สแตมป์สุดหายากและมีราคาสูงมากที่สุดในโลก
เชื่อว่าใครหลายคนที่ชื่นชอบเรื่องการสะสมของเก่าหายาก
หรือเป็นเหมือนนักล่าสมบัติเก่ามีค่าทั้งหลาย จะต้องมีชื่อของ 'สแตมป์'
เป็นสิ่งของที่จะอยู่ในอันดับแรกๆในใจอย่างแน่นอน
'แสตมป์' หรือ ตราไปรษณียากร (Postage stamp หรือ Stamp)
เป็นหลักฐานการชำระค่าบริการไปรษณีย์ มักเป็นกระดาษรูปสี่เหลี่ยมเพื่อติดบนซองจดหมาย
แสตมป์ที่มีรูปร่างหรือทำจากวัสดุอื่นก็มีปรากฏให้เห็นอยู่บ้าง แสตมป์มักพิมพ์ออกเป็นแผ่น
ประกอบด้วยแสตมป์หลายดวง ปกติอยู่ระหว่าง 20 ถึง 120 ดวง มีการปรุรูรอบดวงแสตมป์
เพื่อเพิ่มความสะดวกในการฉีก รอยฉีกที่ได้เรียกว่า ฟันแสตมป์ ด้านหลังแสตมป์มีกาวเคลือบอยู่
กระดาษที่ใช้พิมพ์มักมีสิ่งพิเศษไว้เพื่อป้องกันการปลอมแปลง เช่น ลายน้ำ (watermark) หรือ ด้ายสี
หากติดแสตมป์เพื่อใช้งานบนซองแล้ว ต้องมีการประทับตราทุกครั้ง เพื่อป้องกันการนำกลับมาใช้อีก
โดยการสะสมแสตมป์ถือเป็นงานอดิเรกอย่างหนึ่งที่ได้รับความนิยมอย่างมาก
ในปัจจุบันมีสแตมป์ชุดที่ขึ้นชื่อเรื่องความหายากและมีราคาแพงอยู่หลายแบบ
แต่หนึ่งในชุดสแตมป์ที่ถือเป็นที่สุดแห่งความหายากและมีราคาแพงที่สุด
ก็คือ The Red Revenue จากประเทศจีนนั่นเอง
สแตมป์ชุด The Red Revenue หรือ อากรแดง
เป็นอากรแสตมป์ของจีนในสมัยราชวงศ์ชิง เพื่อใช้เป็นอากรแสตมป์ ในปี 1897
ซึ่งถูกผลิตแบบมีจำนวนจำกัด มีการออกแบบที่สวยงาม โดยใช้กระบวนการแกะสลัก
ทำให้แสตมป์นี้เป็นหนึ่งในแสตมป์ที่เป็นที่ต้องการของนักสะสมมากที่สุด
แสตมป์ชุดนี้แบ่งย่อยเป็นหลายประเภท โดยชนิดราคา "หนึ่งดอลลาร์"
เป็นแสตมป์ที่หายากและมีค่าที่สุด ในขณะที่ชุดสแตมป์แบบ 4 ดวง ที่ยังไม่ถูกฉีกออกจากกัน
ถือเป็นของสะสมที่หาได้ยากอย่างยิ่ง จนได้รับฉายาว่าเป็น "มงกุฎเพชร" แห่วงการสแตมป์
โดยสถิติราคาขายสแตมป์ชุดนี้ รวมกับสแตมป์
Large Dragon stamps ชนิดราคา 5 Candarin แบบทั้งชุด (25 ดวง)
มีราคาขายสูงถึง 17.4 ล้านดอลลาร์ เมื่อปี 2009 หรือคิดเป็นมูลค่า 21.5 ล้านดอลลาร์
เมื่อคิดตามอัตราเงินเฟ้อในปัจจุบัน (คิดเป็นเงินไทยประมาณ 749 ล้านบาท)
ซึ่งถือเป็นสถิติราคาขายสแตมป์ที่แพงที่สุดในปัจจุบัน