รีวิวหนัง Fly Me To The Moon ทะยานฟ้าสู่พื้นจันทร์ หนังตลกโรแมนติกอิงประวัติศาสตร์ พลิกบทบาทสองดารานำ
Fly Me To The Moon ทะยานฟ้าสู่พื้นจันทร์ หนังตลกโรแมนติกอิงประวัติศาสตร์ พลิกบทบาทสองดารานำ
ภาพยนตร์เรื่องทะยานฟ้าสู่พื้นจันทร์ Fly me to the moon จัดอยู่ในประเภทตลกโรแมนติกเนื้อหาย้อนยุคไปเมื่อ 55 ปีที่แล้วตอนที่สหรัฐอเมริกามีโครงการจะส่งนักบินไปเหยียบพื้นดวงจันทร์ภาพจึงออกมาเป็นสีซีดย้อนยุคสมกับที่เป็นงานสร้างของ Apple จัดจำหน่ายทั่วโลกโดย Sony Picture เข้าฉายตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 8 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยไม่มีรอบสื่อมวลชน
หนังมีความยาว 2 ชั่วโมง 12 นาทีเรทพีจี 13 คะแนนเฉลี่ยจากทุกสำนักอยู่ในระดับปานกลาง ทุนสร้างกว่า $100 ล้าน ขณะนี้ทำรายได้ทั่วโลกได้คืนมาประมาณ $40 ล้าน กำกับโดย เกรก เบอร์ลันติ จาก Love, Simon นำแสดงโดย Scarlett Johansson และ Channing Tatum ทั้งสองคนอยู่ในจักรวาลมาร์เวลรับบทแบล็ควิโดว์และแกมบิท โดยเฉพาะเททั่มกำลังมีผลงาน เดดพูล 3อยู่ในขณะนี้และอีกสองสัปดาห์ก็จะมีเรื่อง Blink TWICE เราสามารถชมภาพยนตร์ที่เขาแสดงได้ถึงสามเรื่องภายในเดือนเดียว
พระเอกเป็นหนุ่มนาซ่าอดีตนักบินอวกาศที่ผันตัวมาเป็นผู้อำนวยการปล่อยจรวด อพอลโล 11 ที่จะส่งนีล อาร์มสตรองและพวกไปลงดวงจันทร์ แชนนิ่งพลิกบทบาทจากคนชอบตลกโรแมนติกในเรื่องก่อนๆ กลายเป็นคนที่ดูสุขุมซีเรียสจริงจังแต่มีสองอย่างที่ย้อนแย้งคือใส่เสื้อยืดในที่ทำงานราชการตลอดเวลาดูลำลองเหมือนอยู่บ้านและเป็นคนเชื่อโชคลางกลัวแมวดำ
นางเอกหากินด้วยกันปลิ้นปล้อนเอาตัวรอดจึงถนัดรับงานโฆษณาชวนเชื่อ เมื่อนาซ่ากลัวพลาดแล้วจะเสียเครดิตต่อชาวโลกขณะที่ประเทศก็กำลังตามหลังรัสเซียอยู่ จึงได้ว่าจ้างนางเอกมาทำการพีอาร์โฆษณาโครงการรวมถึงถ่ายทำภาพยนตร์ที่แสดงถึงการไปลงดวงจันทร์เผื่อไว้ในกรณีที่ไม่สำเร็จ
แล้วเรื่องมันสนุกตรงที่ภารกิจเหมือนจะไม่สำเร็จจริงๆ แต่ทุกคนก็พยายามทำหน้าที่ของตัวเองอย่างที่สุด