4 เรื่องเกี่ยวกับผงชูรส ที่หลายคนยังไม่รู้
หากจะพูดถึงเครื่องปรุงในครัวเรือน หลายคนคงปฏิเสธไม่ได้ว่า”ผงชูรส”คือเครื่องปรุงหลักที่มีอยู่ในครัวเรือนไม่แพ้เครื่องปรุงหรือเครื่องแกงอื่นๆ อาทิเช่น น้ำปลา กะปิ พริก เกลือ หอมแดง กระเทียม เป็นต้น นั่นก็แสดงว่าผงชูรส จึงเป็นเครื่องปรุงสำคัญในการรังสรรค์เมนูอาหารต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ผัด แกงหรือทอด ก็จะขาดไม่ได้เลย วันนี้ผู้เขียนเองจะมาแนะนำ 4 เรื่องที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ เกี่ยวกับผงชูรส ส่วนจะมีอะไรบ้างนั้น ตามจากหัวข้อนี้เลยครับ
เรื่องที่ 1 ผงชูรสผลิตจากวัตถุดิบทางธรรมชาติ โดยมีส่วนผสมหลัก คือการหมักมันสำปะหลังกับกากน้ำตาล แล้วตกผลึกเป็นเม็ดเล็กๆสีใส ไม่มีสีไม่มีกลิ่น โดยผงชูรสนั้นมีชื่อทางเคมีว่าโซเดียมกลูตาเมต ถูกค้นพบโดยนักเคมีชาวญี่ปุ่นที่ชื่อ “ศ.ดร.คิคุนาเอะ อิเคดะ” ได้ค้นพบรสชาติอาหารแบบใหม่ที่กลมกล่อม เป็นการผสมผสานหลอมรวมของรสชาติหวาน เค็ม เปรี้ยวและขมอย่างลงตัว ซึ่งญี่ปุ่นเรียกรสชาตินี้ว่า”อูมามิ”นั่นเอง หลังจากมีการค้นพบแล้วเขาได้ร่วมกับนักธุรกิจผลิตผงชูรสออกจำหน่าย ในชื่อผลิตภัณฑ์ว่า”อายิโนะโมโต๊ะ” ปัจจุบันผงชูรสเป็นเครื่องปรุงที่ได้รับความนิยมอย่างมาก โดยเฉพาะแถบเอเชียและประเทศในประเทศฝั่งตะวันตก ซึ่งผงชูรสนั้น ได้รับการรับรองจากทางองค์การอาหารและยาจากสหรัฐว่าเป็นสารที่ปลอดภัยสามารถนำมาปรุงอาหารรับประทานได้
เรื่องที่ 2 ผงชูรส ช่วยลดโซเดียมในอาหารได้ เพราะการที่เราบริโภคเกลือหรือโซเดียมเข้าไปมาก ๆ จะส่งผลเสียต่อร่างกาย อาจทำให้ความดันโลหิตสูงและที่สำคัญจะทำไตของเราทำงานหนักส่งผลเสียต่อไตของเราในระยะยาว ยิ่งเรามีอายุมากขึ้นร่างกายเผาผลาญพลังงานลดลง ความสมดุลของร่างกายก็จะลดน้อยถอยลงไปก็จะยิ่งส่งผลเสียมากขึ้น จากข้อมูลของกรมควบคุมโรคจากกระทรวงสาธารณสุข พบว่าเครื่องปรุงต่างๆที่ผลิตและวางขายตามท้องตลาดนั้น มีโซเดียมในปริมาณสูง โดยเฉพาะเกลือใน 1 ช้อนชา จะมีปริมาณโซเดียมถึง 2,000 มิลลิกรัม แตกต่างจากผงชูรส ที่ปริมาณ 1 ช้อนชาเช่นกัน แต่มีโซเดียมน้อยกว่ามากคือมีแค่ 600 มิลลิกรัม ดังนั้นการใส่ผงชูรสเพียงครึ่งช้อนชา ในการปรุงอาหาร ก็จะทำให้รสชาติอาหารกลมกล่อม สามารถลดปริมาณการใช้เกลือหรือโซเดียมในปรุงอาหารได้
