3 "คณะสาขา"📝🧑🎓 อาจจะมีการปิดตัวลง⛔️ หรือหายไปใน (อนาคต)✍️🎓🌐🗺🧭
ทุกคนคงทราบกันดีว่า โลกของเรามีการเปลี่ยนแปลงอย่างไม่หยุดนิ่ง ไม่ว่าจะทางไหนก็ตาม จะมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องในทุกๆนาที ซึ่งก่อผลกระทบออกไปหลายสิ่ง และในที่นี้เราจะมาพูดการเปลี่ยนแปลง ด้านการศึกษาใน "คณะ" หรือสาขาที่เรียน ที่ได้รับผลกระทบหลายๆด้านทางวิชาการแห่งอนาคต หรือวันข้างหน้าที่จะเปลี่ยนแปลงไปครับ
ก่อนอื่นใดผมต้องบอกก่อนนะว่า ทั้ง 3 สาขานี้ล้วนเป็นคณะ/สาขาวิชายอดนิยมในอดีตทั้งสิ้น แต่การเปลี่ยนแปลงทางด้านธุรกิจและเทคโนโลยีทำให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไปจนความสำคัญของบัณฑิตในสาขาเหล่านี้หดหาย ทำให้เด็กที่เพิ่งจบมารู้สึกว่าปริญญาที่ได้มานั้นไร้ค่า แต่มันเป็นเช่นนั้นจริงหรือ ? งั้นเรามาลองดูกันทีละคณะสาขากันครับ.
- คณะศึกษาศาสตร์/ครุศาสตร์
- คณะวิทยาศาสตร์
- คณะสังคมศาสตร์
1. "คณะศึกษาศาสตร์หรือครุศาสตร์"
คณะศึกษาศาสตร์ สาขานี้จากการสำรวจพบว่ายังพอหางานได้ แต่รายได้ไม่สูงเมื่อเทียบกับสาขาอื่นๆ.
วิกฤติ: เด็กเกิดน้อยลงทุกปี ความต้องการครูจะลดลงอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่เด็กรุ่นใหม่ก็ไม่ง้อครู เพราะเรียนรู้ทุกเรื่องทุกอย่างได้จากยูทูบ.
โอกาส: การเติบโตของธุรกิจด้านการเรียนรู้ผ่านระบบออนไลน์จำเป็นต้องอาศัยคนวางโครงร่างหลักสูตร ซึ่งไม่มีใครทำได้ดีไปกว่าคนที่จบมาในสายนี้โดยตรง บัณฑิตในสายนี้หากใช้สื่อดิจิทัลเป็นจะมีโอกาสในการเติบโตสูง หางานได้ง่าย และรายได้ดีกว่ามาก.
🎓🎓🎓🎓🎓🎓🎓🎓🎓🎓🎓🎓🎓🎓🎓
2. "คณะวิทยาศาสตร์"
คณะวิทยาศาสตร์ จากการสำรวจพบว่า หางานทำยากหากไม่ได้เรียนต่อเฉพาะทาง ซึ่งก็เป็นเรื่องจริงบางส่วนเท่านั้น.
วิกฤติ: สาขาวิชาวิทยาศาสตร์บริสุทธิ์ในบ้านเรามักถูกให้ความสำคัญน้อยเกินความเป็นจริงมาโดยตลอด ปลายปีที่แล้วกองทุนวิจัยของไทยก็ถูกตัดงบไปถึง 8,000 ล้านบาท ยิ่งเป็นสาขาที่หางานยากเช่นฟิสิกส์ ดาราศาสตร์ ยิ่งหางานทำยากมาก.
โอกาส: ในบางสาขายังคงเป็นดาวรุ่ง เช่น คณิตศาสตร์ โดยเฉพาะ Data Science ในขณะที่หลายๆ สาขากำลังมีโอกาสมาถึงเพราะแนวโน้มอนาคตเราหนีวิทยาศาสตร์ชั้นสูงไปไม่พ้น เช่นควอนตั้มฟิสิกส์ นาโนเทคโนโลยี ฟิสิกส์ดาราศาสตร์ ฯลฯ โดยเฉพาะเทคโนโลยีดาวเทียม แต่ประเทศไทยยังไม่ตื่นตัวเท่าที่ควร.
🎓🎓🎓🎓🎓🎓🎓🎓🎓🎓🎓🎓🎓🎓🎓
3. "คณะสังคมศาสตร์"
สาขาสุดท้ายคือ คณะสังคมศาสตร์ โดยเหตุผลหลักจากการสำรวจคือ เรียนมาพื้นๆ เกินไป เอามาประยุกต์ทำงานได้ยาก.
วิกฤติ: ความต้องการบัณฑิตในสาขานี้ลดน้อยลงมาหลายปีเพราะได้ความรู้กว้างเกินกว่าจะไปใช้งานได้จริง ส่วนใหญ่ต้องเรียนต่อในสาขาต่างๆ เพื่อเพิ่มความรู้เฉพาะด้าน.
โอกาส: แนวโน้มการเติบโตของธุรกิจ Social Enterprise จะขยายตัวต่อไปอีกมาก ความต้องการคนที่เข้าใจความเป็นไปของสังคมและจับพฤติกรรมสังคมได้เก่งจึงเพิ่มสูงขึ้น แต่ก็เป็นโอกาสที่เปิดให้กับคนเรียนสายสังคมศาสตร์ที่มองเห็นการเปลี่ยนแปลงและจับเอาพฤติกรรมที่เกิดขึ้นมาอธิบายได้เท่านั้น.
🎓🎓🎓🎓🎓🎓🎓🎓🎓🎓🎓🎓🎓🎓🎓
ก็จบไปแล้วทั้ง (3 คณะสาขาวิชา ) และที่ยกตัวอย่างมานี้เอาเข้าจริงๆ คนที่จบมาในระดับหัวกะทิมักไม่เดือดร้อนอะไรอยู่แล้วเพราะเป็นคนกลุ่มแรกที่มองเห็นโอกาสและปรับตัวได้ก่อน ในขณะที่กลุ่มรั้งท้ายก็มักจะรู้ตัวเองดีเช่นกันจึงหันไปหาอาชีพอื่นหรือไม่ก็ออกมาบุกเบิกทำกิจการของตัวเองเสียเลย ซึ่งถือว่าได้เปรียบมากๆครับ....
: เรียบเรียงเนื้อหา : Yoyoc4000it. 📝😎💞
: ฝากกดไลค์👆👍💞 กดแชร์ให้ผมด้วยนะครับ : ขอบคุณครับ.🙏💕😎