เมืองหลวงของประเทศนอกเขตทะเลทราย ที่มีอากาศร้อนมากที่สุดในโลก
กรุงเทพมหานคร (Bangkok)
เมืองหลวงของประเทศไทย เป็นหนึ่งในเมืองหลวงที่ร้อนที่สุดในโลก
ขึ้นชื่อเรื่องถนนที่พลุกพล่าน วัฒนธรรมที่มีชีวิตชีวา และประวัติศาสตร์
อันยาวนาน ทั้งยังทนต่ออุณหภูมิที่ร้อนระอุตลอดทั้งปี
เมืองนี้มีภูมิอากาศแบบทุ่งหญ้าสะวันนาเขตร้อน
ซึ่งมีความชื้นสูงและความร้อนแผดเผาตลอดทั้งปี
สาเหตุความร้อนของกรุงเทพ มาจากที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ของเมือง
บวกกับการขยายตัวของเมืองอย่างรวดเร็ว ก่อให้เกิด
ปรากฏการณ์เกาะความร้อนในเมือง ซึ่งอุณหภูมิอาจพุ่งสูงขึ้น
กว่าพื้นที่ชนบทโดยรอบ ความร้อนของกรุงเทพสร้างความท้าทาย
ให้กับผู้อยู่อาศัย ทั้งความกังวลเกี่ยวกับการเจ็บป่วยจากความร้อน
การใช้พลังงาน และผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
แม้อากาศจะร้อน แต่ชาวกรุงเทพฯ และผู้มาเยือนก็ปรับตัวให้เข้ากับสภาพอากาศ
โดยใช้ชีวิตให้ช้าลงในช่วงที่ร้อนที่สุดของวัน หาร่มเงา และเพลิดเพลิน
กับอาหารไทยดั้งเดิมที่สดชื่น เช่น ส้มตำ เครื่องดื่ม หรือข้าวเหนียวมะม่วง
สถานะของกรุงเทพฯ ในฐานะหนึ่งในเมืองหลวงที่ร้อนที่สุดในโลก
ช่วยเพิ่มลักษณะพิเศษและเสน่ห์ของเมือง ทำให้เป็นจุดหมายปลายทาง
ที่มีเสน่ห์ ซึ่งผสมผสานระหว่างประเพณี ความทันสมัย และกลิ่นอายของเขตร้อน
กรุงเทพมหานคร ถือเป็นเมืองที่มีค่าเฉลี่ยอุณหภูมิสูงตลอดทั้งปี
โดยเดือนที่มีค่าเฉลี่ยอุณหภูมิต่ำสุด คือเดือนธันวาคม (26.5 องศาเซลเซียส)
อุณหภูมิเฉลี่ยสูงสุดในเดือนเมษายน (30.5 องศาเซลเซียส)
ในขณะที่ค่าเฉลี่ยอุณหภูมิทั้งปี อยู่ที่ 28.6 องศาเซลเซียส
ค่าเฉลี่ยนี้ถือว่าสูงที่สุดเป็นอันดับที่ 4 ของเมืองหลวงทั่วโลก
และเป็นอันดับที่ 1 ของโลก ของเมืองหลวงที่ไม่ได้ตั้งอยู่ในเขตทะเลทราย
โดยเมืองหลวงที่มีอากาศร้อนที่สุด (ค่าเฉลี่ยตลอดปี)
ได้แก่ กรุงคาร์ทูม (Khartoum) ประเทศซูดาน 29.9 องศาเซลเซียส
นครจิบูตี (Djibouti City) ประเทศจิบูตี 29.8 องศาเซลเซียส
และกรุงนีอาเม (Niamey) ประเทศไนเจอร์ 29.0 องศาเซลเซียส
โดยทั้ง 3 เมืองหลวงนี้ ล้วนอยู่ในเขตทะเลทรายของทวีปแอฟริกา