หลับยากใช่มั้ย ลองมาปรับวิธีการเข้านอนกันดีกว่า
นอนไม่หลับ หัวใจมันกระสับกระส่าย
ถึงเวลาอยากนอนแต่ตายังสว่างข่มให้หลับไม่ลง
แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการนอนหลับพักผ่อนเป็นเรื่องที่จำเป็นสำหรับชีวิตของทุกคน
ไม่ว่าจะช่วงวัยใด อาชีพใด การนอนหลับเพื่อเข้าสู่การพักผ่อนที่แท้จริงเป็นสิ่งที่สำคัญมากกกก
อย่างที่เราถูกปลูกฝังและจดจำมาว่าต้องนอนอย่างน้อย 7 - 8 ชั่วโมงต่อวันเพื่อให้ร่างกายได้รับการพักผ่อนอย่างเต็มที่
รู้มั้ยว่า ถ้าคุณนอนหลับให้ร่างกายได้พักผ่อน มันมีประโยชน์มากเลยนะ
โดยเฉพาะต่อการสร้างภูมิคุ้มกันและซ่อมแซมร่างกาย
แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการจะให้นอน 7 - 8 ชั่วโมงต่อวันสำหรับวัยทำงาน หรือวัยเรียนบางคนนั้นเป็นไปได้ยากและยากมาก
หรือบางคนนอนเกินวันละ 8 ชั่วโมงแต่ตื่นมาก็ยังไม่สดชื่น
บางคนต้องพึ่งยานอนหลับเป็นตัวช่วย ซึ่งจะส่งผลเสียต่อระบบการนอนของตัวเราในระยะยาวนะ อันนี้เลี้ยงได้ควรเลี่ยง
ในวันนี้จึงมีวิธีเตรียมตัวสู่การนอนหลับเพื่อให้ร่างกายได้พักผ่อนอย่างแท้จริงมาฝากกัน
เป็นวิธีที่เจ้าของกระทู้ได้ทดลองใช้กับตัวเองและเห็นว่ามีประโยชน์เลยมาแชร์ให้เพื่อน ๆ ได้ลองกัน
เอาล่ะจะมีวิธีอะไรบ้าง ลองไปดูกันเลย
1. ตั้งเวลาการนอนคำนวณเวลาการนอนให้เพียงพอ
เริ่มด้วยการเตรียมตัวก่อนเข้านอน ร่างกายเราเราเองที่รู้ดีที่สุด และตารางเวลาชีวิตก็เป็นตัวเราเองที่รู้ดีที่สุด หากเป็นไปได้ควรนอนไม่เกินสี่ทุ่มอย่างที่บทความทางการแพทย์แนะนำ แต่หากทำไม่ได้เพราะภารกิจแต่ละคนไม่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นให้นับ นับ แล้วก็นับ เวลานอนไปจนถึงเวลาตื่นนอนของตัวเองว่าจะเพียงพอ อย่างน้อยก็ควรให้อยู่ใน 7 - 8 ชั่วโมง แล้วเราก็จะรู้ว่าต้องเริ่มนอนตอนกี่โมง อย่างตัวเจ้าของกระทู้จะะต้องตื่นตีห้าครึ่งทุกวันทำงานก็จะตั้งเวลาไว้ว่าจะต้องนอนไม่เกินสี่ทุ่ม (เผื่อเวลาสำหรับตัวเองกว่าจะหลับอาจจะเป็นสี่ทุ่มครึ่ง) เมื่อได้เวลาเข้านอนแล้วเราก็ไปเตรียมตัวในข้อต่อไปกันเลย
2. ปิดทีวี วางมือถือ ห่างจากแสงสีฟ้า
แสงสีฟ้า แสงจากทีวี เป็นหนึ่งในสิ่งรบกวนการนอนอย่างเห็นได้ชัด ยิ่งเราเปิดทีวีแล้วดูสิ่งที่สนใจหรือไถหน้าจอมือถือไปเรื่อย ๆ ความสนใจก็ยังทำงานอยู่บนหน้าจอแล้วเวลาที่เดินผ่านไปเรื่อย ๆ ก็ดูเหมือนจะเดินเร็วขึ้นเวลาที่สายตาจับจ้องอยู่บนหน้าจอก่อนที่จะนอน เมื่อความสนใจอยู่บนหน้าจอเราก็จะไม่รู้สึกง่วง หรือกว่าจะง่วงก็เลยเวลาที่ควรนอนไปแล้ว อารมณ์แบบหันไปมองนาฬิกาอีกที "อ้าวเฮ้ย เลยเวลานอนที่ตั้งเอาไว้ไปแล้ว" เพราะฉะนั้นเมื่อตั้งเวลาที่ต้องเข้านอนได้แล้ว ควรปิดทีวี วางมือถือให้ห่างจากตัวอย่างน้อย 15 - 20 นาทีก่อนถึงเวลานอนเพื่อให้ตัวเราเองไม่ใจจดใจจ่อกับหน้าจอและให้สายตาได้ปรับสภาพออกจากแสงสีฟ้าที่รบกวนต่อการนอนและเพื่อสุขภาพที่ดีของสายตาด้วยนะ
