หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ตำนานช้างปู้ก่ำงาเขียว และแม่น้ำร่องช้าง อำเภอดอกคำใต้

โพสท์โดย ประเสริฐ ยอดสง่า

ณ  เมืองป่าสักหลวง ที่มีความสงบร่มเย็นมาช้านาน ชาวประชาก็กินดีอยู่ดี ข้าวน้ำอุดมสมบูรณ์  โดยมีเจ้าผู้ครองเมืองชื่อว่า "พญาลิ้นก่าน" เพราะลิ้นของพระองค์ มีปานสีดำ พาดผ่านกลางลิ้น ตำนานเล่าว่า พระองค์ทรงเป็นเจ้าเมืองพะเยาองค์หนึ่ง ในครั้งกระโน้น

            พระองค์ มีช้างตัวหนึ่งชื่อว่า "ช้างปู้กำงาเขียว" (อ่านว่า จ๊างปู๊ก่ำงาเขว) เป็นช้างป่า มีตัวใหญ่มากถึง ๑๒ ศอก มีกำลังมหาศาล มีผิวหนังดำก่ำ มีงาสีเขียว เหมือนแก้วนิลผักตบชวา คนทั้งหลายจึงเรียกว่า "ช้างปู้ก่ำงาเขียว" พญาลิ้นก่าน ได้ช้างตัวนี้มาเป็นคู่บุญบารมี ทำให้บ้านเมืองเจริญรุ่งเรืองมาช้านาน ศัตรูต่างก็เกรงขาม บ้านเล็กเมืองใหญ่ ต่างก็มาผูกมิตรไมตรีจิตด้วย เป็นอันมาก

            ภายหลังมา ช้างตัวนั้นเกิดตกมัน ไล่ฆ่าคนทั้งหลาย ล้มตายไปเป็นอันมาก บ้านช่องของคนทั้งหลาย ก็ถูกช้างทำลายลงไปมากเช่นกัน คนทั้งหลายต่างแตกตื่นหนีตาย พากันอพยพ เข้าอยู่ภายในเมืองป่าสักหลวงนั้นเอง

พญาลิ้นก่าน จึงสั่งให้เสนาอำมาตย์ ได้ช่วยกันป่าวประกาศ เกณฑ์คนทั้งหลาย ให้ขุดคูเมืองล้อมเวียง ทั้งกลางวันและกลางคืน เพื่อป้องกันอันตรายจากช้างตัวนั้น โดยสั่งให้แต่ละคน หมุนเวียนเปลี่ยนเวรกัน ทำการขุดอย่างไม่หยุดหย่อน

เมื่อคนหนึ่งเหนื่อยอ่อน ก็ให้อีกคนหนึ่งเข้ามาขุดแทน หมุนเวียนผลัดเปลี่ยนกันขุดอย่างนี้ ขุดแล้วขุดเล่า เมื่อต่างคนต่างขุด ไม่ทันได้ระวัง เพราะมัวแต่กลัวช้างจะวิ่งเข้ามา ด้วยความยัดเยียดในพื้นที่จำกัด ต่างเร่งรีบ บ้างลงจอบ บ้างลงเสียม ชุลมุลวุ่นวายกันอยู่ จอบและเสียม ก็ไปถูกมือบ้าง ถูกเท้าของกันและกันบ้าง ขาดกระเด็นไป ผู้คนร้องครวญคราง บางคนไม่รู้สึกตัวว่ามือเท้าขาด ก็ขุดต่อไปอย่างเร่งรีบ จนนิ้วมือนิ้วเท้าเกลื่อนกลาด ขาดแล้ว ตกเต็มพื้นดินเป็นจำนวนมาก

          พวกที่อยู่ด้านหลัง ก็พากันเก็บใส่กระบุง ได้วันละกระบุงสองกระบุง พญาลิ้นก่าน บังคับบัญชาอย่างห้าวหาญ และเหี้ยมโหดอย่างนี้ วันแล้ววันเล่า ข่าวว่าเร่งขุดคูเมือง ใช้เวลาเพียงแค่ ๗ วัน งานที่พญาลิ้นก่านสั่งทำ ก็สำเร็จลง และสามารถทำการป้องกันเมืองเอาไว้ได้ คนทั้งหลาย จึงเรียกเมืองป่าสักหลวงใหม่ว่า "เวียงห้าว" หรือ "เมืองห้าว" มาจนถึงทุกวันนี้

