'พายุสุริยะ' ภัยร้ายสุดอันตรายที่มาจากห้วงอวกาศแสนไกล
พายุสุริยะ (Solar storm)
หรือที่เรียกว่าเปลวสุริยะ หรือการปล่อยมวลโคโรนา (CME)
เป็นการปะทุของพลังงานและอนุภาคที่รุนแรง ซึ่งปล่อยออกมา
จากชั้นบรรยากาศรอบนอกของดวงอาทิตย์ ปรากฏการณ์เหล่านี้
สามารถส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อสนามแม่เหล็กของโลก
ไอโอโนสเฟียร์ และโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยี
พายุสุริยะเกิดขึ้นเมื่อพลังงานแม่เหล็ก ที่สะสมอยู่ในชั้นบรรยากาศ
ของดวงอาทิตย์ถูกปล่อยออกมาอย่างกะทันหัน ซึ่งมักส่งผลให้เกิดการปะทุ
ของพลาสมาร้อนและอนุภาคที่มีประจุออกสู่อวกาศ พายุสุริยะที่ทรงพลังที่สุด
สามารถปลดปล่อยพลังงานจำนวนมหาศาล โดยมีผลกระทบตั้งแต่
การสื่อสารผ่านดาวเทียมและระบบนำทางที่หยุดชะงัก ไปจนถึงไฟฟ้าดับในวงกว้างบนโลก
ผลกระทบของพายุสุริยะบนโลกส่วนใหญ่ ได้รับอิทธิพลจากความเข้ม
และทิศทางของลมสุริยะ ซึ่งเป็นกระแสอนุภาคที่มีประจุที่ปล่อยออกมา
จากดวงอาทิตย์ เมื่อพายุสุริยะมาถึงโลก มันสามารถโต้ตอบ
กับสนามแม่เหล็กของดาวเคราะห์ ทำให้เกิดพายุแม่เหล็กโลก
และแสงออโรร่าในบริเวณขั้วโลก
แม้ว่าพายุสุริยะลูกเล็กๆ อาจส่งผลกระทบเพียงเล็กน้อย
แต่เหตุการณ์พายุสุริยะที่รุนแรงก็มีโอกาสที่จะทำให้เกิดการหยุดชะงักในวงกว้าง
ต่อโครงข่ายไฟฟ้า เครือข่ายการสื่อสาร และการทำงานของดาวเทียม
ความพยายามในการบรรเทาผลกระทบของพายุสุริยะ ได้แก่
การตรวจสอบสภาพอากาศในพื้นที่ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่ยืดหยุ่น
และการใช้มาตรการป้องกันสำหรับระบบที่สำคัญ
การทำความเข้าใจและการทำนายพายุสุริยะถือเป็นสิ่งสำคัญ
ในการปกป้องระบบเทคโนโลยีและโครงสร้างพื้นฐานบนโลกและในอวกาศ
การวิจัยอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับพฤติกรรมของดวงอาทิตย์
และอิทธิพลของดวงอาทิตย์ที่มีต่อสภาพอากาศในอวกาศ
เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการเสริมสร้างความสามารถของเรา
ในการพยากรณ์และบรรเทาผลกระทบของพายุสุริยะในอนาคต