ภาพยนตร์จากทวีปเอเชีย ที่ทำรายได้สูงมากที่สุดตลอดกาล
ภาพยนตร์จากประเทศในทวีปเอเชีย
ที่มีรายได้มากที่สุดตลอดกาล
The Battle at Lake Changjin
เป็นภาพยนตร์สงครามของจีน ที่เข้าฉายในปี 2021 กำกับโดย Chen Kaige
และ Tsui Hark โดยสร้างจากเรื่องจริงจากสงครามเกาหลี ภาพยนตร์เรื่องนี้
บอกเล่าเรื่องราวที่น่าสะเทือนใจ ของกลุ่มทหารจีนที่ร่วมต่อสู้
กับกองกำลังของสหประชาชาติร่วมกับพันธมิตรเกาหลีเหนือ
ในอุณหภูมิต่ำกว่าศูนย์ที่ทะเลสาบชางจิน ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเรื่องราว
เกี่ยวกับความกล้าหาญ การเสียสละ และจิตวิญญาณที่ไม่ย่อท้อของทหารจีน
The Battle at Lake Changjin ออกฉายครั้งแรก
เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2021 ทำรายได้ทั้งหมด 913 ล้านดอลลาร์
จากทุนสร้างทั้งหมดประมาณ 200 ล้านดอลลาร์ (ราวๆ 7 พันล้านบาท)
ปัจจุบันถือเป็นภาพยนตร์ที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษที่ทำรายได้มากที่สุด
เป็นภาพยนตร์ภาษาจีน และภาพยนตร์จากเอเชียที่มีรายได้มากที่สุด
Wolf Warrior 2
เป็นภาพยนตร์แอ็คชั่นจีน กำกับโดย Wu Jing ออกฉายในปี 2017
และเป็นภาคต่อของภาพยนตร์ปี 2015 เรื่อง "Wolf Warrior"
เรื่องราวติดตาม Leng Feng อดีตเจ้าหน้าที่หน่วยรบพิเศษของจีน
ที่พัวพันกับความขัดแย้งในเขตสมรภูมิแอฟริกา เล้งเฟิงต้องปกป้องพลเมืองจีน
และมีส่วนร่วมในความพยายามรักษาสันติภาพ ขณะเดียวกันก็เผชิญหน้า
กับทหารรับจ้างผู้โหดเหี้ยมและกองกำลังทหารต่างชาติ ภาพยนตร์เรื่องนี้
ขึ้นชื่อเรื่องฉากแอ็กชันที่เข้มข้นและแฝงไปด้วยความรักชาติ
เพื่อเฉลิมฉลองความกล้าหาญและความแข็งแกร่งของกองทัพจีน
Wolf Warrior 2 ออกฉายครั้งแรก เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2017
ทำรายได้ทั้งหมด 870.3 ล้านดอลลาร์ จากทุนสร้าง 30.1 ล้านดอลลาร์
Hi, Mom
เป็นภาพยนตร์ดราม่าตลกจีน ที่กำกับโดย Jia Ling ซึ่งออกฉายในปี 2021
ภาพยนตร์เรื่องนี้เกี่ยวกับเรื่องราวของหญิงสาวชื่อ Jia Xiaoling
ซึ่งรับบทโดยผู้กำกับเอง หลังจากที่แม่ของเธอเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์
Jia Xiaoling ค้นพบเทคโนโลยีการเดินทางข้ามเวลา
ที่ช่วยให้เธอย้อนเวลากลับไปในอดีตและพบกับตัวเองที่อายุน้อยกว่าและแม่ของเธอ
ผ่านการเดินทางที่ไม่คาดคิดนี้ เธอได้รู้จักแม่ของเธอดีขึ้น
เข้าใจความเสียสละและความรักของเธอ Hi, Mom
เป็นการผสมผสานระหว่างอารมณ์ขันและอารมณ์
นำเสนอเรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่างแม่และลูกสาวอย่างอบอุ่น
Hi, Mom ออกฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2021
ทำรายได้ทั้งหมด 841.6 ล้านดอลลาร์ จากทุนสร้าง 59 ล้านดอลลาร์