หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ตำนานเศร้าพื้นบ้าน ของเมืองเพชรบูรณ์ แม่นางผมหอม

โพสท์โดย ประเสริฐ ยอดสง่า

เมืองเพชรบูรณ์ มีตำนานพื้นบ้าน ที่เล่าสืบทอดต่อๆ กันมาอยู่เรื่องหนึ่ง ซึ่งเป็นตำนานเศร้า แต่ได้เชื่อมโยงไปยังสถานที่ต่างๆ ของเมืองเพชรบูรณ์อย่างมากมายอย่างน่าสนใจ  นั่นก็คือ ตำนานแม่นางผมหอม

ตามตำนานเล่าว่า ที่เมืองนครเดิด ซึ่งเป็นเมืองอยู่ริมแม่น้ำป่าสัก ปัจจุบันก็คือบริเวณบ้านดงเมือง ต.ลานบ่า อ.หล่มสัก เจ้าเมืองนครเดิด มีพระธิดานามว่า แม่นางผมหอม ด้วยเหตุว่า พระนางเป็นผู้ที่มีเส้นผมมีกลิ่นหอม และมีโฉมงามยิ่งนัก และเมื่อถึงเวลาที่พระธิดาเติบโตเป็นสาว และจะต้องมีคู่ครอง เจ้าเมืองนครเดิด มีความประสงค์ที่จะหาผู้มีบุญบารมี มาเป็นคู่ครองของพระธิดาตนเอง จึงได้ประกาศคัดเลือก ผู้ที่มีบุญบารมี ให้มาเป็นบุตรเขยตน และได้กำหนดวิธีการทดสอบ ความเป็นผู้มีบุญบารมี  โดยทำการขุดหลุมขวาก นั่นคือ หลุมดินลึก และปักไม้ไผ่ที่เหลาให้แหลมคมไว้ เต็มไปหมด และประกาศว่า หากผู้ใดโดดลงไปในหลุมขวากแล้วไม่ตาย ก็จะถือว่า เป็นผู้มีบุญบารมี ที่จะมาเป็นคู่ครองกับแม่นางผมหอม และครองบ้านครองเมือง สืบทอดจากตนเองต่อไป

เมื่อประกาศไปเช่นนี้ ก็ไม่มีใครกล้าที่จะโดดลงไปในหลุมขวาก เพราะกลัวตาย จนกระทั่งมีผู้ชายคนหนึ่งที่เป็น “ชาวบน” หรือสบน ซึ่งก็คือ คนป่าคนดง อาศัยอยู่บนเขา มีหมู่บ้านอยู่ที่บ้านน้ำเลา  ต.บ้านโคก ในปัจจุบัน พูดภาษามอญโบราณ  มาก้มๆ เงยๆ ดู และเกิดพลัดตกลงไปในหลุมขวาก แล้วปรากฏว่า ไม่ตาย สาเหตุที่หล่นลงไปในหลุม เพราะมีกระบอกไม้ไผ่(เอาไว้ใส่น้ำ)ห้อยอยู่ที่เอว เวลานั่งลงจะดูหลุม กระบอกไม้ไผ่กระแทกพื้น เลยทำให้หน้าคะมำ ตกลงไปในหลุมขวากแล้วไม่ตาย เจ้าเมืองนครเดิด จึงจำต้องทำตามคำที่ประกาศไว้ คือยกแม่นางผมหอม ให้เป็นภรรยาแก่ชายชาวบนคนนั้น

แม่นางผมหอม เกิดเสียอกเสียใจ น้อยเนื้อต่ำใจ ที่จะต้องตกเป็นภรรยาแก่ชายชาวบน ซึ่งเป็นชาวป่าชาวเขา สกปรก อัปลักษณ์  จึงตัดสินใจ กระโดดแม่น้ำป่าสักฆ่าตัวตาย ร่างแม่นางผมหอม ก็จมหายไปไหลไปตามกระแสน้ำ ของแม่น้ำป่าสัก อันเชี่ยวกราก