3. ผ่อนคลายเรื่องกังวล คลายกังวลเรื่องงาน แล้วค่อยไปเริ่มใหม่ในวันพรุ่งนี้
วันพรุ่งนี้ยังมีเวลาสำหรับการคิดเรื่องต่าง ๆ เสมอ หากไม่ปล่อยให้สมองได้พักผ่อนแม้จะล้มตัวลงนอนไปแล้วยังไงก็นอนไม่หลับ เจ้าของกระทู้เข้าใจว่าความกังวลแต่ละคนไม่เท่ากัน บางคนกำลังมีมรสุมชีวิตให้ต้องคิดอย่างหนัก บางท่านก็ปล่อยวางเรื่องงานไม่ได้จึงยังวนเวียนอยู่ในความคิด ข่มตานอนเท่าไรสมองก็ยังทำงานไม่หยุดสุดท้ายก็นอนไม่หลับได้แต่นอนกระพริบตาปริบ ๆ เป็นจังหวะอยู่บนที่นอน ร่างกายอยากพักผ่อนแต่สมองยังทำงานแบบนี้ให้ข่มตานอนเท่าไรก็คงนอนไม่หลับ วิธีนี้มีแต่เราที่ต้องช่วยตัวเราเอง บอกกับจิตใจ บอกกับสมอง สลัดเรื่องต่าง ๆ ในความคิดออกไปก่อน พรุ่งนี้ยังมีสำหรับให้คิดอะไรต่ออีกมากมาย วันนี้เราแค่นอนหลับให้ร่างกายได้พักผ่อนแล้วตื่นไปเริ่มใหม่ในวันพรุ่งนี้ เพราะถึงคุณจะคิดและไม่ปล่อยวางให้สมองแทบระเบิดจนนอนไม่หลับตื่นนอนไปอีกวันคุณก็ต้องคิดมันอยู่ดี สู้ปล่อยวางความคิดแล้วทิ้งตัวลงนอนปล่อยเวลาให้ร่างกายได้พักผ่อนอย่างเต็มที่สักนิดแล้วค่อยไปสู้กันต่อในวันถัดไปมันคงเป็นสิ่งที่ดีกว่า
4. จัดที่นอนให้เหมาะกับการนอน
หลายคนอาจมองข้ามเรื่องของอุปกรณ์และเรื่องของที่นอนไปแต่อยากให้รู้ไว้เลยนะว่าเรื่องของที่นอนนี่ล่ะเป็นอีกสาเหตุสำหรับที่ส่งผลต่อการนอน ความชื่นชอบของแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนชอบที่นอนโล่ง ๆ บางคนชอบที่นอนรายล้อมด้วยตัวตุ๊กตาเพื่อนรัก เพราะฉะนั้น การจัดที่หลับที่นอนให้เข้ากับความชื่นชอบของตัวเอง เช็คคุณภาพของที่นอนสักนิดว่าทำให้หลับสบายหรือเปล่า บางครั้งฟูกนอนที่แข็งกระด้างจนเกินไปก็ส่งผลให้คุณภาพการนอนหลับไม่ดีเท่าที่ควร ปัดกวาดฝุ่นสักนิด ใช้หมอนที่เหมาะสำหรับการนอนของตัวเราเองสักหน่อย เปลี่ยนฟูกนอนให้นุ่มก็ยิ่งช่วยให้หลับสบายไม่ปวดหลัง จัดที่นอนให้อยู่ในที่มีแสงรบกวนน้อย ปรับอุณภูมิให้เหมาะต่อการนอนหรือมีพัดลมช่วยเป่าระบายอากาศให้การหายใจในตอนที่เรานอนหลับมีความสบายตัวก็เป็นอีกตัวช่วยที่ทำให้เราเข้าสู่ภวังค์หลับได้ง่ายขึ้น
5. ปิดไฟก่อนนอนเพื่อสร้างบรรยากาศ
เป็นวิธีที่เจ้าของกระทู้ใช้เป็นประจำและเห็นผลสำหรับการเตรียมตัวเข้านอนได้เป็นอย่างดี เมื่อใกล้ถึงเวลาที่ต้องเข้านอนลองปิดไฟก่อนเวลาสัก 15 - 30 นาที แล้วทิ้งตัวลงบนที่นอนเพื่อปรับบรรยากาศให้เหมาะสำหรับการนอนหลับ ไม่มีแสงรบกวน มีแค่ตัวเรานอนอยู่ที่นอนนุ่ม ๆ เชื่อเถอะว่าใช้เวลาไม่นานเดี๋ยวตัวเราก็เข้าสู่ห้วงนิทราไปโดยง่ายดาย
