กระจ่างเสียที!! สาเหตุที่ กทม. มีฝุ่น PM2.5 แหล่งกำเนิด มากจากไหนมากที่สุด[Exclusive Content]
อันดับต้นๆ ของผลกระทบคือ กทม. ฝุ่น PM2.5 มีแหล่งกำเนิดมาจากการขนส่งทางถนน การเผาในที่โล่ง เช่นการเผาไร่นา เผาไร่อ้อย
โดยที่แรงงานตัดอ้อย จะต้องจัดการแปลงให้ทันฤดูปิดหีบ จัดการนาให้พร้อมสำหรับพืชหลังนา ให้ทันช่วงเวลาส่งน้ำของฝ่ายชลประทาน หรือช่วงเวลาแรงงานภาคการเกษตร แม้จะมีเครื่องจักรกลมาช่วยผ่อนแรงบ้างแล้ว
แต่แรงงานคนสำหรับเกี่ยวข้าวหรือเก็บข้าวโพด ทำเพื่อความสะดวกสบาย ในการเช้าเก็บต้นอ้อย เลยเผาใบทิ้งให้หมด นาก็เช่นกัน ไม่เปลืองแรงงาน และค่าจ้างเครื่องจักรไถ่กลบก็เผาเสียเลย ยิ่งในช่วงเดือนธันวาคมถึงเมษายนที่เป็นช่วงเก็บเกี่ยวไร่อ้อยจะทำให้เกิดฝุ่นละอองจำนวนมาก
นี่ก็เป็นอีกสาเหตุ ที่พื้นที่ ที่มีการเผา จะเสื่อมโทรมลงเรื่อยๆ ทำให้ไม่แปลกใจเลยว่า ไร่อ้อย แปลงนา ที่มีการเผาต่อเนื่องกันทุกๆ ปี จึงให้ผลผลิตลดลงเรื่อยๆ
การเก็บเกี่ยวอ้อยทำได้ 2 วิธี คือการตัดอ้อยสด และการเผาอ้อยก่อนตัด แต่เกษตรกรส่วนใหญ่เลือกเผาอ้อยก่อนตัดเพราะ....
-เผาอ้อยก่อนตัดนั้นเก็บเกี่ยวได้สะดวกและง่ายกว่า
-อัตราค่าจ้างแรงงานถูกกว่าการจ้างแรงงานตัดอ้อยสด
-รถตัดอ้อยมีน้อยและไม่บางพื้นที่ไม่เหมาะสมต่อการใช้รถตัดอ้อย
-หากเผาอ้อยก่อนตัดจะได้คิวในการขายก่อนอ้อยสด โดยโรงงานน้ำตาลให้คิวอ้อยไฟไหม้ก่อนอ้อยสด เนื่องจากค่าความหวานของอ้อยไฟไหม้จะมีน้ำหนักลดลงถึงร้อยละ 20 แต่อ้อยสดลดลงเพียงร้อยละ 14 ส่งผลให้โรงงานต้องรีบรับซื้อภายใน 48 ชั่วโมง
โดยมี 11 จังหวัดภาตกลางทั้งนั้น ที่มีค่ามลพิษทางอากาศสูงมาก ได้แก่ พิษณุโลก หนองบัวลำภู สุโขทัย ฉะเชิงเทรา ลำปาง แพร่ ลำพูน หนองคาย อุตรดิตถ์ นครพนม และ สุพรรณบุรี จังหวัดเหล่านี้ส่วนใหญ่ ทำไร่นา และไร่อ้อย ไม่มีทุนมากมาย ที่จะหาเครื่องจักรดีๆ แบบต่างประเทศ มาเก็บเกี่ยว เผานี่แหละดีที่สุด
ในการเผาแต่ละครั้ง ในฝุ่นควันนั้นจะมีทั้ง ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ทำให้หัวใจเต้นเร็ว ความดันโลหิตสูง บางรายถึงขึ้นหมดสติ และเสียชีวิตได้เลย
สารคาร์บอนมอนอกไซด์ ทำให้ออกซิเจนไม่สามารถรวมกับเฮโมโกลบิน ในเลือดได้ ทำให้ร่างกายเกิดอาการวิงเวียนศีรษะ เนื่องจากร่างกายขาดออกซิเจน หัวใจเต้นเร็ว คลื่นไส้ อาเจียน บางรายถึงขึ้นหมดสติ และเสียชีวิตได้เหมือนกัน
สารโพลีไซคลิกอะโรมาติกไฮโดรคาร์บอนหรือสารพีเอเอช ส่งผลให้ร่างกายเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งผิวหนัง มะเร็งตับ มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ มะเร็งปอด
สารฟอร์มาดีไฮด์ ส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจ เมื่อร่างกายได้รับสารนี้บ่อยๆอาจทำให้เกิดโรคต่อถุงลมปอด และมีอาการแน่นหน้าอก หายใจหอบ
สารซัลเฟอร์ไดออกไซด์ หากร่างกายได้รับสารซัลเฟอร์ไดออกไซด์ในปริมาณสูง จะรู้สึกแน่นหน้าอก ชีพจรเต้นเร็ว เป็นอันตรายถึงชีวิตได้เลย
ฝุ่นละออง ที่เกิดจากการเผาไร่อ้อยทำให้เกิดการระคายเคืองต่อระบบทางเดินหายใจ เจ็บคอ แสบหู แสบตา หอบหืด นอกจากนี้ยังส่งผลให้เป็นโรคเรื้อรังอื่นๆ เช่น โรคภูมิแพ้ ไอเรื้อรัง โรคไซนัสอักเสบ
ข้อมูลจาก Air Quality Index us AQI ระบุว่า การเผาแบบนี้ สร้างฝุ่น PM 2.5 ได้ถึง 209,937 ตัน/ ปี ซึ่งมากที่สุด ในวงจรฝุ่นควันนี้
รองลงมาคือ โรงงานอุตสาหกรราสร้างฝุ่น PM 2.5 ได้ถึง 65,140 ตัน/ ปี
ส่วน การคมนาคมขนส่งสร้างฝุ่น PM 2.5 ได้ถึง 50,240 ตัน/ ปี
โดยที่ การผลิตไฟฟ้าสร้างฝุ่น PM 2.5 ได้ถึง 31,793 ตัน/ ปี
โดยที่มันจะเกิด ปรากฏการณ์ผกผันกลับของอุณหภูมิ คือการมีชั้นอากาศที่อุ่นกว่ามาแทรกอยู่ตรงกลางระหว่างชั้นอากาศเย็น (ซึ่งต่างจากภาวะปกติที่อากาศจะเย็นลงเรื่อยๆ เมื่อความสูงจากพื้นผิวโลกเพิ่มขึ้น ) การแทรกของชั้นอากาศอุ่นในรูปแบบนี้ทำให้ฝุ่นควันไม่สามารถลอยผ่านชั้นอากาศอุ่นนี้ขึ้นไปได้ การระบายในแนวดิ่งไม่ดี หรือที่เราอาจจะเคยได้ยินว่าเป็น ฝาชีครอบ และทำให้ค่าความสูงของชั้นบรรยากาศที่อยู่ใกล้ผิวโลกที่เรียกกันว่า Planetary Boundary Layer (PBL) ถูกกดให้ต่ำลงด้วย
Planetary Boundary Layer
Planetary Boundary Layer
[Exclusive Content] Exclusive Content