หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ตำนานงูยักษ์ แห่งกาญจนบุรี

โพสท์โดย ประเสริฐ ยอดสง่า

ย้อนกลับไปราว ๆ ปีพุทธศักราช 2485 เมืองไทย ตกอยู่ในเหตุการณ์สงครามโลกครั้งที่ 2 อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ประเทศไทย ถูกกองทัพจักรวรรดิญี่ปุ่น ยกพลขึ้นบก เพื่อใช้ประเทศไทยเป็นฐานส่งกำลัง  เพื่อนำทัพ เดินทางไปโจมตีกองทัพอังกฤษ ทหารอเมริกัน ที่อยู่ในประเทศพม่า ดังนั้น เพื่อให้การเดินทางเป็นไปได้อย่างราบรื่น จึงต้องมีการสร้างทางรถไฟ และสร้างสะพานข้ามแม่น้ำแคว เพื่อให้รถไฟวิ่งผ่าน สามารถลำเลียงอาวุธได้อย่างสะดวก

เชลยศึกชาวตะวันตก เป็นจำนวนมาก ที่กองทัพจักรวรรดิญี่ปุ่นจับมาได้ จึงต้องมาใช้แรงงาน ในการสร้างทางรถไฟ ในจังหวัดกาญจนบุรี ว่ากันว่า กว่าที่จะสร้างสะพานได้สำเร็จนั้น จะต้องมีการทำพิธีบวงสรวง สังเวยชีวิตของเชลยศึกสงคราม ไปร่วมหลายหมื่นคน อีกทั้งแน่นอนว่า สภาพภูมิประเทศ ของจังหวัดกาญจนบุรีในสมัยนั้น โดยส่วนใหญ่แล้ว เป็นป่ารกทึบ ที่ชุกชุมไปด้วยยุงป่ามากมาย จนเป็นเหตุให้มีทั้งโรคระบาด อย่างไข้มาลาเรีย ที่คร่าชีวิตเชลยที่สร้างทางรถไฟ ไปเป็นจำนวนมหาศาล จนมีคำกล่าวเปรียบเปรยถึงผู้ที่เสียชีวิต จากการก่อสร้างทางรถไฟที่แสนยากลำบากสายนี้ว่า “หนึ่งไม้หมอนรถไฟ แทนหนึ่งชีวิตที่เสีย”

การที่จะสร้างทางรถไฟสายมรณะนั้น เหล่าเชลย ศึกต้องบุกป่าฝ่าดงเข้าไป โดยคำสั่งที่ไม่มีทางปฏิเสธได้ ของเหล่าทหารญี่ปุ่น  แน่นอนว่า แต่เดิมนั้น มันต้องเป็นที่อยู่อาศัยของ “เจ้าถิ่น” มาก่อน การก่อสร้างนั้น เหล่าทหารญี่ปุ่น จะใช้เชลยศึกถางป่าเข้าไป และมีการตั้งฐานบัญชาการเป็นจุดๆ กระจายไปตามทาง ที่จะก่อร่างสร้างทางรถไฟ จนกระทั่งถึงเส้นทางบริเวณอำเภอไทรโยค ซึ่งในสมัยก่อนนั้น ยังเป็นป่าทึบ ที่ชาวบ้าน ยังไม่เคยเข้าไปย่างกรายเลยแม้แต่น้อย

นอกจากภัยจากโรคระบาด ที่มากับยุงแล้ว ป่าที่รกทึบ ก็ยังเป็นที่อยู่อาศัย ของสัตว์ป่านักล่ามือฉมังอีกมากมาย ที่พร้อมจะออกมาล่าเอามนุษย์ กลับไปกินเป็นมื้อค่ำ อีกทั้งในยุคนั้น ทหารประเทศญี่ปุ่นได้ใช้จุดศูนย์กลางป่า ของจังหวัดกาญจนบุรี เป็นป้อมปราการ สำหรับใช้ในการรบ แน่นอนว่า จะต้องรุกล้ำเข้าไปในเขตของเหล่าบรรดาสัตว์ป่าที่อยู่ลึก จนเกือบจะไม่มีใคร เคยเข้าไปตรวจสอบมาก่อน ทั้งในถ้ำ ซอกหิน ต้นไม้ต่าง ๆ นานา ถูกดัดแปลง ทำเป็นป้อมปราการพร้อมรบ

หากแต่เพียงการเหยียบย่ำของกองทัพญี่ปุ่นนี้ ไม่เพียงแต่เป็นการรุกล้ำเข้าพื้นป่าธรรมดา แต่กลับเป็นการรุกล้ำ เข้าสู่อาณาเขตของอสูรกายยักษ์ ที่จะต้องสร้างความหวาดกลัว ให้กับทหารญี่ปุ่นไปตลอดกาล

