อุบัติเหตุนิวเคลียร์ครั้งที่มีความรุนแรงมากที่สุดในประวัติศาสตร์
หากได้ยินคำว่า 'นิวเคลียร์' หลายคนอาจคิดไปถึงระเบิดลูกใหญ่
ที่มีอานุภาพการทำลายล้างรุนแรงมาก อย่างที่เคยเกิดขึ้นกับประเทศญี่ปุ่น
ในช่วงปลายของสงครามโลกครั้งที่สอง หลายคนอาจจะไม่เคยรู้มาก่อน
ว่านอกจากเหตุระเบิดโดยตรงของระเบิดนิวเคลียร์แล้ว ก็ยังมีเหตุการณ์ร้ายแรง
อีกเหตุการ์หนึ่งที่เกี่ยวข้องกับนิวเคลียร์ (ที่ไม่ใช่การระเบิดของระเบิดนิวเคลียร์โดยตรง)
ซึ่งถือว่าเป็นอุบัติเหตุที่ร้ายแรงมากจนถูกบันทึกไว้มาจนถึงปัจจุบัน
เหตุการณ์นี้คือ
'ภัยพิบัติเชอร์โนปิล หรือ Chernobyl Disaster'
เป็นอุบัติเหตุนิวเคลียร์ ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2529
ที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิล ในเมือง Pripyat
ในอดีตสหภาพโซเวียต (ปัจจุบันคือประเทศยูเครน)
ถือเป็นอุบัติเหตุทางนิวเคลียร์ที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์
อุบัติเหตุนี้เกิดขึ้นในระหว่างขั้นตอนการทดสอบความปลอดภัย
ที่เกิด 'ไฟกระชากอย่างกะทันหัน' ทำให้เครื่องปฏิกรณ์ร้อนเกินไป
และนำไปสู่การระเบิดครั้งใหญ่ การระเบิดนี้ทำลายแกนเครื่องปฏิกรณ์
และทำให้เกิดการปลดปล่อยเมฆกัมมันตภาพรังสีที่แผ่กระจายไปทั่วยุโรป
ภัยพิบัติส่งผลให้คนงานในโรงงานเสียชีวิตทันที 2 คน ในคืนที่เกิดระเบิด
และอีก 28 คน เสียชีวิตในสัปดาห์ถัดมา จากอาการป่วยเฉียบพลันที่เกิดจากกัมมันตภาพรังสี
ผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาวของภัยพิบัติยังอยู่ในระหว่างการศึกษา
แต่คาดว่าจำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมดที่เกิดจากอุบัติเหตุนี้อาจสูงถึง 4,000 ราย
ภัยพิบัติที่เชอร์โนบิลส่งผลกระทบในวงกว้าง รวมถึงการบังคับอพยพผู้คน
116,000 คนจากพื้นที่โดยรอบ การสร้างเขตกีดกัน 30 กิโลเมตร รอบโรงงาน
และผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจที่สำคัญ
ภัยพิบัตินี้ยังนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ
ในกฎระเบียบด้านความปลอดภัยทางนิวเคลียร์ และการมุ่งเน้นใหม่
เกี่ยวกับความสำคัญของความปลอดภัยในอุตสาหกรรมนิวเคลียร์
การระเบิดของโรงไฟฟ้าเชียร์โนบีล
ถือเป็นเหตุการภัยพิบัติที่มีมูลค่าความเสียหายสูงที่สุดด้วย
โดยมีค่าความเสียหายประมาณ 790,000 ล้านดอลลาร์
หรือมากกว่า 28.41 ล้านล้านบาท