6. เปิดเรื่องเล่า ฟังพอดแคสต์
เป็นอีกหนึ่งวิธีที่เจ้าของกระทู้ใช้ในตอนที่ปิดไฟแล้วแต่ยังนอนไม่หลับ เปิดพอสแคสต์สักเรื่องที่ไม่ใช่เรื่องที่เราสนใจหรือคิดตามมากนัก ไม่ใช่เรื่องที่ตื่นเต้นเร้าใจจนต้องลุกขึ้นมานั่งฟัง เป็นเรื่องเล่าด้วยน้ำเสียงสบาย ๆ ซึ่งปัจจุบันมีพอสแคสต์หลายช่องที่ช่วยเล่าเรื่องขับกล่อมให้เราเข้าสู่ห้วงนิทรา หรือใครที่ไม่ชอบฟังเรื่องเล่าลองเปลี่ยนเป็นเสียงธรรมชาติบำบัดการนอนก็ไม่แย่เลย นอนฟังเสียงขับกล่อมไปเพลิน ๆ เดี๋ยวก็หลับไปแบบไม่รู้ตัว
7. ไม่กังวลหรือบังคับให้ตัวเองหลับ
บางคนที่หลับยากหลับเย็นเหลือเกิน อย่าบังคับให้ตัวเองต้องหลับจนหัวใจต้องกระสับกระส่ายเดี๋ยวจะนอนไม่ได้เพราะมัวแต่นับแกะไปพันตัวก็ยังนอนไม่หลับ หรือแอบดูนาฬิกาบ่อย ๆ แล้วรู้สึกว่าทำไมถึงไม่หลับสักที ยิ่งบังคับยิ่งกังวลความคิดวิ่งแล่นทั่วสมองให้ทำงานสุดท้ายก็ได้แต่นอนตาใสหัวใจว้าวุ่นไม่หลับไม่นอน อย่ากดดันตัวเองโดยเฉพาะช่วงแรกที่คุณลองปรับเวลานอนมันเป็นไปได้ยากที่คุณจะหลับด้วยการบังคับจิตใจว่าต้องนอนเดี๋ยวนี้นะเดี๋ยวฉันจะนอนไม่พอ เพราะฉะนั้นปล่อยร่างกายให้เข้าสู่ห้วงนิทราด้วยตัวเองไม่ต้องกังวล ไม่ต้องคิดมาก ทิ้งตัวลงนอนแล้วปล่อยให้ร่างกายอยู่นิ่ง ๆ ไม่ใช้ความคิดกดดันร่างกายเดี๋ยวห้วงนิทราก็จะมาเยือนเราเอง
8. นอนให้เป็นเวลา
อีกหนึ่งสาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้หลับยากหลับเย็นก็คือการนอนไม่เป็นเวลา เมื่อคืนนอนเที่ยงคืน วันนี้นอนตีสอง แบบนี้ร่างกายก็จดจำเวลาที่ควรพักผ่อนไม่ได้ ลองค่อย ๆ ปรับการนอนให้เป็นเวลาและพยายามเข้านอนในทุก ๆ วันให้เป็นเวลา หากวันไหนทำไม่ได้ก็ไม่เป็นไรแต่อย่างน้อยคุณควรปรับนาฬิกาชีวิตให้รู้จักเวลาที่ต้องเข้านอน เมื่อปรับจนร่างกายรู้สึกคุ้นชินแล้วเมื่อถึงเวลาที่ควรเข้านอนร่างกายก็ยังสัญญาณความง่วงนอนเตือนคุณเองว่า ไปนอนซะ!!! ฉันจะนอน
เป็นอย่างไรกันบ้างครับสำหรับวิธีการทักทายห้วงนิทรา
เป็นวิธีที่เจ้าของกระทู้ลองใช้เพื่อปรับให้ตัวเองได้นอนพักผ่อนอย่างเป็นเวลา
ลองนำไปปรับใช้กันดูนะครับ ได้ผลหรือไม่ได้ผลอย่างไรก็มาพูดคุยแนะนำกันได้
หรือเพื่อน ๆ คนไหนมีวิธีดี ๆ ก็แนะนำกันได้นะครับ
อย่าลืมนะครับการพักผ่อนให้เพียงพอและการทำให้ร่างกายนอนหลับอย่างแท้จริงถึงจะเป็นการพักผ่อนที่ดีที่สุดต่อร่างกาย
ร่างกายเรามีแค่ร่างกายเดียวใช้งานเขาจนคุ้มแล้วก็อย่าลืมดูแลเขาด้วยล่ะ
รูปภาพ : pixabay