"The Kandahar Giant" ยักษ์กันดาฮาร์ที่ถูกหน่วยทหารสหรัฐฯสังหาร
ในปี 2002 (พ.ศ. 2545) ได้มีการกล่าวว่าได้มีทีมทหารชั้นยอด ได้สังหาร "ยักษ์กันดาฮาร์" (Kandahar Giant) ซึ่งมีความสูง 13 ฟุต (ประมาณ 4 เมตร) ที่มีผมสีแดงเพลิง มีนิ้วมือข้างละ 6 นิ้ว และมีฟัน 2 ชุด ได้สำเร็จ
1.บทสัมภาษณ์ทหารผู้รอดชีวิต
ในเดือนสิงหาคม 2016 (พ.ศ. 2559) ได้มียูทูปเบอร์รายหนึ่ง ได้โพสต์คลิปการให้สัมภาษณ์ของอดีตเจ้าหน้าที่ทหารในกองทัพอเมริกัน ซึ่งใช้นามสมมุติว่า "มิสเตอร์เค" (Mr. K) ที่อ้างว่าตนอยู่ในเหตุการณ์สังหารโหดยักษ์กันดาฮาร์
2.ปฎิบัติการทางทหาร
โดยเขากล่าวว่าเป็นช่วงที่มีการปฎิบัติการ "ปฎิบัติการเสรีภาพยั่งยืน" (Enduring Freedom) อยู่ในคำสั่งระดับสูงในปี 2545 เมื่อกองทัพได้เข้าร่วมในการสู้รบ อย่างดุเดือดกับกลุ่มตาลิบันในเมืองกันดาฮาร์ ประเทศอัฟกานิสถาน แต่สิ่งที่ต่อสู้มันกลับไม่ใช่มนุษย์ มิสเตอร์เคกล่าวว่า มันคือ...ยักษ์กันดาฮาร์สูง 13 ฟุต มีผมสีแดงเพลง มี 6 นิ้ว และมีฟัน 2 ชุด
มันได้สังหารทหารหน่วยรบพิเศษคนหนึ่งด้วยหอก ก่อนที่หน่วยรบที่เหลือจะระดมยิงปืนอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 30 วินาที มันจึงถูกฆ่าลงได้
ภายหลังจากสังหารยักษ์แห่งกันดาฮาร์ได้แล้ว ทหารก็ได้วิทยุแจ้งไปยังกองทัพให้มาเก็บศพยักษ์ตนนี้ไป โดยเฮลิคอปเตอร์และนำไปซุกซ่อนไว้
3.การพบยักษ์
ในช่วงปี 2545 ทหารกลุ่มหนึ่งได้หายตัวไปขณะลาดตระเวน ในพื้นที่ภูเขาอันห่างไกลของเมืองกันดาฮาร์ ทางตอนใต้ของอัฟกานิสถาน พวกเขาล้มเหลวในการติดต่อสื่อสารทางวิทยุมาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว จึงได้ส่งทหารหน่วยปฎิบัติการพิเศษเข้าไปสืบหา จากนั้นเมื่อขึ้นไปบนภูเขาก็ได้พบเจอกับถ้ำ ซึ่งมีอาวุธยุทโธปกรณ์ของกองทัพตกระจัดกระจายอยู่รอบๆไปทั่ว แต่กลับไม่พบกลุ่มทหารที่หายไป
Kandahar City, pictured in 2015 with mountains rising to the north.
