5 สัญญาณความสัมพันธ์เป็นพิษ
5 สัญญาณความสัมพันธ์เป็นพิษ
เดากันว่าหลาย ๆ คนกำลังตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ หรือไม่ก็เคยตกอยู่ในสภาวะแบบนี้เช่นกัน นั่นก็คือ การตกอยู่ในความสัมพันธ์แบบบังคับบงการ
ความสัมพันธ์แบบบังคับบงการคืออะไร ???
คือความสัมพันธ์ที่มีฝ่ายบงการ จะมีฝ่ายหนึ่งคุมเกมและชอบล้ำเส้นอีกฝ่ายด้วยการทำให้อีกฝ่ายรู้สึกผิด โดยใช้คำพูดหรือการกระทำบางอย่าง บางทีก็ใช้คำพูดเพื่อผลักภาระ เช่น "เธอควรเป็นคนที่เข้าใจฉันมากที่สุดสิ" หรือหว่านล้มให้อีกฝ่ายพิสูจน์ความรักด้วยการทำบางสิ่งบางอย่าง ซึ่งบางครั้งก็ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกว่านี่คือเงื่อนไขในการได้รับความรักและในเวลาเดียวกันก็ทำให้รู้สึกว่าตัวเองพิเศษและสำคัญโดยที่ไม่รู้ตัวว่ากำลังถูกควบคุมอยู่
ซึ่งความอันตรายของความสัมพันธ์แบบนี้อยู่ตรงที่จะทำให้ฝ่ายที่ถูกบงการไม่เป็นตัวของตัวเอง ส่งผลให้มีแนวโน้มที่ความเชื่อมั่นในตังเองลดลง
แบบนี้ความสัมพันธ์แบบบังคับบงการเป็นแบบไหนกันละ ??
1. บังคับ บงการในการเป็นตัวเองของเรา
เราจะมีความรู้สึกว่าอีกฝ่ายหวังดีกับเรา รักเรา แต่จริงๆ แล้วเค้าอาจจะกำลังบงการเราโดยที่เขาก็ไม่รู้ตัวเหมือนกัน และตัวเราเองก็ยากที่จะแยก(แยะ) เพราะตอนที่เราอยู่ ณ จุดนั้น เรารักเขา (อะไรก็ดีไปหมด)
ยกตัวอย่าง
เขากำลังทำให้เราสงสัยในการเป็นตัวของตัวเองของเรา เช่น สิ่งที่เราเป็น สิ่งที่เราทำ มันดีพอหรือยัง? มันผิดหรือเปล่า? ทำให้เรารู้สึกกล้าๆกลัวๆ ที่จะทำอะไรบางอย่าง
2.ทำให้อับอาย
การที่เขาทำให้เรารู้สึกอับอายแต่กลับบอกเราว่าหยอกเพราะรัก หรือบอกว่าเธอคิดมากไปหรือเปล่า!?
ยกตัวอย่าง
นั่งรถไปหาเพื่อนแฟนแต่เอารถยนต์ไป ทั้ง ๆ ที่ขับมอเตอร์ไซต์ก็ได้ แล้วเพื่อนถามว่าทำไมไม่เอามอเตอร์ไซต์มา เขากลับบอกว่า ก็เนี่ยอัวนขนาดนี้ก็ต้องเอารถยนต์มาแล้วมั้ย แล้วก็ขำ ซึ่งความเป็นจริงแล้วที่เอารถยนต์มาเพราะอากาศร้อน
3.ใช้คำพูดที่ทำให้เรารู้สึกด้อยค่า
การที่เขาพยายามพูดให้เรารู้สึกด้อยค่า กดให้เราดูต่ำกว่าเขา เขาจะทำให้เรารู้สึกเสียใจ รู้สึกผิด ที่ทำให้เขารู้สึกแย่
ยกตัวอย่าง
การที่เขาทำงานในที่มีชื่อเสียงกว่าเรา เขาก็จะแบบว่าทำไมเธอไม่มาทำงานในที่ที่มันดี ๆ แบบเขา หรือแม้กระทั่งการที่เราทำอะไรได้ดีกว่าเขา เขาก็จะมาติว่าเราว่าทำไมเธอไม่บอก ไม่สอนเราบ้างแล้วเขาก็โกรธเราจนเราต้องกลับมาโทษตัวเองว่าทำไมเราถึงไม่ทำสิ่งนั้น ๆ ที่เขาบอกเลยทำให้เขานอยหรือแย่กว่าเรา
4.การที่เรารู้สึกว่า เราไม่อยากทำอะไรเลย
เพราะมันจะผิดไปหมด ในที่นี้คือประมาณว่าการที่เราทำอะไรไม่ถูใจเขา=เราผิด
ยกตัวอย่าง
การที่เราเป็นคนชอบพูด แล้วเราพูดไปเรื่อยเขาก็เอาแต่ว่าเราพูดไปเรื่อย หรือแม้แต่การที่เราอยากจะเดินจับมือเขา แต่เขาสบัดออก หรือการที่เราร้องให้ต่อหน้าเขาเพราะเราเสียใจ เขาก็จะพูดว่าร้องไห้อีกแล้วพร้อมกับถอนหายใจ ซึ่งทั้งหมดนี้อาจจะเป็นนิสัยของเราซึ่งตอนแรกๆที่คบกันก็ไม่ได้ติเรา
และอีกอย่างที่จะขอเสริมคือ การหลอกให้รักแล้วก็จากไป!! โดยการที่อีกฝ่ายแสดงออกว่ารักอีกฝ่ายแต่แท้จริงแล้วอาจรักแหละหรือรักนิดหน่อยหรือไม่รักเลยก็ได้ เคสนี้มีให้เราเห็นได้ทั่วไปเลย ไม่ว่าจะเป็นการหลอกเอาสิ่งของ รวมไปถึงทรัพย์สินส่วนตัวของอีกคน โดยใช้คำพูดหรือการกระทำที่ส่งผลให้อีกฝ่ายคล้อยตามและยอมทำตามในสิ่งที่ขอ
เราเชื่อว่ามีหลาย ๆ คนที่ตกอยู่ในสภาวะแบบนี้ แล้วตัวเราเองก็เอาแต่โทษตัวเองว่าเรื่องนี้ฉันผิดเอง ฉันขอโทษ จะไม่ทำแล้ว ฉันไม่ดีพอ
เราเข้าใจ เข้าใจทั้งหมด ทุกคนนี่แหละมันเป็น สัญญาณที่สำคัญ ว่าเรากำลังก้าวเข้ามาในความสัมพันธ์เป็นพิษแล้วนะคะ ถึงคุณบอกว่าคุณไหว คุณรักเขา แต่คุณก็อยากลืมรักตัวเองนะคะ