เช็คเลย!! สัญญาที่จะบอกว่าการออกเดต คุณจะไปรอดไหม
10 สัญญาณเตือน!! ออกเดตครั้งนี้ ไปไม่รอดไหม
01: เลิกคิ้วข้างเดียว
เบาะแสจากคิ้วบ่งบอกสภาวะอารมณ์ต่างๆ ได้มากมายในช่วงเดต คุณต้องเห็นสองคิ้วของคู่เดตเลิกขึ้นเพื่อให้คุณรู้ว่าเขาฟังอยู่และมีส่วนร่วม เมื่อคุณเริ่มบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวต่างๆ พร้อมทั้งรอยยิ้มเมื่อเรื่องเล่านั้นเป็นเรื่องน่ายินดี เช่น คุณเล่าว่าถูกหวย
แต่หาก เราเห็นสิ่งที่คุณไม่อยากเห็นนั่น คือศีรษะเอียงไปข้างหนึ่ง ขณะคิ้วอีกข้างเลิกขึ้น แต่อีกข้างลดลงเล็กน้อย ท่านี้บ่งขี้ว่าคนคนนี้กำลังสงสัย และหรือไม่มั่นใจในตัวอีกฝ่ายหรือเรื่องที่ถูกกล่าวถึง
02: ท่างอตัว
ตอนคุณเห็นคนสองคนเดตกัน บ่อยครั้งที่คุณจะสังเกตเห็นท่าทางที่สะท้อนกลับมาเหมือนกระจกสะท้อนกลับ เช่น เมื่อคนหนึ่งเอนตัวไปทางขวา อีกคนจะเอนไปทางนั้นเช่นกัน ถ้าคนหนึ่งเท้าศอกทั้งสองข้างกับโต๊ะ ไม่นานอีกคนจะเลียนแบบพฤติกรรมนั้น
ลำตัวมีบทบาทสำคัญ เนื่องจากการเปลี่ยนท่าทางคนนั้น เมื่อลองสังเกตอย่างใกล้ชิดแล้ว ท่าทางของเราส่วนใหญ่จะตั้งตรง บางครั้งก็แข็งทื่อไปนิด ท่าทางสามารถบ่งบอกถึงความเคารพไปจนถึงการดูถูกเหยียดหยาม
แต่หากเราเห็นสิ่งที่คุณไม่อยากเห็นนั่น คือท่าทางงอตัวของคู่สนทนา ซึ่งสามารถตีความได้ถึงความเบื่อหน่าย และอาจแสดงถึงการไม่เคารพโดยไม่รู้ตัว ซึ่งเมื่อมีผู้ใดแสดงออกมาแล้ว อีกฝ่ายก็มีแนวโน้มแสดงท่าทางเดียวกันหรือคล้ายกัน รวมถึงภาษากายอื่น สื่อได้ว่าการเดตนี้ใกล้จบลงแล้ว
03: กดนิ้วโป้งและนิ้วชี้แนบใบหน้า
บ่อยครั้งที่คุณอาจเห็นพฤติกรรมนี้แต่อาจไม่ได้ตระหนักถึงมัน มันถูกกระตุ้นด้วยอะไรก็ตามตั้งแต่ความเครียดไปจนถึงความตื่นเต้น ไม่ว่าเกิดจากสิ่งที่ดีหรือแย่ สิ่งหนึ่งที่มั่นใจได้ คือเมื่อคุณเห็นมัน นั่นแสดงว่ามีอะไรสักอย่างไม่เข้าท่า
04: เหยียดริมฝีปากไปข้างหนึ่ง
การแสดงออกทางสีหน้าทุกอารมณ์เหมือนกันทุกหนแห่งบนโลก มีอย่างน้อยเจ็ดอารมณ์ คือ
1. โกรธ 2. มีความสุข 3. เศร้า 4. รังเกียจ
5. กลัว 6. ประหลาดใจ 7. เกลียด
การแสดงออกทางอารมณ์ใช้กล้ามหน้าแบบเฉพาะเจาะจง โดยเฉพาะการแสดงออกบนใบหน้าฝ่ายหญิง คือ ความเกลียด ดังนั้น การยกริมฝีปากบนและเหยียดไปด้านข้าง เป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า การเดตครั้งนี้ได้ถือว่าจบลงสักพักแล้ว
05: เท้าแขนเป็นเกราะป้องกัน
พฤติกรรมนี้ แสดงว่า เขาต้องการที่จะถอยห่าง มีความอึดอัดใจ สถานการณ์น่าเบื่อ