เมื่อมีการตั้งฐาน เพื่อเป็นที่พักของทหารญี่ปุ่น ที่ถูกส่งเข้ามาควบคุมเหล่าเชลย จึงจำเป็นที่จะต้องมีการจัดชุดเวรยาม ตามมาตรฐานของกองทัพ เพื่อดูแลความสงบ และป้องกันเหล่าเชลยหลบหนี กองทัพญี่ปุ่น ได้จัดชุดลาดตระเวนรอบๆ ฐานทัพ เป็นจำนวน 15 นาย เข้าเวรสลับผลัดเปลี่ยนกันเป็นกะ

และแล้ว เรื่องราวที่ต้องสร้างความหวาดหวั่นใจ ให้แกบรรดาเหล่าทหารญี่ปุ่น ก็เกิดขึ้นตั้งแต่วันแรก ที่ได้มีการตั้งฐานทัพ เมื่อทหารญี่ปุ่น ที่ถูกส่งออกไปลาดตระเวนนั้น มักจะหายตัวไปแบบไร้ร่องรอย วันละนาย สองนาย ซึ่งก็สร้างความวิตก ให้กับผู้บังคับบัญชา เพราะกำลังพลที่หายไปอย่างไร้สาเหตุนั้น อาจจะถูกข้าศึกลอบทำร้าย เพื่อรอวันบุกเข้ามาโจมตี จึงได้มีการเพิ่มกำลังทหารเข้าไปอีก จากที่เคยเดินลาดตระเวนจุดละคน ก็กลายเป็น 2-3 คน เลยทีเดียว

แต่ถึงจะเพิ่มกำลังพลไปมากสักเพียงใด ก็ดูเหมือนจะไร้ผล เพราะว่าหลังจากนั้น ก็ยังเกิดเหตุการณ์แบบเดิม คือทหารยังคงหายไปอย่างไร้ร่องรอย จนผู้บัญชาการ ต้องจัดทีม เพื่อค้นหาร่องรอยของทหารที่หายไป

ในเช้าวันรุ่งขึ้น กองทหาร ที่ได้รับหน้าที่ให้แกะรอย เพื่อหาสิ่งผิดปกติ ได้ออกลาดตระเวนไปรอบ ๆ พื้นที่ที่ตั้งค่าย เป็นรัศมีประมาณ 5 กม. จนกระทั่งได้พบกับถ้ำแห่งหนึ่ง เป็นโพลงลึก มืด รวมทั้งบรรยากาศหนาวเย็น ชวนให้ขนหัวลุก หัวหน้าชุดไม่รอช้า ได้จัดให้ทหารจำนวนหนึ่ง ลงไปสำรวจทันที ระหว่างที่ส่งทหารเข้าไปนั้น ฝั่งที่เฝ้าอยู่ภายนอก ก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1-2 ครั้ง จึงทำให้คิดว่า มีการต่อสู้กับศัตรูฝ่ายตรงข้าม จึงได้ส่งทหารอีกกลุ่ม เข้าไปเสริมในทันที

ไม่นานนัก หลังจากที่ได้ส่งกำลังเสริมลงไป ทหารที่รออยู่ปากถ้ำ ก็ต้องวิ่งกระเจิง เมื่อได้ยินเสียงของทหารที่ถูกส่งลงไป ตะโกนด้วยความตกใจว่า “สัตว์ประหลาด” พร้อมกับวิ่งพรวดออกมา เพื่อเอาชีวิตรอด

ทันที ที่ทหารที่ถูกส่งเข้าไป สามารถเอาชีวิตรอดกลับออกมาได้นั้น พวกเขาได้เล่าถึงวินาที ที่พวกเขาได้พบเจอในถ้ำนั้น ด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ พร้อมกับใบหน้าที่ตื่นเต้นอย่างสุดขีด โดยสิ่งที่เหล่าทหาร ที่วิ่งกันป่าราบ ออกมาจากถ้ำ ได้พูดออกมาเป็นเสียงเดียวกันว่า สิ่งที่เขาได้ประชันหน้ากับมันมา ก็คืองูขนาดใหญ่!!ที่พวกเขาไม่เคยพบเจอกับอะไร ที่มันใหญ่โตขนาดนี้มาก่อน

เหล่าทหารที่ชีวิตยังไม่ถึงฆาต เล่าถึงสิ่งที่เผชิญมาอย่างหมดเปลือก หัวหน้าจึงได้สั่งให้จัดการ กับเจ้าเพชฌฆาตยักษ์นั้นอย่างเด็ดขาด ด้วยวิธีการเอาระเบิด ยัดเข้าไปในถ้ำนั้นเสียเลย เพื่อทำการปลิดชีพเจ้างูยักษ์ตัวนี้

