ไขข้อสงสัย ว่าทำไมยิ่งคันยิ่งเกา แล้วพอยิ่งเกาก็จะยิ่งคันขึ้นไปอีก?
วงจรการคัน-เกา (Itch-Scratch Cycle)
เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นเอง โดยอาการคันนำไปสู่การเกา
ซึ่งจะทำให้ความรู้สึกคันรุนแรงขึ้น ทำให้เกิดวงจร
ของความรู้สึกไม่สบาย โดยทั่วไปแล้วจะมีลักษณะดังนี้
ความรู้สึกคัน
อาการคันสามารถกระตุ้นได้จากปัจจัยต่างๆ เช่น ผิวแห้ง แมลงสัตว์กัดต่อย
โรคภูมิแพ้ หรือสภาพผิว เช่น กลากหรือโรคสะเก็ดเงิน ความรู้สึกคัน
เกิดขึ้นเมื่อปลายประสาทในผิวหนังถูกกระตุ้น
โดยส่งสัญญาณไปยังสมองว่ามีบางอย่างระคายเคืองผิวหนัง
การตอบสนองต่อการเกา
เพื่อตอบสนองต่อความรู้สึกคัน บุคคลมักจะเกาบริเวณที่ได้รับผลกระทบ
โดยสัญชาตญาณ การเกาช่วยบรรเทาชั่วคราว โดยการรบกวนสัญญาณประสาท
ที่ส่งความรู้สึกคันไปยังสมอง นอกจากนี้ การเกายังสามารถปล่อยสารเอ็นโดรฟิน
ซึ่งเป็นสารเคมีบรรเทาความเจ็บปวดและอารมณ์ตามธรรมชาติ
ให้ความรู้สึกโล่งใจและมีความสุขในช่วงสั้นๆ
การบรรเทาอาการชั่วคราว
ในขั้นต้น การเกาอาจช่วยบรรเทาอาการคันได้
เนื่องจากเป็นการรบกวนสัญญาณประสาทและหลั่งสารเอ็นโดรฟิน
อย่างไรก็ตาม การบรรเทานี้มักเกิดขึ้นเพียงช่วงสั้น ๆ และตามมาด้วยผลการฟื้นตัว
อาการคันกลับมาเป็นปกติ
หลังจากบรรเทาอาการชั่วคราวด้วยการเกา อาการคันมักจะกลับมาอีกครั้ง
โดยมักจะรุนแรงกว่าเดิม อาการคันแบบเด้งกลับนี้เกิดขึ้น
เนื่องจากปัจจัยหลายประการ รวมถึงการปล่อยฮีสตามีน
และสารสื่อกลางการอักเสบอื่นๆ ในผิวหนัง การระคายเคือง
ที่ปลายประสาทเพิ่มเติม และความเสียหายที่ผิวหนังที่อาจเกิดขึ้นจากการเกา
วงจรต่อเนื่อง
ความรู้สึกคันที่รุนแรงขึ้นนำไปสู่การเกาที่มากกว่าเดิม
และทำให้วงจรคงอยู่ต่อไป ในแต่ละรอบ อาการคันอาจรุนแรงขึ้น
และผิวหนังอาจระคายเคืองและเสียหายมากขึ้น
การทำลายวงจรการคัน-เกา มักต้องอาศัยการระบุสาเหตุที่แท้จริงของอาการคัน
การใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่เหมาะสม และใช้กลยุทธ์เพื่อต้านทานการกระตุ้นให้เกา
เช่น การใช้โลชั่นหรือแผ่นเย็นเพื่อผ่อนคลาย หันเหความสนใจ
ไปกับการทำกิจกรรมต่างๆ หรือไปรับการรักษาพยาบาลจากผู้เชี่ยวชาญเมื่อจำเป็น