            ส่วนช้างตัวนั้น ก็วิ่งไปทั่ว ไล่ฆ่า แทง ทำลายข้าวของเครื่องใช้ของชาวบ้าน เสียหายเป็นอันมาก ในที่สุด ก็วิ่งไปติดหล่มอยู่ในหนองน้ำแห่งหนึ่ง คนทั้งหลายจึงเรียกหนองน้ำนั้นว่า "หนองหล่ม" มาจนทุกวันนี้

            ในขณะนั้น ธิดาแห่งพญาปัญจนครได้ทราบข่าว ถึงรูปลักษณะของช้างนั้น ทรงใคร่จะได้งา เพื่อนำไปถวายพระราชบิดา และนำมาประดับบารมี ให้บ้านเมืองเจริญรุ่งเรือง เป็นที่เกรงขามต่อนครรัฐต่าง ๆ ตามความเชื่อของตน    

พระนางจึงสั่งให้เสนาอำมาตย์ ป่าวประกาศไปให้ชาวพระนคร ได้ทราบโดยทั่วกันว่า ผู้ใดมีความสามารถอาจหาญ อาสากูไปเอางาช้างปู้ก่ำงาเขียว แห่งเวียงห้าวมาได้ กูจักให้ทองคำแก่มันผู้นั้น หนึ่งพันคำฮ้อย

พรานป่าคนหนึ่ง มีวิชาดี ใคร่จะได้โชว์ฝีมือ จึงเข้าไปรับอาสา จะไปเอางาช้างปู้ก่ำงาเขียว แห่งเมืองพะเยา มาถวายให้ได้ พรานป่าคนนั้น ก็เดินทางจากปัญจนคร มารอนแรมตามป่าเขาอยู่หลายวัน โดยขึ้นตามลำน้ำแม่ยม เล็ดลอดเข้าถ้ำแห่งหนึ่ง แล้วออกมาถึงบริเวณหนองหล่ม มาพบกับช้างปู้ก่ำงาเขียว กำลังติดหล่มอยู่ และได้พยายามตะเกียกตะกายออกจากหล่มนั้น จึงร่ายเวทย์มนต์สะกด แล้วลงมือฆ่าช้าง หวังที่จะตัดเอางาไปถวายพระธิดาและรับรางวัล

ช้างปู้ก่ำงาเขียวนี้ มิใช่ช้างธรรมดา แทงก็ไม่เข้า ฆ่าก็ไม่ตาย จนนายพรานอ่อนใจ และได้นำเรื่องดังกล่าว ไปถามครูบาอาจารย์ ผู้ทรงวิทยาคม ว่าจะฆ่าช้างตัวนี้ได้อย่างไร เมื่อได้คำตอบแล้ว จึงกลับมาฆ่าใหม่ โดยแทงช้างจากท้อง ทะลุขึ้นข้างบน

เมื่อช้างปู้กำงาเขียวตายแล้ว ก็เกิดอาเพศ ฝนตกหนักถึง ๗ วัน ๗ คืน มีน้ำท่าวมอย่างมาก น้ำก็พัดเอาซากช้างตัวนั้น ไหลลงไปในห้วยแห่งหนึ่ง ขณะนั้น เขาเรียกห้วยแห่งนั้นว่า "ห้วยดินแดง" ซากช้างตัวนั้น ก็ถูกกระแสน้ำพัดไปตามลำห้วย ตลอดสาย ห้วยดินแดง ก็มีนิมิตที่ช้างไหลไป คนทั้งหลายจึงเรียกชื่อห้วยลำนั้นใหม่ว่า "ห้วยแม่ร่องช้าง" มาจนถึงทุกวันนี้

ซากช้างตัวนั้นก็เน่าเปื่อย แยกออกเป็นชิ้นน้อยชิ้นใหญ่ ไหลไปตามกระแสน้ำต่อไป ซากของช้างตัวนั้น ก็ไหลไปตกค้างอยู่ที่บวกแห่งหนึ่ง ซึ่งเหลืออยู่เพียง ๓ ขา คนทั้งหลายก็เรียกบวกแห่งนั้นใหม่ว่า "บวกสามขา" มาจนถึงทุกวันนี้ ส่วนไตของช้าง คนท้องถิ่นในภาคเหนือเรียกว่า "หมากเกว" ก็ไหลลงไปตามลำน้ำไปติดอยู่ที่ร่องบวกแห่งหนึ่ง คนทั้งหลายก็เรียกว่า "ร่องหมากแกว" มาจนถึงทุกวันนี้

