สายลดน้ำหนักสงสัยกันไหม? หมูส่วนไหนทำให้ผอม
การเลือกเนื้อหมู ให้เหมาะกับการปรุงอาหาร ก็นับเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้การปรุงอาหารเลย
เพราะว่าการเลือกเนื้อหมู ที่เหมาะกับอาหารปรุงจะช่วยให้รสชาติในการปรุงอาหาร
หรือการทำอาหารของคุณดีขึ้น ฉะนั้นลองมาทำการเลือกเนื้อหมูให้เหมาะกับการปรุงอาหารกันดีกว่า
เนื้อสะโพกหมู 100g มีโปรตีน22g ไขมัน17g พลังงานทั้งหมด182กิโลแคลอรี่
เนื้อหมูส่วนที่อยู่ช่วงสะโพก เนื้อส่วนนี้ขาดความนุ่มและค่อนข้างเหนียว
เหมาะกับการนำไปตุ๋นหรือทำอาหารแบบ slow cook จะเหมาะกว่า เช่น หมูนึ่งซีอิ๊ว หมูตุ๋น
หรือนำไปทำเป็นส่วนประกอบของน้ำซุปจะทำให้มีความหวานยิ่งขึ้นและยังมีเนื้อหมูประเภทต่างๆ
ที่แยกย่อยตามการนำไปปรุงอาหารอีกหลายชนิด อาธิเช่น กระดูกอ่อนหมู ซี่โครงหมูเป็นต้น
สันนอกหมู 100g มีโปรตีน22.8g ไขมัน2.6g พลังงานทั้งหมด212กิโลแคลอรี่
เนื้อส่วนช่วงกลางลำตัว มีมันอยู่บริเวณริม เป็นเนื้อส่วนที่มีมีความนุ่มในระดับหนึ่งแต่ไม่ถึงกับมากนัก
สำหรับคนที่ชอบสัมผัสของเนื้อที่แน่นกว่าส่วนอื่นอาจจะชอบ
มักจะนิยมนำไปทำอาหารที่ต้องการเนื้อหมูชิ้นใหญ่ๆอย่างเช่น เนื้อหมูสเต็ก เป็นต้น
หมูสามชั้น100g มีโปรตีน9.3g ไขมัน53g พลังงานทั้งหมด518กิโลแคลอรี่
เนื้อส่วนนี้มีลักษณะตามชื่อเรียก เพราะจะมีเนื้อหมูและมันหมูสลับกันเป็นชั้นๆ
ด้วยที่มีชั้นไขมันจำนวนมากทำให้เนื้อส่วนนี้นุ่มฉ่ำเวลานำไปปรุงอาหาร
แต่ความนุ่มก็แลกมาด้วยปริมาณไขมันที่มากกว่าส่วนอื่นๆ สามารถนำไปทำอาหารได้หลากหลายแบบ
สันคอหมู100gมีโปรตีน17.7g ไขมัน13.1g พลังงานทั้งหมด189 กิโลแคลอรี่
เนื้อหมูส่วนนี้เป็นเนื้อส่วนที่มีมันแทรกอยู่ตามเนื้อ ทำให้เนื้อส่วนนี้มีความหนึบ นุ่ม
ค่อนข้างได้รับความนิยม สามารถนำไปทำอาหารได้หลากหลายประเภทอย่างเช่น
คอหมูย่าง หมูปิ้ง สเต็กหมู ซึ่งไขมันที่แทรกจะทำให้เนื้อหมูหวานนุ่มขึ้นอีก
สันในหมู 100gมีโปรตีน30.4g ไขมัน6.3g พลังงานทั้งหมด187กิโลแคลอรี่
ว่ากันว่าเป็นเนื้อส่วนที่ดีที่สุดของเนื้อหมู เนื้อส่วนนี้ไม่มีมันแทรกแต่กลับมีความนุ่มมากที่สุด
ทำให้เนื้อส่วนนี้มีราคาสูง เหมาะที่จะนำไปปรุงอาหารทุกประเภทโดยเฉพาะ หมูปิ้ง หมูย่าง หมูทอด
และรวมไปถึงเมนูยอดนิยมของคนไทยทั้งหมด