เรื่องที่ 3 ผงชูรส ช่วยเพิ่มความอยากอาหารในกลุ่มผู้สูงอายุ เนื่องจากเมื่อคนเราอายุมากขึ้น ประสาทรับรู้รสชาติอาหารก็จะด้อยประสิทธิภาพลง ทำให้ความอยากอาหารน้อยลงด้วย ผู้สูงอายุส่วนใหญ่จึงเบื่ออาหารรับประทานอาหารได้น้อยลง พอรับประทานอาหารได้น้อย ก็ส่งผลเสียต่อความสมดุลของร่างกายโดยเฉพาะภาวะเสี่ยงต่อสมองเสื่อม ฉะนั้นผงชูรสจึงเป็นตัวช่วยที่จะทำให้ความอยากอาหารของผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น การเติมผงชูรสลงไปในอาหารที่พอเหมาะ ก็จะทำให้รสชาติอาหารกลมกล่อม ผู้สูงอายุก็จะรับประทานอาหารได้มากขึ้นด้วย และนอกจากนี้กรณีผู้ป่วยที่กระเพาะอาหารฝ่อหรือต่อมน้ำลายทำงานได้ไม่ดี อาจทำให้น้ำลายแห้งและเบื่ออาหาร การเติมผงชูรสลงไปในอาหารก็จะช่วยทำให้ผู้ป่วยรับประทานอาหารได้มากขึ้นเช่นกัน
เรื่องที่ 4 ผงชูรสไม่ได้ทำให้ผมร่วง ซึ่งเราได้รับการบอกล่าวกล่อมหูมาตลอดว่าการกินผงชูรส ทำให้เกิดผมร่วงหรือหัวล้าน ซึ่งคำกล่าวอ้างดังกล่าวก็ไม่มีหลักฐานหรืองานวิจัยใดๆ ยืนยันว่าเป็นจริงอย่างที่กล่าวอ้างแต่อย่างใด แต่จริงๆ แล้วคนที่ผมร่วงจนนำไปสู่ภาวะหัวล้านนั้น สาเหตุหลักมาจากพันธุกรรมและอาจจะขาดวิตามินและแร่ธาตุบางชนิด ฉะนั้นการรับประทานผงชูรสในปริมาณที่พอเหมาะไม่มากจนเกินไป ก็ไม่ได้ทำให้ผมร่วงหรือหัวล้านแต่อย่างใด
นี่คือ 4 เรื่องที่เกี่ยวกับผงชูรส ที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ ฉะนั้นก็อยากให้ท่านผู้อ่านทุกท่านได้ทราบ เพื่อสุขภาพที่ดีและเมื่อรู้แล้วก็จะสามารถรับประทานผงชูรสได้อย่างสบายใจและปลอดภัยด้วย เพราะหากว่าเรารับประทานผงชูรสมากเกินไปก็ย่อมส่งผลกระทบต่อร่างกายของเราได้เหมือนกัน เช่น เกิดอาการลิ้นชา ปากแห้ง คอแห้ง กระหายน้ำหรืออาจมีอาการแพ้ผงชูรสได้ ผู้เขียนหวังเป็นอย่างยิ่งว่า บทความนี้จะเป็นประโยชน์ต่อท่านผู้อ่านทุกท่าน อ่านจบแล้วอย่าลืมแชร์บอกต่อให้กับท่านอื่นๆ ได้ทราบด้วยนะครับ ขอบคุณครับผม
เกล็ดความรูเพิ่มเติม *กรดกลูตาเมต เป็นกรดอามิโนชนิดหนึ่ง เป็นส่วนประกอบของโปรตีนช่วยเพิ่มความกลมกล่อมของอาหารและเป็นแหล่งพลังงานให้กับร่างกาย
เนื้อหาโดย:loylom :อ่านบทความแล้ว อย่าลืม!!! กดไลท์ กดแชร์ ให้กำลังใจด้วยนะครับ