ้นจากสงครามอัญมณีนั้นกว้างขวางรุนแรงมาก
และกินเวลายาวนานนับร้อยปี มีตั้งแต่การบังคับใช้แรงงานทาส
เพื่อเร่งการผลิตอัญมณีตามเหมืองต่างๆ
และเกิดเหตุอาชญากรรมในหลายๆรูปแบบตามมาอีกมากมาย
ในภายหลัง มีการก่อตั้งองค์กร Kimberley เพื่อการสกัดกั้นอัญมณี
ที่ได้จากการทำเหมืองที่ผิดกฎหมายในลักษณะของการใช้แรงงานทาส
โดยผู้ผลิตเพชรหรืออัญมณีจำเป็นจะต้องยื่นเรื่องเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์และความถูกต้อง
ว่าเพชรที่ผลิตได้นั้นมาจากกระบวนการที่ถูกต้องหรือไม่
ก่อนจะได้ใบรับรอง Kimberley ให้ผู้บริโภคได้มั่นใจ
กระบวนการดังกล่าวทำให้ 'เพชรสีเลือด' ลดน้อยลงไปมาก
เพราะการค้าขายในตลาดมืดนั้นทำได้ยากและมีมูลค่าลดลง