            ส่วนชิ้นที่เป็นหัวช้าง ก็ไหลลงไปตามน้ำ ไปติดค้างอยู่ที่ร่องน้ำแห่งหนึ่ง คนทั้งหลายก็เรียกว่า "โทกหัวช้าง" ซากช้างไหล ไปขวางทางน้ำ ณ ที่แห่งหนึ่ง คนทั้งหลายจึงเรียกว่า "หนองขวาง" มาจนถึงทุกวันนี้ จากนั้น น้ำร่องช้าง ก็ไหลลงสู่แม่น้ำอิง ตรงบ้านหนองลาว เขตอำเภอภูกามยาว และน้ำอิง ก็ไหลลงสู่น้ำโขงเป็นลำดับต่อไป

บางตำนานเล่าว่า เมื่อนายพรานมาจากเมืองปัญจนครแล้ว ไล่ฆ่าช้างจากตำบลหนองหล่ม ปรากกว่าช้างยังไม่ตาย ได้วิ่งหนี และต่อสู้กันมาตลอดทาง และในที่สุด ก็หนีมาทางเขตตำบลบ้านถ้ำ นายพรานเห็นดังนั้น ก็ได้โดดลงหนองน้ำ ที่ตำบลหนองหล่ม และมาโผล่ที่น้ำผุด ตำบลบ้านถ้ำ ได้ไล่หาช้าง มาจากบริเวณนั้น จนช้างตายสนิท ณ ทุ่งแห่งหนึ่ง ต่อมาชาวบ้านจึงเรียกว่า "ทุ่งช้างตาย" มาจนถึงทุกวันนี้

แม่น้ำร่องช้าง เกิดจากเทือกเขาผีปั้นน้ำ  (ชาวบ้านเรียกจุดนี้ว่าดอยหลวง) อยู่ทิศทางตะวันออกของอำเภอดอกคำใต้  จังหวัดพะเยา  เป็นเสมือนเส้นกั้นเขตแดนอำเภอ ของจังหวัดพะเยา ถึง  4  อำเภอด้วยกัน  คืออำเภอดอกคำใต้ อำเภอปง อำเภอเชียงม่วน และอำเภอจุน ตามแผนที่ประเทศไทย แสดงทิวเขาและแม่น้ำ จะเห็นได้ว่าเทือกเขานี้ ทอดยาวเป็นแนว พาดผ่านไปทางทิศเหนือและทิศใต้ มีอยู่ 2 แห่งคือ  เทือกเขาผีปั้นน้ำ ที่เป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำวัง อยู่ในจังหวัดลำปาง อีกแห่งหนึ่งที่จะกล่าวมาที่นี้ คือ  เทือกเขาผีปั้นน้ำ ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำยม และแม่น้ำร่องช้าง หรือแม่ร่องช้าง 

คำว่า  “ผีปั้นน้ำ” เป็นชื่อที่ชาวบ้านในท้องถิ่น ใช้เรียกบริเวณสันเขาที่ต่ำที่สุด  ซึ่งมีลักษณะเป็นร่องลึกทั้งสองด้าน ของสันเขา เมื่อมีฝนตกลงมา กระแสน้ำจากยอดเขา ก็จะไหลลงสู่ที่ต่ำกว่า โดยแยกไหลลงทั้งสองฟากของสันเขา ฟากตะวันออก น้ำไหลลงไปรวมกัน เป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำยม ฟากตะวันตกไหลลงไปรวมกัน เป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำร่องช้าง  จากจุดที่สันเขา ได้แบ่งน้ำเป็นสองสายนี้เอง จึงเรียกว่า ผีปันน้ำ  (ปัน  ในภาษาเหนือแปลว่าแบ่ง ) และชื่อนี้ ก็เปลี่ยนเป็นทางการ           

