5 อาชีพที่กำลังหายไป และจะหายไปจนหมดในปี 2030 อย่างแน่นอน
รวบรวมอาชีพที่กำลังหายไปในขณะนี้ และในอีกไม่กี่ปีข้างหน้ามันจะหายไปหมด โดยมันอาจจะเกิดขึ้นเร็วขึ้น เพราะมีสถานการณ์โรคระบาดมาเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ ที่เร่งให้เราต้องหันมาใช้เทคโนโลยีกันในการทำกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อลดการติดต่อกันโดยตรงระหว่างคนกับคน อันเป็นต้นเหตุของการแพร่ระบาดของไวรัส ในอนาคตคาดว่าจะเชื้อไวรัสตัวใหม่ๆ เกิดขึ้นมาอีก
คนบนโลกได้เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมหลายอย่างแบบถาวรไปแล้ว ที่เรียกันว่า New Normal นั่นหมายความว่า อาชีพที่เทคโนโลยีสามารถทำแทนได้เหล่านี้ อาจจะสูญสลายหายไปเร็วกว่าที่คาดการณ์ในปี 2030 หรือไม่เกิน 7 ปีข้างหน้านี้
1. การตลาดทางโทรศัพท์ เทเลมาร์เก็ตติ้ง การขายประกันทางโทรศัพท์ ขายบัตรเครดิต ขายสินเชื่อต่างๆ
ถือเป็นอาชีพที่รบกวนชีวิตประจำวันของคนเรามากที่สุดอาชีพหนึ่งเลยทีเดียว (น่าเบื่อมาก) ทุกวันนี้เราแทบจะไม่รับโทรศัพท์หรือกดตัดสายทิ้งหรือไม่ก็ติดตั้งแอพ whoscall เพื่อดักจับเบอร์โทรศัพท์แปลกๆ ที่เข้ามา อีกทั้งยังเป็นช่องทางของมิจฉาชีพอีกด้วย จนทำให้แม้ว่าผมเองยังไม่รับเบอร์โทรศัพท์ที่ไม่อยู่ใน contact list อีกต่อไปแล้ว โทรมาผมก็ block มันลูกเดียว คนที่โทรมาขายประกัน ขายบัตรเครดิตคนที่ประกอบอาชีพนี้ก็เริ่มจะทำยอดไม่ได้ เพราะพฤติกรรมคนสมัยใหม่ไม่รับเบอร์โทรแปลกแบบนี้ มันกระทบต่องานขายทางโทรศัพท์ หรือ เทเลเซลล์โดยตรงที่สุด จึงมีโอกาสที่จะตกงานสูงมากสำหรับอาชีพพวกนี้
2. ตัวแทนท่องเที่ยว มัคคุเทศก์ ไกด์
ผมเองเลิกใช้บริการตัวแทนมานานราว 10 ปีแล้ว นับตั้งแต่ที่เว็บไซต์การจองตั๋วเครื่องบิน จองที่พักได้เอง ผมทำทุกอย่างด้วยตัวเองได้หมด ทั้งวางแผนท่องเที่ยวในต่างประเทศ ภาษาอังกฤษผมก็เอาตัวรอดในต่างประเทศได้ ผมสามารถจัดการวันเวลาสถานที่เที่ยวที่แน่นอนของเราได้เอง เลือกเที่ยวบินที่เราสะดวกตามงบที่มี และค้นหาที่พักตามงบประมาณที่เรากำหนดเองทั้งหมด ผมสามารถออกแบบการท่องเที่ยวในรูปแบบเฉพาะตัวของเราเอง ไม่ซ้ำแบบใคร อย่างผมชอบธรรมชาติ จะใช้เวลาที่ป่าไม้ ภูเขา อุทยาน แม่น้ำลำธาร ชายหาด สวนสาธารณะไหนบนโลกนานแค่ไหนก็ได้ โดยไม่สนพึ่งพาใคร อาชีพมัคคุเทศก์หรือไกด์ ก็ดูเหมือนจะหมดความสำคัญไป คนวางแผนเที่ยวจากการอ่านรีวิวที่มีคนเขียนไว้ ตามยูทูปท่องเที่ยว หรือรายการพาเที่ยวต่าง ๆ เยอะแยะไปหมด ส่วนความรู้เรื่องสถานที่ท่องเที่ยวก็หาอ่านได้ทั่วไปจากอินเทอร์เน็ต ที่สำคัญ สำหรับคนไปเที่ยวเพื่อพักผ่อน อาจไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อไปหาความรู้เกี่ยวกับสถานที่นั้น ๆ เพียงแต่ไปหาประสบการณ์ชีวิตต่างบ้านต่างเมือง ชื่นชมความสวยงาม ไปถ่ายรูป ไปช้อปปิ้ง ไปพักผ่อน เพราะฉะนั้น พวกเขาไม่จำเป็นต้องรู้ขนาดที่มีไกด์มาอธิบาย
