คดีทุจริตครั้งใหญ่ของไทยว่าด้วยเรื่องบ่อบำบัดน้ำเสียที่สมุทรปราการ
แม้ประเทศไทยของเราจะได้ชื่อว่าเป็นประเทศขนาดใหญ่
ที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรมากมายให้ได้ใช้ประโยชน์
แต่สิ่งหนึ่งที่คนไทยเราไม่สามารถปฏิเสธถึงการมีอยู่ของมันได้
ก็คือปัญหาเรื่อง 'การทุจิตคอร์รัปชัน' ที่เกิดขึ้นอยู่เสมอ
และเกิดขึ้นในทุกระดับชั้นทางสังคม ซึ่งถือเป็นปัญหาใหญ่
ที่ฉุดรั้งประเทศไทยของเราไว้จากความสามารถในการพัฒนา
หลายครั้งที่มีคดีความใหญ่เกี่ยวข้องกับการทุจริต
ที่มีมูลค่าความเสียหายมากมหาศาล โดยหนึ่งในนั้น
จะต้องมีชื่อของ 'คดีคลองด่าน' หรือ
หรือ คดีทุจริตจัดซื้อที่ดินและโครงการก่อสร้างบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน
รวมอยู่ด้วยในความทรงจำของใครหลายๆคนอย่างแน่นอน
'โครงการก่อสร้างบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน'
เริ่มแนวคิดขึ้นในสมัยรัฐบาลนายชวน หลีกภัย และได้อนุมัติวงเงินเริ่มโครงการ
ในสมัยรัฐบาลนายบรรหาร ศิลปอาชา โครงการแห่งนี้ตั้งอยู่บริเวณตำบลคลองด่าน
อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ ถือเป็นโครงการก่อสร้างบ่อบำบัดน้ำเสียที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย
ด้วยศักยภาพในการบำบัดน้ำเสีย รวม 525,000 ลูกบาศก์เมตร ต่อวัน
โครงการได้เริ่มพบการทุจริตมากมายจนภาคประชาชนเข้าร้องเรียนถึง ป.ป.ช.
พบว่าในส่วนของที่ดินของ 'นายวัฒนา อัศวเหม'
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยในขณะนั้น
ทำการกว้านซื้อที่ดินชาวบ้านในท้องที่ด้วยวิธีการข่มขู่ รวมถึงออกเอกสารสิทธิพื้นที่สาธารณะโดยมิชอบ
และบางพื้นที่ยังเป็นป่าชายเลนซึ่งเป็นที่สงวนอีกด้วย จำนวน 17 แปลง
รวมพื้นที่กว่า 1,900 ไร่ ด้วยราคาถูก คือจากไร่ละประมาณ 4 หมื่น
แล้วนำไปขายให้กรมควบคุมมลพิษในราคาไร่ละ 1 ล้านบาท คิดเป็นเงินทั้งหมด 1,900 ล้านบาท
เกิดเป็นคดีความและการฟ้องร้องตามมาอีกมากมาย
และถือเป็นคดีทุจริตที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับหน่วยงานรัฐ
ที่มีมูลค่าความเสียหายมากที่สุดอีกโครงการหนึ่งจนถึงปัจจุบัน