ฝ่ายชาวบน วันที่ยกขันหมากมาจากน้ำเลา ผ่านตำบลดงมูลเหล็ก ใบศรี (ซึ่งน่าจะเป็นเครื่องอุปกรณ์ ที่ใช้ในงานแต่งงาน)หล่น ปัจจุบันเรียกหนองภูศรี อยู่แถวบ้านโนนสะอาด ตำบลดงมูลเหล็ก   ขบวนขันหมาก เคลื่อนไปอีกหน่อยก็เกิดเกวียนหัก  ปัจจุบันเรียกหนองลาง  อยู่หลังวัดดงมูลเหล็ก พอรู้ว่านางผมหอมตาย ก็เลยให้คนในหมู่บ้าน นำหินมาจากเขา เพื่อจะมากั้นแม่น้ำป่าสักเพื่อหาศพ แต่พอรู้ว่าเจอศพแล้ว ก็เลยพากันเอาหินทิ้งไว้ที่โคกหินกอง ซึ่งปัจจุบันก็คือบริเวณ องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านโคก

ฝ่ายเจ้าเมืองนครเดิดพร้อมด้วยภรรยา หลังจากแม่นางผมหอม กระโดดแม่น้ำป่าสักฆ่าตัวตาย ก็ได้เกณฑ์ไพร่พล ติดตามหาร่างของแม่นางผมหอม ในแม่น้ำป่าสัก โดยยกขบวนไพร่พล พร้อมด้วยขบวนช้างม้า และช้างเผือกคู่ใจ มาพักดักรอ ตามหาศพของลูกสาว โดยทำการตั้งค่ายพักแรมอยู่ลำน้ำ ที่บริเวณที่ต่อมาเรียกกันว่า “พระยาพักช้าง” นั่นก็คือ สถานีตำรวจภูธรเพชรบูรณ์ ในปัจจุบัน และหลังจากได้ตามหาศพไปตามลำน้ำ  ก็ได้พบศพแม่นางผมหอม ที่ลอยมาตามแม่น้ำป่าสัก มาติดหลักลี่ คือหลักที่ใช้ปักกลางลำน้ำ เพื่อวางเครื่องมือดักปลา  จึงได้นำศพขึ้นมา ซึ่งบริเวณที่พบศพนั้น ภายหลังได้สร้างเป็นวัดขึ้นมา เรียกว่า “วัดศพ” ซึ่งต่อมา ภายหลังได้เปลี่ยนเป็น “วัดโพธิ์เย็น” และเป็นสถานที่ที่มีศาลแม่นางผมหอม ตั้งอยู่ในปัจจุบันด้วย

เจ้าเมืองนครเดิดและภรรยา ได้นำร่างไร้วิญญาณของแม่นางผมหอมลงเรือ เพื่อนำกลับค่ายที่พักไพร่พล  โดยทั้งสองได้ร้องไห้ โศกเศร้าเสียใจมาตามคลอง ที่ภายหลังตั้งชื่อว่า “คลองแสนพญาโศก” ซึ่งก็คือ คลองที่อยู่หลังโรงพยาบาลเมืองเพชรบูรณ์ และทะลุออกไปยังหน้าสถานีตำรวจภูธรเพชรบูรณ์ และศาลากลางเก่า พอมาถึงค่ายที่พักไพร่พล ก็พบว่า ช้างเผือกคู่ใจที่ได้นำมาด้วยนั้น เกิดตายลงไปอีก จึงโศกเศร้าเสียใจ เพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ

จากนั้น เจ้าเมือง ก็ได้นำศพของแม่นางผมหอม และซากของช้างเผือกไปฝัง และได้ทำเจดีย์ไว้ให้ ทั้งแม่นางผมหอม 1 องค์ และช้างเผือกอีก 1 องค์ และได้สร้างเป็นวัดขึ้นมาในบริเวณนั้น โดยให้ชื่อว่า วัดช้างเผือก ซึ่งเจดีย์ทั้ง 2 องค์ ยังคงตั้งอยู่คู่กัน หน้าโบสถ์วัดช้างเผือกในปัจจุบัน

