ประเทศที่มีการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงมากที่สุด
น้ำมันเชื้อเพลิง ที่ได้มาจากการขุดเจาะและกลั่น
ถือเป็นสิ่งที่จำเป็นมากในยุคปัจจุบัน เพราะในหลายกิจกรรม
ทั้งงานอุตสาหกรรม การเดินทาง หรือแม้แต่การบริโภคในครัวเรือน
ก็ล้วนจำเป็นต้องพึ่งพาพลังงานเหล่านี้เป็นอย่างมาก
ปิโตรเลียม (petroleum) หรือ น้ำมันดิบ
เป็นของเหลวไวไฟที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ประกอบด้วยสารผสมซับซ้อน
ระหว่างไฮโดรคาร์บอนที่มีน้ำหนักโมเลกุลต่างกัน กับสารประกอบอินทรีย์ที่เป็นของเหลวอื่นๆ
ซึ่งพบในชั้นธรณีวิทยาใต้ผิวโลก เป็นเชื้อเพลิงซากดึกดำบรรพ์ เกิดได้จากซากสิ่งมีชีวิต
(มักเป็นแพลงก์ตอนสัตว์และสาหร่าย) จำนวนมากทับถมกันใต้หินตะกอน
และได้รับความร้อนและความดันน้อยมากจนไม่สามารถมองเห็นได้เลย
การขุดเจาะน้ำมันเป็นวิธีการส่วนใหญ่ในการได้มาซึ่งปิโตรเลียม
ซึ่งเป็นขั้นตอนหลังการศึกษาโครงสร้างธรณีวิทยา การวิเคราะห์แอ่งตะกอน
และลักษณะหินกักเก็บปิโตรเลียม หลังขุดเจาะขึ้นมาแล้ว ปิโตรเลียมจะถูกกลั่น
และแยกเป็นผลิตภัณฑ์บริโภคหลายชนิด ตั้งแต่แก๊สโซลีนและน้ำมันก๊าด
ไปจนถึงยางมะตอยและตัวทำปฏิกิริยาเคมีซึ่งใช้ในการทำพลาสติกและเภสัชภัณฑ์
นอกจากนี้ ปิโตรเลียมยังใช้ในการผลิตวัสดุอีกหลายชนิด
นี่คือประเทศที่มีปริมาณการใช้น้ำมันมากที่สุดในโลก
ประเทศสหรัฐอเมริกา 19,780,000 บาร์เรลต่อวัน
หรือคิดเป็นสัดส่วน 19.4% ของการใช้น้ำมันของทั้งโลกใน 1 วัน
ปริมาณการใช้น้ำมันของสหรัฐอเมริกา สูงกว่าประเทศในสหภาพยุโรปทั้งหมดรวมกัน (15 ล้านบาร์เรลต่อวัน)
รวมถึงมากกว่าการใช้น้ำมันในภูมิภาคอาเซียน ที่ใช้น้ำมันอยู่ที่ 6.226 ล้านบาร์เรลต่อวัน
ประเทศจีน 14,225,000 บาร์เรล ต่อวัน
การใช้น้ำมันของจีนคิดเป็น 14.22% ของปริมาณการใช้น้ำมันทั่วโลก
ในขณะที่ประเทศที่เป็นอันดับ 3 ได้แก่ ประเทศอินเดีย
ที่ใช้น้ำมันประมาณ 5.271 ล้านบาร์เรลต่อวัน
ตามมาด้วยประเทศญี่ปุ่น ที่ใช้น้ำมันประมาณ 3.812 ล้านบาร์เรลต่อหนึ่งวัน
ในขณะที่ประเทศไทยมีการใช้น้ำมันอยู่ที่อันดับ 15 ของโลก
ที่ประมาณ 1.344 ล้านบาร์เรลต่อวัน หรือคิดเป็นร 1.3% ของโลก
ซึ่งสูงเป็นอันดับที่ 8 ของทวีปเอเชีย และเป็นอันดับที่ 2
ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
รองจากประเทศอินโดนีเซีย ที่ใช้น้ำมันอยู่ที่ประมาณ 1.628 ล้านบาร์เรลต่อวัน