น้ำพริกหนุ่มแคปหมู เมนูเหนือลำแต๊ๆจ้าว
เมื่อเอ่ยถึงเมนูอาหารพื้นเมืองของไทยแล้ว มีความหลากหลายทางด้านรสชาติ วัฒนธรรม ที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งแต่ละเมนูพื้นเมืองของถิ่นนั้นๆ จะบ่งบอกอัตลักษณ์สื่อถึงพื้นเพถิ่นฐานนั้นได้เป็นอย่างดี คงความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะที่มีความกลมกลืนหรือมีกลิ่นอายของถิ่นนั้นๆ เช่น อาหารพื้นเมืองของภาคกลางจะออกแนวรสชาติติดหวานนิดหน่อย พวกแกงมัสมั่น แกงพะแนง ภาคอีสานก็จะมีรสชาติแซ่บจัดจ้าน และคงความเป็นลูกอีสานคือใส่ปลาร้าทุกเมนู ส่วนภาคใต้ก็จะรสจัดจ้านเผ็ดร้อนด้วยเครื่องสมุนไพรแบบถึงพริกถึงขิง แบบเมนูแกงเหลือง ส่วนภาคเหนือเมนูก็จะเป็นพวกแกงอ่อม และน้ำพริกหนุ่มที่ขึ้นชื่อมากๆ
เมื่อพูดถึงเมนูน้ำพริกหนุ่ม คนส่วนใหญ่ก็จะคิดถึงภาคเหนือ โดยวันนี้ผู้เขียนได้พริกหนุ่มมา บวกกับบรรยากาศฝนตกหนักชื่นแฉะไปทั่วท้องที่ จึงคิดเมนูน้ำพริกหนุ่มกินคู่กัยแคปหมูกรอบๆหอมๆ ที่ทำสดๆใหม่ๆ พร้อมข้าวเหนียวนึ่งร้อนๆ จิ้มน้ำพริกหนุ่ม จ้ำเอาๆ อร่อย บ่ รู้ลืม ในวันนี้ผู้เขียนจึงขอข้ามภาคพื้นเพไปเป๋นคนเหนือก่อนเด้อจ้าว หากผิดพลาดประการใด๋ ข้าเจ้าขอสุมาเต๊อะ
เริ่มจาก...
นำหนังหมูติดมัน จำนวน 1 กิโลกรัม มาขูดขนออก แล้วหั่นให้เป็นชิ้นหนา 1 ซม. ยาว 1.5-2 ซม. ตามภาพ
จากนั้นนำเกลือมาโรยใส่ให้ทั่ว แล้วขยำคลุกให้ทั่วหนังหมูของเรา จาดนั้นก็นำหนังหมูที่ขยำเกลือเรียบร้อยแล้ว ไปล้างทำความสะอาดด้วยน้ำเปล่าจนสะอาด
นำกะทะตั้งไฟ ใช้ไฟแรง ใส่น้ำเปล่าไปครึ่งแก้ว แล้วจึงนำหนังหมูที่ล้างทำความสะอาดแล้วตามลงไป ตามด้วยเกลืออีก 1 ช้อนชาใส่ลวไปด้วยจ้า
เราจะผัดหนังหมูของเราจนน้ำแห้งหมด แล้ว มันหมูจากตัวหนังหมูไหลออกมาแทนที่
เมื่อหนังหมูเริ่มใส ให้ลดหรี่ไฟเป็นไฟกลาง และเมื่อสังเกตพบว่าหนังหมูเริ่มพอง ก็ให้ลดหรี่ไฟอีกครั้งเป็นไฟอ่อน
จากนั้นให้ทำการปิดเตา พักหนังหมูไว้ในกระทะที่มีมันหมูอยู่ท่วมตัวแคปหมูไว้แบบนั้น อย่างน้อย 3 ชั่วโมง หรือสามารถทิ้งข้ามคืนไว้ได้ก็จะดีเยี่ยม การทำแบบนี้จะช่วยให้หนังหมูของเราตอนทอดเป็นแค่ปหมู ฟู กรอบ ไม่อมน้ำมัน และที่สำคัญคือเวลาทอดน้ำมันไม่กระเด็นให้ปวดแสบปวดร้อน สำหรับหลายๆคนที่กลัวการเสียโฉมจากฤทธิ์ของน้ำมันร้อนๆที่กระเด็นใส่ตัว
เมื่อเราทิ้งหนังหมูไว้ได้ครบตามจำนวนเวลาแล้ว ให้เราตักใข้กระชอนตักหนังหมูขึ้นจากตัวน้ำมันหมู