และนั่นก็คือตอนที่พวกเขาได้บังเอิญเจอยักษ์กันดาฮาร์ มันเหมือนหุ่นยนต์มนุษย์ยัก์ตัวโตที่สูงถึง 15 ฟุต หัวสีแดงและมีนิ้วมือ 6 นิ้ว สวมรองเท้าหนังนิ่ม และมีกลิ่นเหมือน "ศพ" จู่ๆก็โผล่ออกมาจากถ้ำ
และใช้หอกเสียบทหารผู้หนึ่งเสียชีวิต และนั่นจึงเป็นการเปิดฉากระดมยิงต่อเนื่องเป็นเวลา 30 วินาที ด้วยปืนสั้น M4 อัตโนมัติเต็มรูปแบบ ปืนสั้นรีคอนกึ่งอัตโนมัติ และปืนไรเฟิล ที่มีอำนาจในการยิงมหาศาลมุ่งไปยังเป้าหมาย
4.สั่งทหารห้ามเปิดเผยข้อมูล
หลังจากที่กองทัพได้สังหารมันแล้ว ก็ให้เฮลิคอปเตอร์มาบรรทุกขนศพของมันไปซุกซ่อนไว้ และทหารก็ถูกบังคับให้ลงนามในข้อตกลง ไม่ให้เปิดเผยข้อมูลเพื่อรัฐบาลจะเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ
5.การเปิดเผยข้อมูล
แต่ในที่สุดก็ไม่สามารถปิดปากได้ทุกคน ในภายหลังก็ได้มีหนึ่งในทหารออกมาเปิดเผยถึงเรื่องนี้ พอเดือนสิงหาคม ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559) สื่อSnopes ก็ได้ติดต่อกระทรวงกลาโหมเกี่ยวกับ "เหตุการณ์ยักษ์กันดาฮาร์" แต่ทางกระทรวงกลาโหมกลับปฎิเสธข่าวลือเรื่องนี้
และกล่าวว่าไม่มีการบันทึก หรือมีข้อมูลว่ามีสมาชิกทหารหน่วยรบพิเศษ ถูกยักษ์ในกันดาฮาร์ถูกฆ่าตาย และก็ได้แถลงว่าไม่มีหน่วยรบหายสาปสูญ ไปในอัฟกานิสถานที่เกี่ยวข้องกับการเผชิญหน้ากับยักษ์กันดาฮาร์
6.ไม่เชื่อคำแถลงของกระทรวงฯ
แต่แน่นอนว่าเหล่าผู้เชื่อในทฤษฎีสมคบคิด ก็ไม่เชื่อถ้อยคำของทางการ แต่เชื่อว่ายักษ์แห่งกันดาฮาร์อาจจะมีอยู่จริง และรัฐบาลก็คงพยายามปิดบังเรื่องนี้ โดยมีผู้ศึกษาเกี่ยวกับเรื่องลี้ลับนี้ชื่อว่า "แอลเอ มาร์ซุลลิ" (L.A. Marzulli) ได้ให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์หนึ่งว่า รัฐบาลกำลังพยายามปิดบังความจริงเรื่องนี้ เพื่อไม่ให้ยักษ์ในตำนานนี้ถูกเปิดเผยสู่สาธารณชน
และในวันที่ 16 สิงหาคม ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559) คลิปวิดิโอที่เขาได้สัมภาษณ์มิสเตอร์เค ที่อ้างว่าตนคือหนึ่งในทหารที่ได้เผชิญหน้ากับยักษ์กันดาฮาร์ และทหารที่ถูกหอกของยักษ์กันดาฮาร์เสียบเสียชีวิตก็คือ "มิสเตอร์แดน" ก็ได้ถูกลบทิ้งหายไป
7.เชื่อว่าเป็นยักษ์ "เนฟีลิม"
จากคำบอกเล่าของมาร์ซุลลิ ยักษ์ตนนี้คือ "เนฟีลิม" (Naphillim) เป็นกลุ่มคนในอดีตที่เคยถูกบันทึกไว้ในหนังสือปฐมกาล พันธสัญญาเดิมของพระคัมภีร์ไบเบิล (Holy Bible) ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่มีขนาดใหญ่โตกว่าคนปกติ และมีพละกำลังมหาศาล สามารถพบเห็นได้ทั่วไปในแถบตะวันออกกลาง ทั้งช่วงก่อนและหลังเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ใน "ยุคเรือโนอาห์" (Noah's Ark)
แต่ผู้เชี่ยวชาญเรื่องในพระคัมภีร์ไบเบิล ก็ได้ออกมากล่าวว่าตำนานเรื่องเนฟีลิมนั้น เป็นเพียงการกล่าวเปรียบเทียบ แต่ไม่ได้มาจากเรื่องจริงของยักษ์สูง 13 ฟุตที่อาศัยอยู่ในทะเลทราย ยิ่งไปกว่านั้นนายทหารชื่อแดน คนเดียวที่เสียชีวิตในเมืองกันดาฮาร์ในช่วงเหตุการณ์ ที่ถูกกล่าวหานี้ในปี ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545) ก็คือ จีทีชั้น 1 แดเนียล เอ.โรเมโร เป็นหน่วยสื่อสารกองกำลังพิเศษ (Sgt. 1st Class Daniel A. Romero) ซึ่งเสียชีวิตจากเหตุระเบิดพร้อมกับทหารอีก 3 นาย
แต่ถึงอย่างไรแม้จะมีหลักฐานที่ขัดแย้งกัน ในตำนานของยักษ์กันดาฮาร์ก็ยังคงกล่าวขานว่าเป็น "ความลับที่ถูกเปิดเผย" ในหมู่ทหารที่ประจำการในเมืองกันดาฮาร์ในปี ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545) แต่ผู้ที่เชื่อในตำนานก็ยังคงเชื่อต่อไป ว่าตำนานยักษ์แห่งกันดาฮาร์นั้นยังคงมีอยู่จริงต่อไป
แล้วเพื่อนๆล่ะคิดว่า..ตำนานยักษ์กันดาฮาร์มีอยู่จริงมั้ย ?
ภาพโดย : google