ยังจำหนังไทย เรื่องนี้ได้ไหม
กว่า 15 ปี ที่ ‘รักแห่งสยาม’ ได้ครอบครองพื้นที่หนังดีในดวงใจของใครหลายๆ คน
ด้วยประเด็นการค้นหาตัวตนของเด็กที่กำลังเติบโตในสภาพครอบครัวที่พังทลาย ทุกการเปลี่ยนแปลงของตัวละคร
สร้างความรู้สึกทางอารมณ์ให้กับคนดูได้หลายมิติ จนกลายเป็นหนังที่กลับมาดูทีไรก็รู้สึกอบอุ่นหัวใจทุกครั้ง
เรื่องราวความรักอันแสนอบอุ่น ลึกซึ้ง ตั้งแต่รุ่นพ่อแม่ไปจนถึงรุ่นลูก ด้วยความที่บ้านอยู่ตรงข้ามกัน ทำให้ โต้ง
(รับบทโดย มาริโอ้ เมาเร่อ) และ มิว (รับบทโดย พิช - วิชญ์วิสิฐ หิรัญวงษ์กุล) เป็นเพื่อนที่ผูกพันธ์กันมาตั้งแต่เด็ก
วันหนึ่งครอบครัวของโต้งเกิดปัญหาจนต้องย้ายบ้าน ทั้งสองจึงต่างคนต่างไปเติบโตตามเส้นทางชีวิตของตัวเอง
แต่แล้วโชคชะตาก็ทำให้พวกเขาได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง และการสานต่อมิตรภาพที่ลึกซึ้งกว่าเดิมก็ได้เกิดขึ้น ณ สยามสแควร์
การแฝงความหมายในซีนต่างๆ ให้คนดูได้ตีความเอาเอง อย่างซีนที่แม่กินไข่พะโล้ต่อจากพ่อ ซีนแม่ขับรถตามหาโต้งทั้งคืน
หรือซีนที่โต้งกับมิวจูบกันหน้าบ้าน ต่างก็เข้าถึงอารมณ์คนดูได้สุดใจและด้วยบทภาพยนตร์ที่แปลกใหม่กับการแสดงที่ไหลลื่น
ทำให้มาริโอ้และพิช ได้แจ้งเกิดในวงการบันเทิงอย่างเป็นทางการจากหนังเรื่องนี้
รักแห่งสยาม ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลมากมาย และคว้า 3 รางวัล จากงานประกาศรางวัลภาพยนตร์แห่งชาติ สุพรรณหงส์ ครั้งที่ 17
คือ รางวัลผู้แสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม, รางวัลผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, และรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม นอกจากนี้ยังมีรางวัลจากสำนักอื่นอีกมากมาย
มะเดี่ยว - ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล ผู้กำกับ เคยให้สัมภาษณ์ไว้ ใจความว่า ภาพยนตร์เป็นเหมือนบทบันทึกชีวิตของเราในช่วงนั้น
มีมุมมองการเล่าเรื่องราวที่เติบโตไปกับความคิดและประสบการณ์ ซึ่งรักแห่งสยามตั้งใจจะสื่อสารว่า เมื่อมีความรักย่อมมีความหวัง
และเราต้องเลือกสิ่งที่คิดว่าดีที่สุดสำหรับตัวเอง
ต่อมามะเดี่ยวได้กำกับภาพยนตร์แนวคล้ายกัน อย่างเรื่อง Home ความรัก ความสุข ความทรงจำ (2555) และ ดิว ไปด้วยกันนะ (2562)
อ้างอิงจาก: Google