3. เลขานุการ ผู้ช่วยส่วนตัว
เลขานุการที่เป็นผู้ช่วยจัดการชีวิตที่เป็นคนอาจไม่จำเป็นอีกต่อไปแล้ว ในโลกที่มี AI มี IoT มีระบบ data base ขนาดใหญ่ มีระบบคลาวด์ที่เก็บข้อมูลได้มากมายมหาศาล แถมเรียกใช้งานง่าย สะดวกด้วยคลิกเดียว ให้ผู้คนทั้งที่เป็นผู้บริหารและคนทำงานทั่วไป หันมาใช้หุ่นยนต์ คอมพิวเตอร์และระบบดิจิทัลทำงานแทนกันหมด เรื่องส่วนตัวหลายอย่างเราจัดการชีวิตตัวเองได้โดยไม่อยากให้ใครรู้เห็น เป็นความลับส่วนตัว เลขานุการจึงลดบทบาทหน้าที่ลงไปมากทีเดียว ปัจจุบันผมใช้แอพเลขานุการส่วนตัวช่วยจัดการชีวิต มีการตั้งตารางการทำงาน ชีวิตส่วนตัวในโทรศัพท์ ให้มันเตือนได้เอง แถมยังสามารถใช้ chatGPT ช่วยให้คำปรึกษาได้ จนคนไม่ได้สำคัญเลยจริงๆ
4. พนักงานธนาคาร เทลเลอร์
เมื่อก่อน ใครที่ได้เป็นพนักงานธนาคารจะดูโก้เก๋ ดูเป็นงานที่ดีดูมั่นคง แต่งตัวหล่อสวย นั่งห้องแอร์ แต่ในปัจจุบันและอนาคต อาชีพนี้อาจจะไม่มีอยู่อีกแล้ว เพราะเราทำธุรกรรมทางการเงินออนไลน์ได้โดยไม่ต้องไปธนาคาร ผมแทบไม่ได้ไปธนาคารมา 3 ปีเต็มแล้ว โดยไม่กระทบชีวิตอะไรผมเลย ไม่ต้องเสียเวลาต่อคิวนานๆที่สาขาธนาคาร น่ารำคาญและเสียเวลามาก ธนาคารหลายแห่งหลายสาขาก็ปิดตัวไป สังเกตได้เลยครับ ผมอ่านข่าวดูปีนี้ก็จะลดลงอีกหลายร้อยสาขา จึงมีการเลิกจ้างพนักงานธนาคารในสาขานั้น ๆ ลงไป จนในอนาคตจะมีสาขาใหญ่ๆไม่กี่สาขาเท่านั้น เหมือนในต่างประเทศที่ธนาคารอยู่บนออนไลน์ และไม่มีสาขาเลย
5. พนักงานแคชเชียร์
เมื่อก้าวเข้าสู่สังคมไร้เงินสดอย่างเต็มรูปแบบ แคชเชียร์จะเป็นอาชีพที่หายไป เราสามารถบริการตัวเองด้วยการจ่ายเงินผ่านเครื่องอัตโนมัติ สแกน จ่าย จบ รวมถึงในอนาคตอันใกล้ ปัจจุบันผมเห็นห้างหลายแห่งเริ่มมีช่องให้จ่ายสินค้าด้วยตัวเองด้วย นอกจากนั้น สกุลเงินดิจิทัลก็กำลังเติบโตอีกด้วย เทคโนโลยีกำลังจะเข้ามามีอิทธิพลต่อชีวิตประจำวันอย่างมาก แม้ว่าจะไม่ใช่ทุกคนที่จะเข้าถึงสังคมไร้เงินสด แต่การใช้แรงงานคนเพื่อจัดการกับการชำระเงินก็ไม่จำเป็นอยู่ดี ทุกวันนี้บอกตรงๆ ไม่ต้องพกเงินสดสักบาทออกจากบ้าน ก็ใช้ชีวิตในกรุงเทพได้สบายมาก
ทั้งหมดนี้เป็นอาชีพที่จะหายไปในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ปัจจุบันก็กำลังหายไปแล้วครับ และมันอาจจะเกิดขึ้นเร็วขึ้น เพราะมีสถานการณ์โรคระบาดเชื้อไวรัสตัวใหม่ๆ ในอนาคต
มาเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ ที่เร่งให้เราต้องหันมาใช้เทคโนโลยีกันในการทำกิจกรรมต่าง ๆ นั่นหมายความว่า อาชีพที่เทคโนโลยีสามารถทำแทนได้เหล่านี้ อาจจะสูญสลายหายไปเร็วกว่าที่คาดการณ์ในปี 2030 แน่นอน ฟันธง