ระเบิดจำนวนมาก ถูกลำเลียงมาเพื่อใช้ระเบิดถ้ำปริศนา ซึ่งเชื่อว่า เป็นที่พำนักของพญางูอย่างมากมาย โดยมีการวางแผนไว้ว่า เริ่มกดชนวนระเบิดไล่ไปเรื่อยๆ ตั้งแต่ปากถ้ำ จนกระทั่งถึงข้างในถ้ำ อย่างระมัดระวัง

สิ้นเสียงระเบิด เหล่านักรบจากแดนอาทิตย์อุทัย ก็พากันวิ่งกรูกันเข้าไปในถ้ำ เพื่อสำรวจอีกครั้ง สิ่งที่พวกเขาเห็น ก็คือร่างของงูเหลือมขนาดใหญ่ยักษ์ มีความยาวหลายสิบเมตร ความกว้าง พอๆ กับตู้กับข้าวที่อยู่ในกองทัพ ยังไงยังงั้น แถมปากของมัน ก็ใหญ่มาก พอที่จะสามารถเขมือบคนในคำๆ เดียว ได้มากถึง 3 คน ได้แบบสบายๆ กันเลยทีเดียว ส่วนฟันของมันนั้น แหลมคมดั่งเคียว อาวุธคู่กายของยมฑูต ที่พร้อมจะทิ่มแทงลงไปในก้อนเนื้อ ของบรรดาเหยื่อ ผู้ที่ต้องพบกับฝันร้ายที่สุดในชีวิตเป็นแน่

ด้วยความใหญ่โตของมัน ขณะที่ทำการโจมตีเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายนั้น เจ้าอสูรกายยักษ์ ไม่จำเป็นต้องงับแล้วรัดเหยื่อ เพื่อบดขยี้กระดูก จนเสียงดังกร๊อบแกร๊บ ให้รำคาญหู แล้วค่อยเขมือบเหยื่อเข้าท้องทีละนิดๆ เหมือนงูเหลือมธรรมดาๆ  แต่อสรพิษร้ายตัวนี้ เพียงแค่งับเหยื่อ ก็สามารถส่งเหยื่อ สไลด์ผ่านลงท้อง ดำดิ่งลงสู่น้ำย่อย ในกระเพาะอาหารนั้นได้ เป็นเพียงเรื่องง่าย ๆ สำหรับมันเอง

ถึงแม้ว่า เจ้างูยักษ์ตัวนี้ จะมีร่างกายที่ใหญ่มหึมา มากแค่ไหนก็ตาม แต่ร่างของมัน ถึงกับขาดวิ่นเป็นท่อนๆ เมื่อต้องพบเจอกับแรงระเบิด จำนวนมหาศาล ที่กองทัพได้ประเคนเข้าไปในถ้ำ แต่นั่น ก็ไม่ได้ทำให้เจ้าอสูรกายยักษ์ สิ้นชีพได้ มันยังมีลมหายใจอยู่ ถึงแม้จะน้อยนิดก็ตาม มันยังคงมีแรงดิ้นรน หาทางกระเสือกกระสน พาร่างอันบอบช้ำเต็มที พยายามเลื้อยหนีออกจากถ้ำ พวกเขายังคงพบเศษซากชิ้นส่วนเนื้อของมัน และยังคงกระดุกกระดิกอยู่

ณ เวลานั้น ทหารญี่ปุ่น ที่ได้สวมบทเป็นยมฑูต พร้อมที่จะมอบความตายให้กับเจ้าปีศาจยักษ์ ก็ไม่รอช้า จัดการกระหน่ำยิงใส่ จนปลอกลูกกระสุนหล่นเกลื่อนกลาด เต็มพื้นไปหมด จากยมฑูต ที่ได้เคยเอาชีวิตของเหล่าทหารลาดตะเวน เพื่อนของพวกเขา กลับต้องกลายมาเป็นผู้ถูกลงทัณฑ์ ก่อนที่มันจะขาดใจตายอยู่ตรงนั้น

ในเวลาต่อมา เหล่าทหารกล้า ผู้พิชิตเจ้าสัตว์ประหลาดขนาดยักษ์นี้ ก็ได้ทำการแล่เนื้อของเจ้างูยักษ์ ออกเป็นชิ้นๆ เพื่อความสะใจ และเป็นการล้างแค้น ให้กับผู้ที่ถูกมันคร่าชีวิต ไปอย่างสาสม