แล้วเปิดแก๊สใช้ไฟกลางจนน้ำมันร้อน ก็นำหนังหมูที่เราตักขึ้นมาพักไว้เมื่อกี้ลงไปทอดอีกครั้ง
ใก้เราใช้ตะหลิวยีหนังหมูนั้นตลอดเวลา การยีแบบนี้จะทำให้แคปหมูของเราพองฟู และทอดจนกว่าจะมีสีเหลืองตามต้องการ ก็ใช้กระชอนตักขึ้นมา
แคปหมูที่ได้จะมีความกรอบ ฟู สีเหลือง น่ากินมากๆ ให้เราตักขึ้นมาใส่ภาชนะและเกลี่ยกระจายให้แคปหมูคลายความร้อน
เมื่อทอดแคปหมูเสร็จเรียบร้อยก็ถึงคิวทำน้ำพริกหนุ่มต่อ โดยการนำพริกหนุ่มที่ล้างทำความสะอาดแล้ว มาจี่ในกระทะ วันนี้ขออนุญาตใช้กระทะในการจี่ เนื่องจากฝนตกหนัก ก่อไฟเตาถ่านแสนลำบาก และที่สำคัญประหยัดเวลาด้วยจ้า
โดยใส่น้ำลงในกระทะเล็กน้อย แล้วนำพริกหนุ่มใส่ลงไป ปิดฝารอจนน้ำแห้ง จากนั้นเปิดฝา และจี่พริกหนุ่มต่อไปจนเปลือกพริกสุกเกรียม แต่เนื้อพริกหนุ่มยังคงความนุ่มจ้า
ถัดมาก็นำหอมแดงที่แกะเปลือกเรียบร้อยแล้วลงไปจี่ต่อ โดยใส่น้ำเล็กน้อยและปิดฝา เหมือนขั้นตอนการจี่พริกหนุ่ม
เมื่อหอมแดงสุกส่งกลิ่นหอม น้ำก็แห้งจนหมด น้ำมันหอมระเหยจากหอมที่โดนความร้อนนี่หอมมากจริงๆ เราก็นำกระเทียมไทยที่แกะเปลือกแล้วลงไปคั่วพร้อมหอมแดงอีกครั้ง
ให้เราคั่วหอมแดงและกระเทียมจนสุกหอม และเริ่มเกรียม ก็ตักขึ้นเพื่อนำไปโขลกต่อจากนี้
ขั้นตอนต่อมา ก็มาถึงคิวล่อนเปลือกพริกหนุ่มออก ให้เหลือแค่เนื้อพริกหนุ่มที่มีสีเขียวอ่อนอมเหลืองและนุ่ม
จากนั้นนำไปหั่นให้เป็นชิ้นพอเหมาะ เพื่อนำไปโขลกรวมกับหอมแดงและกระเทียมที่เตรียมไว้
คิวต่อไปก็นำหอมแดงและกระเทียมลงครก จัดการใช้สากโขลกให้แตกแต่พอเหมาะ ไม่ต้องให้ละเอียดจนเกินไปนะคะ
โขลกให้ได้ดังรูปเลยจ้า
ถัดมาก็รำพริกกนุ่มที่หั่นเรียบร้อยแล้วใส่ตามลงไป อย่ามัวรอรี
โขลกตำอีกสี่ห้าทีก็ได้เนื้อพริกหนุ่มแตกแค่พอหยาบ
เติมเกลือสักค่อนครึ่งช้อนชา และเติมน้ำปลาอีกสักหน่อย
คลุกเคล้าให้เข้ากันอีกสักครั้ง น้ำพริกหนุ่มไม่ใช้น้ำมะนาวเหมือนน้ำพริกอื่นๆนะจ๊ะทุกคน อย่าเผลอใส่ไปเชียวน้า
จากนั้นก็เสร็จสรรพ จัดแคปหมูลงจาน มีถ้วยใบเล็กสำหรับใส่น้ำพริกหนุ่มแสนอร่อย
ตักน้ำพริกหนุ่มลงถ้วยใบเล็ก รอบถ้วยในจานห้อมล้อมด้วยแคปหมูทอดสดๆ ใหม่ๆ ที่รสชาติกลมกล่อม กรอบพองฟู จัดผักชีเป็นผักเครื่องเคียงสักหน่อย หรือใครมีปักอื่นนอกเหนือจากนี้ก็ตามใจปรารถนา กินคู่กับข้าวเหนียวนึ่งสุกร้อนๆบรรยากาศยามฝนตก จ้ำข้าวเหนียวกินกับน้ำพริกหนุ่มแคปหมู บรรยากาศฝนตกในตอนพลบค่ำ หังเสียงกบเขียดเจรจาภาษาสัตว์ เป็นสวรรค์เมือง ตจว. ที่หาความสุขใดเทียบไหนจะเปรียบปาน