ระยะทางที่ใกล้ที่สุด คือหมู่บ้านตำบลหนองหล่ม อำเภอดอกคำใต้ ไปยังเทือกเขานี้ ประมาณ  10  กิโลเมตร  ใช้เวลาเดินทางเท้าประมาณ  3  ชั่วโมง ก็จะถึงต้นกำเนิดของแม่น้ำร่องช้าง ซึ่งมีลำธาร และน้ำจากห้วยหลายสายไหลมารวมกัน เช่น ห้วยหนานสาน ห้วยร่องช้างแล่ง ห้วยไคร้  ห้วยฝาย  ห้วยผาช่อ  ห้วยร่องสัก  ห้วยหนองหล่ม  ฯ  นับจากต้นน้ำ มายังทิศตะวันตกมาประมาณ  7  กิโลเมตร จะเป็นบริเวณหน้าผาน้ำตก “ตาดหลวง” ในฤดูน้ำหลาก น้ำจะตกจากหน้าผาสูง สลับซับซ้อนกัน เป็น  4 ชั้น ซึ่งเป็นทัศนียภาพที่สวยงามมาก จากน้ำตกตาดหลวงมาประมาณ 1 กิโลเมตร จะเป็นบริเวณที่ราบลุ่ม ซึ่งกรมชลประทาน ได้จัดอ่างเก็บน้ำร่องช้าง เก็บน้ำได้ประมาณ 300,000 ลูกบาศก์เมตร พื้นที่ใช้ทางการเกษตรประมาณ  3,500  ไร่  ในเขตตำบลหนองหล่ม 

จากนั้น อ่างเก็บน้ำ จะไหลผ่านตำบลหนองหล่ม ตำบลคือเวียง ตำบลบ้านถ้ำ ตำบลบุญเกิด ตำบลดอนศรีชุม และตำบลสว่างอารมณ์ ของอำเภอดอกคำใต้ แล้วไหลไปรวมกับแม่น้ำแม่อิง ที่อำเภอภูกามยาว รวมระยะทางทั้งหมด ประมาณ  40  กิโลเมตร

โพสท์โดย: ประเสริฐ ยอดสง่า
อ้างอิงจาก:
https://youtu.be/16-CxFi1WIo?si=codEg59qK199f5ag
ตำนานช้างปู้ก่ำงาเขียว และแม่น้ำร่องช้าง
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
เกาหลีใต้เจอศึกหนัก ธุรกิจทรุดหลายเดือน แถมไทยก็แบนไม่หยุด ต้องหันหน้าหาญี่ปุ่นอดีตศัตรูเข้าใจคนผ่านกฎ 18 ข้อภาพจักรพรรดิ​นี​หว่า​นห​รง​ ราชวงศ์​ชิงสาลี่ เดอะสตาร์ โพสต์คลิปสวีตอวยพรวันเกิด ตงตง กฤษกร หวานจนแฟนคลับแซวสนั่นกฟภ. ประกาศฟรีค่าไฟเดือน ก.ย. และลด 30% ในเดือน ต.ค. สำหรับพื้นที่น้ำท่วมลุงต๋องแฉแม่ตั๊ก ให้เงินในคลิป 3,000 บาท ถ่ายเสร็จขอคืน 2,000 หวังช่วยรักษาเท้าแต่เป็นแค่ลมปากโตโยต้าเตรียมเรียกคืนรถยนต์กว่า 42,000 คันในสหรัฐฯเราควรซักผ้าปูที่นอนและหมอนบ่อยแค่ไหน?ฮือฮา! ภาพวาดบ้านไม้โบราณสุดสมจริง ผลงานสีน้ำมันของนักศึกษาสาว ม.ราชภัฏบุรีรัมย์อ้าว จัดอันดับประเทศในเอเชียมีอิทธิพลต่อโลก ไทยติดโผ แต่เกาหลีอยู่ตรงไหนกันแน่โมสาร์ทปล่อยเพลงใหม่ ในรอบ 200 ปี
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
อ้าว จัดอันดับประเทศในเอเชียมีอิทธิพลต่อโลก ไทยติดโผ แต่เกาหลีอยู่ตรงไหนกันแน่ภาพจักรพรรดิ​นี​หว่า​นห​รง​ ราชวงศ์​ชิงสาลี่ เดอะสตาร์ โพสต์คลิปสวีตอวยพรวันเกิด ตงตง กฤษกร หวานจนแฟนคลับแซวสนั่น
กระทู้อื่นๆในบอร์ด นิยาย เรื่องเล่า
บารมีหลวงปู่หน่วยประสบการณ์เจอผี ไม่น่าเชื่อจะมีจริงๆ น่ากลัวมาก จิตอ่อนอย่าอ่านตำนานพระนางจามเทวีปริศนาคลื่นความทรงจำ (2) #อักษราลัย
ตั้งกระทู้ใหม่