เมืองใหญ่ที่ถูกบังคับให้กลายเป็นเมืองร้างในชั่วข้ามคืน
การอยู่อาศัยและตั้งรกรากแบบถาวรของมนุษย์ ในพื้นที่ต่างๆของโลก ล้วนต้องผ่านกระบวนการ ขั้นตอน และใช้เวลาไปไม่น้อย โดยปกติแล้วในเมืองต่างๆ เมื่อมีการตั้งถิ่นฐานแล้ว ก็จะมีประชากรรุ่นใหม่ๆ มาอยู่อาศัยต่อไปเรื่อยๆจากรุ่นสู่รุ่น เกิดเป็นเมืองที่เก่าแก่ และมีประวัติศาสตร์อันยาวนานเป็นของตัวเอง
แต่ในขณะเดียวกัน แม้ว่ามนุษย์จะต้องการอยู่ในพื้นที่ของตน ให้ได้นานที่สุด มั่นคงที่สุด แต่หากมีเหตุจำเป็น หรือมีเหตุการณ์ร้ายแรง การจำเป็นต้องอพยพออกจากเมือง และทิ้งบ้านเรือนของตัวเองให้รกร้างก็เป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้ เช่นเดียวกับเรื่องราวของเมืองนี้ในประเทศยูเครน
นี่คือเมืองที่ชื่อว่า ปรือปิยัจ (Prypiat) หรือ ปรีเปียต เป็นเมืองร้างในภาคเหนือของประเทศยูเครน อยู่ใกล้กับชายแดนประเทศยูเครน–ประเทศเบลารุส ตั้งชื่อตามแม่น้ำปรือปิยัจที่อยู่ใกล้เคียง ตัวเมืองได้รับการก่อตั้งในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 1970 ในฐานะเมืองนิวเคลียร์ที่ 9 ("อะตอมการ์ด" หนึ่งในประเภทของเมืองปิด) ในสหภาพโซเวียต เพื่อทำงานในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชียร์โนบีลที่อยู่ใกล้เคียง ปรือปิยัจได้รับสถานะนครใน 1979 และเคยมีประชากรมากถึง 49,360 คน ในเวลาที่ต้องอพยพคนออกไปในตอนบ่าย ของวันที่ 27 เมษายน 1986 หลังจากภัยพิบัติเชียร์โนบีลเพียงวันเดียวและได้กลายสภาพเป็นเมืองร้าง หรือเมืองผี ทันทีนับจากวันนั้นจนถึงปัจจุบัน
แม้จะผ่านมานานหลายสิบปีแล้ว แต่ในปัจจุบัน เมืองแห่งนี้ก็ยังคงอยู่ในสถานะเมืองร้างและพื้นที่หวงห้าม อันเนื่องมาจากผลกระทบจากการรั่วไหลของรังสีในการระเบิดครั้งนั้น ภาพเมืองอันกว้างใหญ่แต่รกร้างนี้ถูกนำไปใช้เป็นฉากหลัง ของสื่อบันเทิงของประเทศอื่นๆมากมาย ทำให้เมืองปรือปิยัจ กลายเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ยาวนานมาจนถึงปัจจุบัน