บ้านในตำนาน บ้านเขียว "บ้านขุนพิทักษ์บริหาร"
อีกหนึ่งตำนานของชาวผักไห่
จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตำนานที่เล่าขานสืบต่อกันมาถึงความเฮี้ยน ของท่านเจ้าของบ้านเขียว ขุนพิทักษ์บริหารผู้เป็นเจ้าของบ้าน จนถึงขนาดมีผู้คนหลั่งไหลมาเพื่อลองของ ท้าพิสูจน์ความเฮี้ยน ของบ้านหลังนี้
บ้านเขียวแห่งนี้ เป็นบ้านโบราณที่ทรงคุณค่าน่าอนุรักษ์ มีความงดงาม และทรงไว้ซึ่งความเป็นสมบัติของอำเภอเลยทีเดียว ชาวชุมชนรอบเรือนเขียวโบราณ ต่างให้ความใส่ใจ และสำนึกถึงคุณค่า จึงเริ่มมีการอนุรักษ์อย่างจริงจัง รวมทั้งมีกรรมการเข้ามาดูแลตัวบ้านอย่างเป็นหลักเป็นฐาน
รูปแบบบ้านหลังใหญ่ เป็นสไตส์แบบฝรั่งยุโรปผสมไทย ยังมีความแข็งแรงโครงสร้างยังไม่ผุพัง
ผู้เขียนได้มีโอกาสไปยังบ้านเขียวแห่งนี้ แอบหลอนอยู่พอสมควร เนื่องจากสภาพบ้าน บรรยากาศในการเดินชมบ้านค่อยๆ เดินชมไปเรื่อยๆ สังเกตดูแล้ว บ้านยังสะอาดสะอ้าน มีชาวบ้านละแวกนั้น เข้ามาดูแล ทำความสะอาดไม่ขาด นักท่องเที่ยวมักจะแวะเวียนมาสม่ำเสมอ ไม่ได้ขาด
สำหรับจุดเช็คอินของบ้าน คงเป็นมุมยอดนิยม นั่นคือโซนบันไดขึ้นชั้นสอง ที่ออกแบบมาอย่างลงตัวนั้น เป็นจุดที่ส่วนใหญ่ นักท่องเที่ยวที่เข้ามาต้องมาถ่ายรูปไปเป็นที่ระลึก
ตลอดแนวชั้นสอง เมื่อเราเดินสำรวจ แผ่นไม้สักก็จะลั่นเอี๊ยดแอ๊ด ให้ได้หลอนกันตลอด แสดงให้รู้ว่าเป็นบ้านเก่าแก่จริงๆ
ต้องขอชื่นชมช่างที่ออกแบบ สามารถสร้างได้อย่างลงตัว ลวดลายต่างๆ ภายในบ้าน ก็ยังคงแจ่มชัด แม้จะผุกร่อนไปตามกาล แต่ความงามยังมีอยู่
น่าเสียดาย ที่เรือนไม้อีกหลังผุกร่อนไปแล้ว
สำหรับประวัติ ขุนพิทักษ์บริหาร หรือ พึ่ง มิลินทวนิช เป็นนายแขวงเสนาใหญ่ คือ อำเภอผักไห่ในปัจจุบัน เคยเข้ารับใช้รัชกาลที่ 6 มีภรรยา คือ นางจ่าง มิลินทวนิช ขุนพิทักษ์บริหารเป็นเจ้าของกิจการเรือสองชั้นที่เรียกว่า เรือเขียว ซึ่งเป็นเรือโดยสารขนาดใหญ่ มีจำนวน 10 กว่าลำ รับส่งผู้โดยสารระหว่างผักไห่-ท่าเตียน กรุงเทพฯ และผักไห่-ปากน้ำโพ จังหวัดนครสวรรค์ จึงทำให้การค้าขายบริเวณนี้ เจริญรุ่งเรือง ต่อมาเมื่อท่านถึงแก่กรรม ลูกหลานได้อพยพย้ายมาตั้งรกรากที่กรงเทพฯ จึงไม่มีผู้อาศัย จนเมื่อ พ.ศ.2505 แม่จ่างภรรยาท่านขุนได้ยกบ้านให้หลวง เพื่อให้ใช้ประโยชน์ทางราชการต่อไป ซึ่งมีหนังสือในการยกบ้านอย่างเป็นทางการให้กับ กระทรวงมหาดไทย โดยมีสำเนาเอกสารดังกล่าวอยู่ภายในบ้านโบราณแห่งนี้ด้วย
*ครั้งหนึ่งที่ได้ไปเที่ยวชม*