สายพันธุ์เห็ดที่หาได้ยากและมีราคาขายแพงมากที่สุดในท้องตลาด
เห็ดที่หาได้ยากและมีราคาขายแพงมากที่สุด
White Truffle (Tuber magnatum)
ทรัฟเฟิลขาว เป็นเห็ดใต้ดินชนิดหนึ่งที่ขึ้นชื่อเรื่องกลิ่นหอม
และรสชาติเข้มข้น พบส่วนใหญ่ในอิตาลี โดยเฉพาะในภูมิภาคพีดมอนต์
ลักษณะเป็นสีครีมซีดถึงน้ำตาลอ่อนด้านนอก ด้านในเป็นลายคล้ายหินอ่อน
ทรัฟเฟิลขาวมักถูกขูดโรยบนอาหาร เช่น พาสต้า รีซอตโต
และไข่ เพื่อให้ได้กลิ่นหอมเอิร์ธโทนของเห็ดอันเป็นเอกลักษณ์
ราคาจำหน่ายเฉลี่ยโดยทั่วไปของเห็ดชนิดนนี้ในท้องตลาด
อยู่ที่ประมาณ 211 ดอลลาร์ (7300 บาท) ต่อน้ำหนัก 1 ออนซ์ (28.3 กรัม)
Black Truffle (Tuber melanosporum)
เห็ดทรัฟเฟิลดำ เป็นเห็ดใต้ดินชนิดอีกหนึ่ง ซึ่งมีรสชาติที่ละเอียดอ่อน
กว่าเห็ดทรัฟเฟิลขาว มักพบในภูมิภาคเช่นฝรั่งเศสและสเปน
ภายนอกเป็นสีดำหรือสีน้ำตาลเข้ม ภายในมีลายหินอ่อนที่โดดเด่น
ทรัฟเฟิลดำมักใช้ในซอส เนย และน้ำมัน
เพื่อเพิ่มความลึกและความซับซ้อนให้กับอาหาร
ราคาจำหน่ายเฉลี่ยโดยทั่วไปของเห็ดชนิดนนี้ในท้องตลาด
อยู่ที่ประมาณ 21 - 111 ดอลลาร์ (700 - 3800 บาท) ต่อน้ำหนัก 1 ออนซ์
Matsutake (Tricholoma matsutake)
เห็ดมัตสึทาเกะ ถือเป็นอาหารที่มีมูลค่าสูงในอาหารญี่ปุ่น
มีกลิ่นเผ็ดและกลิ่นคล้ายสนที่โดดเด่น มัตสึทาเกะมักรับประทานในซุป
ข้าว และหม้อไฟ สามารถพบได้ในป่า และมีความเกี่ยวข้องเป็นพิเศษกับต้นสน
ราคาจำหน่ายเฉลี่ยโดยทั่วไปของเห็ดชนิดนนี้ในท้องตลาด
อยู่ที่ประมาณ 28 - 57 ดอลลาร์ (900 - 2000 บาท) ต่อน้ำหนัก 1 ออนซ์
Morchella (Morel)
เห็ดมอเรล มีลักษณะคล้ายรวงผึ้งที่เป็นเอกลักษณ์และมีรสชาติคล้ายถั่ว
มักพบในพื้นที่ป่า ถือเป็นส่วนผสมยอดนิยมในการปรุงอาหารรสเลิศ
มอเรลสามารถนำมาผัด ใช้ในซอส หรือเพิ่มในอาหารอย่างรีซอตโตและพาสต้า
ราคาจำหน่ายเฉลี่ยโดยทั่วไปของเห็ดชนิดนนี้ในท้องตลาด
อยู่ที่ประมาณ 12 - 30 ดอลลาร์ (420 - 1050 บาท) ต่อน้ำหนัก 1 ออนซ์
Chanterelles
เห็ดชานเทอเรล ขึ้นชื่อในเรื่องสีส้มหรือเหลืองที่สดใส และกลิ่นหอมอ่อนๆ
มีเนื้อสัมผัสที่แน่น ชานเทอเรลมีประโยชน์หลายอย่าง เช่นนำไปผัด
ใช้ในซุป ใส่ไข่เจียว หรือนำไปประกอบอาหารต่างๆ เพื่อเพิ่มรสชาติได้
ราคาจำหน่ายเฉลี่ยโดยทั่วไปของเห็ดชนิดนนี้ในท้องตลาด
อยู่ที่ประมาณ 6.7 ดอลลาร์ (230 บาท) ต่อน้ำหนัก 1 ออนซ์