นอกจากนี้สิ่งที่เหล่าทหารญี่ปุ่นได้พบเจอ กับหลักฐานที่ทำให้ยิ่งมั่นใจได้ว่า เจ้างูยักษ์นี้ เป็นต้นเหตุของการหายไปของเหล่าทหารลาดตะเวน เพราะในถ้ำ มีเศษซากกระดูก ที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วพื้น พบทั้งกระดูกสัตว์น้อยใหญ่ และกระดูกคน ผสมกันอีกมากมาย ว่ากันว่า มีกระดูกของมนุษย์ นับร้อยชิ้นเลยทีเดียว

ผู้ที่บอกเล่าถึงตำนานของเจ้าอสรพิษร้ายนี้ก็ คือ คุณลุงปรีชา ไมตรีรักษ์ เจ้าหน้าที่อาวุโสของสถานีรถไฟกาญจนบุรี ผู้ที่เติบโตมาจากจังหวัดกาญจนบุรีจนถึงปัจจุบันมาชั่วชีวิต โดยปัจจุบันคุณลุง ได้รับหน้าที่สันทนาการบนรถไฟขบวน กทม – น้ำตกไทยโยค ในโอกาสที่เป็นทริปพิเศษในวันหยุดที่มีผู้โดยสารเข้ามาท่องเที่ยว น้ำตกไทรโยค

โพสท์โดย: ประเสริฐ ยอดสง่า
อ้างอิงจาก:
https://youtu.be/8Fve2a_kdgU?si=y02rG3vS6Hnnxs-B
คุณลุงปรีชา ไมตรีรักษ์ เจ้าหน้าที่อาวุโสของสถานีรถไฟกาญจนบุรี
ตำนานงูยักษ์ แห่งกาญจนบุรี
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
5 VOTES (5/5 จาก 1 คน)
VOTED: momon
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ดาราสาว แวร์ โซว เคลียร์ชัด ไม่ใช่อักษรย่อ ว. ในข่าวค้างจ่ายค่าทำผมรวมภาพเรียกรอยยิ้มประจำวันนี้ วันที่เป็นวันพฤหัส ที่กระแสน้องเสือ เอวา ที่สวนสัตว์เชียงใหม่กำลังมาแรงเด้อครับเด้อพ่อค้า แม่ค้าขายของ เป็นงง งานองค์พระปฐมเจดีย์ ค่าที่หลักแสนแต่คนเดินน้อยดาราจีนแชร์เทคนิค ผอมลง 15 โลใน 1 เดือน เพื่อรับบทบาทในละครอะไรจะเกิดขึ้น หากปล่อยให้น้ำตาลในเลือดสูงกล้วยแปะเทปกาว ราคาทะลุ 200 ล้านคดีฮือฮา พนักงานฟ้องบริษัท หลังถูกไล่ออกเพราะ "หลับ" ในที่ทำงาน“จี๋ สุทธิรักษ์” พระเอกสุดปัง โกอินเตอร์แสดงซีรีส์ญี่ปุ่น เตรียมออนแอร์ต้นปี 2025!เพียง 3 วินาที หญิงสาวสามารถขโมยนมผงในร้านสะดวกซื้อโดยไม่มีใครเห็นเปิดตัวแฟชั่นทนายสายหยุด ที่มาพร้อมกับเครื่องประดับสุดหรู ราคาต่อชิ้นไม่ธรรมดาคลั่งยาllอบดูสาวอาบน้ำ ประวัติพึ่งพ้นคุก"หมูกระทะคนรวยมื้อละครึ่งแสน! ไอคอนสยามออกโรงชี้แจง หลังโพสต์โปรเคาท์ดาวน์ถูกลบ"
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
ดาราสาว แวร์ โซว เคลียร์ชัด ไม่ใช่อักษรย่อ ว. ในข่าวค้างจ่ายค่าทำผมอุกกาบาต 15.5 ตันในทวีปอเมริกาเหนือจับแก๊งจีนค้า'นมผู้สูงอายุปลอม'ยี่ห้อดัง!"โอปอล" กลับถึงไทยแล้ว แฟนนางงาม-แอนโทเนีย แห่มาร่วมให้กำลังใจแน่นสนามบิน"งานขนส่งรวยกว่าที่คิด! หนุ่มเผยรายได้ วิ่งทั้งเดือนเทียบออฟฟิศสบายๆ"
กระทู้อื่นๆในบอร์ด นิยาย เรื่องเล่า
อีกมุมของ "ยายสา" ตำนานแม่มดแห่งสมิหลา กับความลึกลับที่ไม่มีใครกล้าท้าทาย"“ศึกเสน่หา ไกรทอง ชาละวัน” ในที่สุดไกรทองก็มีเมียครบ 5 คนยายสา: ตำนานรักกลางเกลียวคลื่นแห่งสมิหลาทุ่งไหหิน (ທົ່ງໄຫຫິນ)
ตั้งกระทู้ใหม่