"Yde Girl" ความลึกลับของมัมมี่เด็กหญิงอายุ 2,000 ปี
เป็นการพบเจอศพมัมมี่อายุ 2,000 ปีของเด็กหญิง Yde Girl โดยบังเอิญ จากคนงานชาวดัตช์ในหนองน้ำ ในปี พ.ศ. 2440 ซึ่งเชื่อว่าเธอถูกประหารชีวิต หรือสังเวยเพื่อเป็นเครื่องบูชายัญ
1.การค้นพบครั้งแรก
เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2440 โดยคนงานขุดถ่านหิน 2 คน ในหมู่บ้านสติฟฟีน (Stijfveen) ใกล้กับหมู่บ้านยีเดด (Yde) ประเทศเนเธอร์แลนด์ ต่างก็ตกใจคิดว่าได้พบเห็นปีศาจ โผล่ขึ้นมาสู่หนองน้ำโดยไม่ได้ทันตั้งตัวจนต้องรีบวิ่งหนี
2.ลักษณะของร่าง
ร่างนั้นดำสนิทแต่มีผมสีแดงเพลิง มีเชือกผูกรอบลำคอของเธอ และพบบาดแผลที่ถูกแทงใกล้กับกระดูกไหปลาร้า ผมและฟันของเธอหายไปหลังจากที่คนงานได้พบก็ใช้ถ่านหินปิดร่างที่พบไว้ จนเมื่อนายกเทศมนตรีหมู่บ้านมาจึงได้เข้ามาตรวจสอบในอีก 9 วันต่อมา จากสภาพร่างกายพบว่าเท้า, มือ และกระดูกเชิงกรานบางส่วนของเธอหลุดเป็นชิ้นอยู่ในโคลน จึงได้ทำการเก็บศพของเธอและให้เจ้าหน้าที่ของพิพิธภัณฑ์เดรนตส์ตรวจสอบ
3.ผลการตรวจสอบ
ซึ่งกว่าจะได้คำตอบก็ใช้เวลากว่าหนึ่งศตวรรษ์ในการค้นหาคำตอบ โดยเปิดเผยว่าเธอเป็นเด็กหญิงอายุ 16 ปี ที่เสียชีวิตระหว่าง 54 ปีก่อนคริสตกาล ถึง ค.ศ. 128 (พ.ศ. 671) แต่การเสียชีวิตของเธอก็ยังคงเป็นข้อถกเถียงกันอยู่ ผู้เชี่ยวชาญตรวจพบว่าเธอมีภาวะกระดูกสันหลังคดขั้นรุนแรง และมีส่วนสูงสี่ฟุตครึ่ง (ประมาณ 138 ซม.) และเชื่อว่าเธอน่าจะถูกฆ่าในพิธีกรรมบูชายัญเด็ก
4.ประวัติความเป็นมาของเด็กหญิง
อย่างที่กล่าวข้างต้นค้นพบโดยคนงานถ่านหินโดยบังเอิญ จนกลายเป็นหน้าประวัติศาสตร์ โดยขณะเจ้าหน้าที่หมู่บ้านและทางพิพิธภัณฑ์ได้ดูแลเก็บรักษาศพนี้ไว้ ตั้งแต่วันที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2440 ซึ่งตัวตนของเธอก็ยังคงเป็นปริศนาอยู่
เพราะจากสภาพมีเชือกพันรอบคอแน่นถึง 3 รอบ บวกกับมีสีหน้าที่หวาดกลัวของเด็กหญิง และแขนขาที่ขาดเป็นชิ้นๆ บ่งบอกถึงความตายอย่างโหดร้าย ผมของเธอนั้นถูกโกนไปครึ่งหนึ่ง และฟันของเธอก็หายไปหมด ทำให้เชื่อว่าเด็กหญิงนั้นตายอย่างทรมาน
5.ผลการตรวจสอบ CT scan
ซึ่งในปี ค.ศ. 1992 (พ.ศ. 2535) "ศาสตราจารย์ริชาร์ด นีฟ" (Richard Neave) จากมหาวิทยาลัยแมนเชสเตอร์ ได้เปิดเผยผล CT scan กะโหลกศีรษะของเธอ ก็สามารถระบุได้ว่าเป็นเพศหญิงมีอายุ 16 ปี เนื่องจากไม่มีฟันคุด ความโค้งของกระดูกสันหลัง ทำให้ร่างกายของเธออ่อนแอ ระบุได้ว่าเป็นโรคกระดูกสันหลังคด ในขณะที่เท้าขวามีการบวมผิดปกติ บ่งบอกว่าเธอมีอาการเดินกะเผลก
ในปี ค.ศ. 1994 (พ.ศ. 2535) จึงได้ทำแบบจำลองใบหน้าของเด็กหญิงผู้นี้ และก็โด่งดังไปทั่วโลก มีการขนานนามศพเด็กหญิงผู้นี้ว่า "ยีเดดเกิร์ล" (Yde Girl)
6.สาเหตุการเสียชีวิต
ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตยังไม่เป็นที่ชัดเจน แต่ "ดร. รอยฟานบีค" (Dr. Roy van Beek) จากมหาลัยวาเก็นนิงเกน (Wageningen University) ได้วิเคราห์ว่า มีอยู่ 2 ทฤษฎีคือ
1. บุคคลอาจจะถูกตัดสินว่าเป็นอาชญากร หรือถูกตัดสินว่ามีการกระทำความผิดฐานล่วงประเวณี
2. บุคคลอาจจะถูกใช้เป็นเครื่องสังเวยเพื่อการบูชายัญ
อย่างไรก็ตามก็ไม่มีหลักฐานอื่นของเธอมากมายนัก รู้แค่ว่าเธอพิการอย่างเห็นได้ชัด และมีแนวโน้มว่าเธอน่าจะเป็นเป้าหมาย ในการเสียสละจากการบูชายัญมากกว่า ในท้ายที่สุดศพของ Yde Girl ก็ถูกเก็บรักษาไว้ที่ "พิพิธภัณฑ์เดรนตส์" (Drents Museum) ในเมืองอาสเซิน ประเทศฮอลแลนด์ ให้กับผู้มาเยี่ยมชมจนกระทั่งทุกวันนี้
ขอบคุณภาพ : google