ผักสุก VS ผักสด กินอย่างไรถึงได้ประโยชน์เยอะ
พูดถึงผักสำรับบางคนก็เหม็นเขียว ร้องยิ้ บอกไม่ไหวจะทานแล้ว แต่สำหรับสายสุขภาพแล้วล่ะก็ ผักเป็นดั่งสวรรค์ ที่จะประทานสุขภาพดีๆ ให้กับผู้รับประทาน ทั้งในเรื่องผิวพรรณ และการขับถ่าย เพราะผักอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ ทั้งใยอาหาร วิตามิน และแร่ธาตุ อีกทั้งผักยังเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมอาหารไทย โดยคนไทยนิยมบริโภคผักสดและผักปรุงสุกตามแต่ละเมนู
แล้วเราควรจะทานแบบไหนกันนะ เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุด
ข้อมูลจากเว็บไซต์ POBPAD กล่าวถึงในทางวิทยาศาสตร์ การที่เรานำผักมาทำให้สุกด้วยขั้นตอนต่างๆ ไม่ว่าจะต้ม ผัด แกง ทอด ก็เป็นการเปลี่ยนปริมาณ และโครงสร้างของสารอาหารภายในผักไปได้ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงของสารอาหาร ย่อมส่งผลต่อสารอาหารในผักค่ะ
อย่างแรกเลยคือผักที่ปรุงสุก สารอาหารจะลดลง เนื่องจากสารอาหารบางชนิดจะละลายในน้ำ อย่างเช่นวิตามินซีและบี เมื่อนำผักที่มีสารอาหารเหล่านี้ไปปรุงด้วยวิธีการต้มหรือมีน้ำเป็นส่วนประกอบก็อาจลดปริมาณของวิตามินที่ละลายน้ำได้ถึง 50-60 เปอร์เซ็นต์
นอกจากวิตามินซีและบีที่ลดลงจากการปรุงด้วยน้ำและความร้อนแล้ว วิตามินและสารอาหารบางชนิดก็อาจลดระดับลงจากการปรุงด้วยกลไกที่แตกต่างกัน แต่ในกลุ่มสารอาหารที่ไม่ละลายในน้ำแต่ละลายในน้ำมัน อย่างกลุ่มวิตามินดี วิตามินอี และวิตามินเค อาจไม่เปลี่ยนแปลงเมื่อผ่านความร้อน แต่ขั้นตอนการปรุงบางอย่างก็อาจทำให้วัตถุดิบสูญเสียสารอาหารได้เช่นกัน
แล้วการทานผักสดล่ะ ดีอย่างไร ส่งผลอะไรบ้างต่อร่างกาย
หลายคนก็ชื่นชอบการทานผัดสดกรอบๆ เป็นชีวิตจิตใจ เพราะให้ความรู้สึกสดใหม่ และมีความเชื่อว่ามีสารอาหารที่ดีกว่าการนำมาปรุงสุก อย่างเช่นพวกวิตามินที่ละลายในน้ำ หาเราทานผักสด วิตามินเหล่านี้ร่างกายเราก็จะได้รับสารอาหารไปอย่างเต็มที่
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องคำนึงว่า ผักสดนั้นอาจมีสารปนเปื้อนจากยาฆ่าแมลงได้ การสัมผัสโดยตรงกับสารเคมี อาจทำให้เราท้องเสีย ปวดท้อง เกิดอาการอาหารเป็นพิษ พยาธิในลำไส้ และผักบางชนิดอาจเคี้ยวยาก และมีความแข็ง ดังนั้นเราจึงต้องรับประทานผักสดด้วยความระมัดระวัง ล้างให้สะอาดทุกครั้ง