ตำนานเล่าต่อมาว่า เจดีย์ทั้ง 2 องค์นั้น มีความศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้าน ในทางที่แตกต่างกัน กล่าวคือ แม่นางผมหอมนั้น เสียชีวิตด้วยความคับข้องหมองใจ วิญญาณจึงดุ เจดีย์จึงชอบลงโทษคน ใครทำไม่ดีไม่ถูกใจ ก็จะลงโทษให้มีอันเป็นไปต่าง ๆ นานา จึงเรียกกันว่า “เจดีย์ใจร้าย” … ส่วนช้างเผือกนั้น เนื่องจากเป็นสัตว์มงคล เจดีย์จึงใจดี ชอบให้รางวัลคน ใครมาบนบานศาลกล่าวอะไร หรือขอพรอะไร ก็จะได้ตามความต้องการ จึงเรียกกันว่า “เจดีย์ใจดี” มาจนทุกวันนี้

โพสท์โดย: ประเสริฐ ยอดสง่า
อ้างอิงจาก:
https://youtu.be/ab7qBqQhztM?si=EqoXo8_UvxpXXaq9
แม่นางผมหอม ตำนานเศร้าพื้นบ้านของเมืองเพชรบูรณ์
https://shorturl.asia/KCrqe
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
สาลี่ เดอะสตาร์ โพสต์คลิปสวีตอวยพรวันเกิด ตงตง กฤษกร หวานจนแฟนคลับแซวสนั่นรีสอร์ทแฉ แม่สิตางศุ์ เบี้ยวค่าห้องพักรีสอร์ต หนีกลางดึก ทิ้งห้องเละเกาหลีใต้เจอศึกหนัก ธุรกิจทรุดหลายเดือน แถมไทยก็แบนไม่หยุด ต้องหันหน้าหาญี่ปุ่นอดีตศัตรูเข้าใจคนผ่านกฎ 18 ข้อกฟภ. ประกาศฟรีค่าไฟเดือน ก.ย. และลด 30% ในเดือน ต.ค. สำหรับพื้นที่น้ำท่วมภาพจักรพรรดิ​นี​หว่า​นห​รง​ ราชวงศ์​ชิงลุงต๋องแฉแม่ตั๊ก ให้เงินในคลิป 3,000 บาท ถ่ายเสร็จขอคืน 2,000 หวังช่วยรักษาเท้าแต่เป็นแค่ลมปากเราควรซักผ้าปูที่นอนและหมอนบ่อยแค่ไหน?อ้าว จัดอันดับประเทศในเอเชียมีอิทธิพลต่อโลก ไทยติดโผ แต่เกาหลีอยู่ตรงไหนกันแน่โตโยต้าเตรียมเรียกคืนรถยนต์กว่า 42,000 คันในสหรัฐฯฮือฮา! ภาพวาดบ้านไม้โบราณสุดสมจริง ผลงานสีน้ำมันของนักศึกษาสาว ม.ราชภัฏบุรีรัมย์
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
อ้าว จัดอันดับประเทศในเอเชียมีอิทธิพลต่อโลก ไทยติดโผ แต่เกาหลีอยู่ตรงไหนกันแน่ภาพจักรพรรดิ​นี​หว่า​นห​รง​ ราชวงศ์​ชิงสาลี่ เดอะสตาร์ โพสต์คลิปสวีตอวยพรวันเกิด ตงตง กฤษกร หวานจนแฟนคลับแซวสนั่น
กระทู้อื่นๆในบอร์ด นิยาย เรื่องเล่า
บารมีหลวงปู่หน่วยประสบการณ์เจอผี ไม่น่าเชื่อจะมีจริงๆ น่ากลัวมาก จิตอ่อนอย่าอ่านตำนานพระนางจามเทวีปริศนาคลื่นความทรงจำ (2) #อักษราลัย
ตั้งกระทู้ใหม่