06: หลุบตานานเกินไป
เมื่อพบสิ่งที่ทำให้เราขุ่นเคืองใจ น่ารังเกียจ หรือไม่น่าพึงพอใจ เราจะหลับตาลงโดยสัญชาตญาณเพื่อปิดกั้นสิ่งที่กำลังเห็น บางทีเรายกมือปิดตาเพื่อเพิ่มระยะห่างระหว่างเรากับสิ่งน่รังเกียจ
ในสถานการณ์เดต เมื่อฝ่ายใดหลับตานานกว่าเดิมขณะกะพริบตา บอกได้ว่าเขาไม่ชอบคู่เดต ไม่ชอบเลยสักนิด
07: เสริมหล่อและจัดแต่งเสื้อ
เมื่อสิ่งต่างๆ ไปได้สวย ท่าทางการเสริมหล่อแต่งสวยก็ไม่มีจะไรให้คิดมาก ถ้าคุณเห็นคนที่ไปพบเริ่มดึงเนกไทหรือปัดเสื้อปัดกางเกงเมื่อคุณเดินเข้าห้อง นี่อาจเป็นเบาะแสบ่งบอกถึงความเคารพหรือยอมรับในตัวคุณ แสดงให้คุณรู้ว่าเขากำลังทำให้ตัวเองดูเรียบร้อยเท่าที่จะทำได้ และพยายามสร้างความประทับใจให้แก่คุณ
อย่างไรก็ตาม ท่าทางการเสริมหล่อแต่งสวยควรทำในช่วงเวลาที่เหมาะสม ถูกกาลเทศะ เมื่อเราเห็นว่าฝ่ายชายดึงหรือปัดบางสิ่งจากปกเสื้อพร้อมตอบคำถาม การทำเช่นนี้ไม่เพียงไม่ให้เกียรติ แต่เป็นการดูหมิ่นเหยียดหยามด้วย
08: การหาว
หากคุณพบว่าตัวเองตกอยู่ในสถานการณ์ความเครียดคุกรุ่น คุณอาจหาวโดยไม่คาดคิดเนื่องจากกล้ามเนื้อรัดตัวและร่างกายแข็งทื่อ สมองเลยตัดสินใจว่าคุณต้องการออกซิเจนสักเฮือก สิ่งนี้จะกระตุ้นให้คุณหาว
เมื่อฝ่ายชายแสดงความไม่ใส่ใจเรื่องที่คู่เดตพูดผ่านการหาว เขารู้สึกเบื่อหน่ายจากการนั่ง
09: ท่านั่งแข็งเกร็ง
บ่อยครั้งเมื่อเราอยู่ในสถานการณ์ตึงเครีย กล้ามเนื้อแผ่นหลังและคอจะเริ่มรัดตัว อาการนี้เกิดขณะสมองพยายามคงระดับทุกอย่างให้ปกติพร้อมกับคำนวณสถานการณ์ต่างๆ ให้ไวที่สุด เพื่อจัดการสถานการณ์
เมื่อเห็นชัดว่าฝ่ายชายไม่มีอารมณ์กับการเคตนี้แม้แต่น้อย โดยทฤษฎี ถ้าการเดตไปได้สวยท่าทางของเขาจะเหมือนกับเธอ หรือเธอเลียนพฤติกรรมของเขา ซึ่งมันไม่เกิดขึ้นในกรณีนี้ บางทีอาจเป็นสัญญาณว่าสองคนนี้ไม่ได้เกิดมาคู่กัน
10: ปลายเท้าชี้ไปทางประตู
ผู้ที่ปลายเท้าคนอื่นหันเข้าหามากที่สุดคือจุดโฟกัสของคนทั้งกลุ่ม เป็นผู้ที่พวกเขาสนใจและเชื่อฟัง บุคคลนั้นมีสิทธิ์เป็นหัวหน้าหรือจ่ฝูง ปลายเท้าผู้คนจะชี้ไปสิ่งที่พวกเขา สนใจ
ถ้าคุณอยู่ในงานปาร์ตี้ ชายหนุ่มมาคุยกับคุณและเพื่อนสนิท โดยปลายเท้าเขาชี้มาทางตัวคุณไม่ใช่เพื่อน พนันได้เลยว่าเขาสนใจคุณมากกว่า
ป.ล. เพื่อนๆ สามารถอ่านกระทู้อื่น...ได้ตามลิงค์ข้างล่างเลยนะคะ
https://page.postjung.com/n00kky
อ้างอิงจาก: หนังสือถอดรหัสภาษากาย : Understanding Body Language