ความขัดแย้งของสงครามเย็น!!!
สงครามเย็นที่ใคร ๆ อาจจะเคยได้ยินมา ซึ่งบางคนอาจจะคิด ขึ้นชื่อว่าสงครามมันจะเย็นได้ไงแอด หรือเขาต่อสู้กับที่ขั่วโลกเหนือ ไม่ใช่ เดี๋ยวผู้หญิงชอบเล่นจะมาเล่าให้ฟัง
สงครามเย็นเกิดจากการชิงดีชิงเด่นกันระหว่างประเทศอภิมหาอำนาจ โดยริเริ่มมาจากสงครามโลกที่ผ่านมาทั้ง 2 ครั้ง เฮียสหรัฐอเมริกาเสียหายน้อยกว่าประเทศคู่สงครามในยุโรป ทั้งยังเป็นประเทศที่มีความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยีสูง และเป็นประเทศแรกที่สามารถผลิตอาวุธนิวเคลียร์ เฮียแกจึงตั้งตัวเองเป็นตำรวจโลก เพื่อพิทักษ์ไว้ซึ่งวิถีทางประชาธิปไตยและ เสรีภาพ
ส่วนพี่สหภาพโซเวียตฟื้นตัวจากสงครามโลกครั้งที่ 2 อย่างรวดเร็ว เพราะพื้นที่กว้างใหญ่ มีทรัพยากรธรรมชาติมากสามารถผลิตอาวุธนิวเคลียร์ได้สำเร็จ พี่แกต้องการเป็นผู้นำในการปฏิวัติโลกเพื่อสถาปนาระบบสังคมนิยมคอมมิวนิสต์เช่นกัน
ดังนั้น ทั้งสองอภิมหาอำนาจจึงใช้ความช่วยเหลือที่ให้แก่ประเทศต่าง ๆ เป็นเครื่องมือในการขยายอิทธิพล อำนาจและอุดมการณ์ของตน เพื่อหาประเทศที่มีอุดมการณ์คล้ายคลึงกันมาอยู่ฝ่ายเดียวกัน ตรงข้าม
ซึ่งจากการแข่งขันกันขยายอำนาจและอิทธิพล จนทำให้ความสัมพันธ์ที่มีต่อกันเกิดความตึงเครียดสูง เพราะต่างคนต่างระแวงไง มันจะได้เยอะว่าไหม ประเทศนี้จะยอมเข้ามาไหม อะไรอีกเยอะแยะ
โดยความตึงเครียดนี้สิ้นสุดลงทศวรรษ 1980 เป็นการสิ้นสุดของยุคสมัยแห่ง "สงครามเย็น" ซึ่งดำเนินมาเป็นเวลาเกือบครึ่งศตวรรษภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เหตุการณ์สำคัญที่ทำให้การขัดแย้งทางอุดมการณ์และการแข่งขันกันเป็น ผู้นำของโลก ระหว่างสหรัฐอเมริกา และสหภาพโซเวียตสิ้นสุดลง สืบเนื่อง มาจากการล่มสลายของระบบ การปกครองคอมมิวนิสต์ในยุโรปตะวันออก และความเปลี่ยนแปลงในสหภาพโซเวียต อันเป็นผลมาจากนโยบาย ปฏิรูปเศรษฐกิจและการเมือง ซึ่งนายมิคาอิล กอร์บาชอฟ เห็นว่าเป็นความจำเป็นที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ การปรับเปลี่ยนนโยบายดังกล่าวทำให้เกิด ความไม่พอใจในกลุ่มผู้นำคอมมิวนิสต์หัวเก่าและนำไปสู่การปฏิวัติที่ล้มเหลว การหมดอำนาจของพรรคคอมมิวนิสต์ ประเทศบริวารของสหภาพโซเวียต ในยุโรปตะวันออก ต่างแยกตัวเป็นอิสระและท้ายที่สุดรัฐต่าง ๆในสหภาพ โซเวียต ต่างแยกตัวเป็นประเทศอิสระปกครองตนเอง มีผลทำให้ สหภาพโซเวียต ล่มสลายลงในปี ค.ศ. 1991
เหตุการณ์ที่เป็นนับว่าเป็นสัญลักษณ์ของการสิ้นสุดของ "สงครามเย็น" คือ การทำลายกำแพงเบอร์ลิน ในปีค.ศ. 1989 และการรวมประเทศ เยอรมนีทั้งสองเข้าเป็นประเทศเดียวกัน ในปี ค.ศ. 1990 การที่ทั้งสองฝ่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลดหย่อนท่าที และเงื่อนไขของฝ่ายรัสเซีย ยอมให้ ประเทศเยอรมนี ซึ่งเป็นจุดสำคัญของความขัดแย้งในยุโรป กลับมารวมกัน ได้ย่อมแสดงให้เห็นถึงความเข้าใจและมีไมตรีต่อกันที่กลับคืนมาอีกครั้งหนึ่ง