ภูกระดึง เปิดช่วงไหน 2567 เผยวิธีจอง การเตรียมตัว ระยะทางเดินวันแรก
สวัสดีเพื่อนๆ ชาวโพสต์จังทุกท่านค่ะ วันนี้น้องซูโม่จะพาเพื่อนๆ มาสำรวจเส้นทางเดินบนภูกระดึงกันค่ะ ซึ่งในปี 2567 นี้ ทางอุทยานแห่งชาติภูกระดึง ก็มีประกาศออกมาแล้วนะคะ ว่าจะเปิดฤดูกาลท่องเที่ยวในวันที่ 1 ตุลาคม 2567 อย่างเป็นทางการ ใครที่ตั้งหน้าตั้งตารอคอยจะไปเดินป่าที่นี่ อย่าพลาดเด็ดขาด และเพื่อให้ตลอดการท่องเที่ยวของเพื่อนๆ เป็นไปด้วยความราบรื่น ในฐานะที่น้องซูโม่เคยไปเดินภูกระดึงมาแล้ว ก็จะมาแนะนำเส้นทางเดิน การเตรียมตัว ที่พัก และจุดที่ไม่ควรพลาดมาฝากกันค่ะ พร้อมแล้วเรามาลุยกันเลย
จองคิวขึ้นภูกระดึงอย่างไร ?
สำหรับการจองคิวขึ้นภูกระดึงในปัจจุบัน เพื่อนๆ สามารถจองคิวได้ที่แอพพลิเคชั่น QueQ ได้เลยค่ะ ซึ่งเจ้าแอพพลิเคชั่นตัวนี้ จะเป็นศูนย์รวมจองอุทยานแห่งชาติทั้งหมดในประเทศไทยเลยนะ ขั้นตอนในการจองคิวเดินภูกระดึงทำได้ดังนี้
- สมัครเป็นสมาชิกแอพพลิเคชั่น QueQ
- ค้นหาอุทยานแห่งชาติภูกระดึง
- เลือกวันเข้าพื้นที่ เบอร์โทรศัพท์มือถือที่ติดต่อได้ ประเภทยานพาหนะเข้าพื้นที่ หมายเลขทะเบียนบานพาหนะ ระบบจำนวนผู้ร่วมเดินทาง(รวมผู้จองด้วย) กรอกชื่อ-นามสกุลผู้เดินทางทั้งหมด
- กดต่อไป แล้วเลือกเวลาที่ต้องการเดินขึ้น
- ปริ้นเอกสารการจอง เพียงเท่านี้ก็เสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ
หากถึงวันเดินทาง เพื่อนๆ ไม่สามารถเดินขึ้นภูกระดึงได้ ก็สามารถยกเลิกได้เลยทันที อย่างไรก็ตาม ควรมีการจองล่วงหน้าอย่างน้อย 1-2 เดือน เพราะการท่องเที่ยวภูกระดึงในช่วงเดือนตุลาคม-เดือนธันวาคมเป็นช่วงไฮซีซั่น ทำให้มีทั้งท่องเที่ยวปัดหมุดมาที่นี่กันเยอะมาก โดยเฉพาะวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์
เมื่อถึงวันนัดหมาย เดินขึ้นภูกระดึง สิ่งแรกที่ควรทำคืออะไร?
นักท่องเที่ยวจะต้องเดินทางเข้าไปเช็คอินที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว อุทยานแห่งชาติภูกระดึง เพื่อทำการซื้อประกันการเดินทางราคาไม่แรงค่ะ ซูโม่จำได้คร่าวๆ หลักสิบบาทเท่านั้นเอง และจองเต้นท์นอนได้ในจุดนี้เลยนะคะ เพื่อนำตั๋วไปแลกเต้นท์นอนที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวข้างบนอีกทีค่ะ
จากนั้นให้เดินเข้าไปข้างใน จะมีบริการลูกหาบช่วยแบกสัมภาระของเรานั่นเอง โดยคิดราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ 30 บาท เช่น กระเป๋าของเพื่อนๆ มีน้ำหนัก 5 กิโลกรัมก็จะคิดเป็น 5*30 = 150 บาท โดยพี่ๆ ลูกหาบจะหาบกระเป๋าเราไปขึ้นไปไว้ที่จุดบริการนักท่องเที่ยวรอก่อนแล้ว ไม่ต้องกลัวกระเป๋าหายนะคะ ข้อควรระวังในการจองลูกหาบ คือ ระวังลูกหาบหมดค่ะ ไม่งั้นเพื่อนๆ จะได้แบกสัมภาระขึ้นไปเองน้า ควรมาจองลูกหาบตั้งแต่เช้าๆ เลย
จุด Start เดินขึ้นภูกระดึง ระยะทางกี่กิโลเมตร
เอาล่ะเรามาเริ่มพิชิตภูกระดึงไปพร้อมกันเลย เริ่มต้นที่จุด Start กันก่อนค่ะ จุดนี้เป็นด่านตรวจตั๋วของเรานะคะ แนะนำว่าให้ถ่ายรูปเก็บภาพความประกับใจที่จุดนี้เอาไว้ก่อนเลย เพราะว่าเป็นช่วงที่เรามีแรงแบบเต็มกำลัง ยังยิ้มแย้มได้ เอ้า 1 2 3 ชีสสสสสสสส
หลังจากนั้นให้เริ่มต้นเดินป่าได้ ไปกันเลย Let's go ๆ ให้สังเกตไปที่ฝั่งขวามือของเพื่อน จะเห็นไม้เท้าวิเศษณ์ซึ่งเป็นของผู้ที่ผ่านด่านมาก่อน ไปหยิบมาได้เลยค่ะ ซึ่งจะได้ใช้แน่ๆ ไม้นี้จะช่วยผ่อนแรง และให้คุณเดินขึ้นภูง่ายมากขึ้น ส่วนใครที่กลัวไม้มีเสี้ยนก็เลือกดีๆ นะ หรือจะซื้อไม้ค้ำก็ได้ที่อุทยานฯ มีขายเหมือนกัน
*โน้ต*ระยะทางเดินภูกระดึงประมาณ 5.5 กิโลเมตร
เริ่มต้นด่านแรกกับด่านปากกกค่า และซำแฮก จะอยู่ใกล้ๆ กัน ระยะทางเดินจากจุด Start ขึ้นมาประมาณ 800 เมตร อ่านดูแล้วเหมือนจะไม่ไกล แต่ด่านนี้คือด่านวัดใจที่สุดเลยค่ะ เพราะว่าทางค่อนข้างชัน จะรู้สึกเหนื่อยหอบได้ง่าย ใครผ่านด่านนี้ไปได้ จะขึ้นภูกระดึงได้ชัวร์ล้านเปอร์เซ็นต์ เคล็ดลับเดินขึ้นควรหยุดพักเป็นช่วงๆ ไม่ควรเร่งตัวเองจนเกินไป
และนักเดินทางทุกท่านก็จะได้พบกับซำอื่นๆ อีก เช่น ซำบอน ซำกกกอก พร่านพานแป ซำกกหว้า ซำกกไพ่ ซำกกโกน ซำแคร่ (เกือบทุกซำจะมีร้านขายอาหาร น้ำดื่ม และห้องน้ำ เตรียมแค่เงินกับสุขภาพที่แข็งแรงมาเดินก็ได้ค่ะ) น้องซูโม่จะรู้สึกว่าซำแฮก และซำแคร่ยากที่สุด เพราะเป็นซำแรกกับซำสุดท้ายที่มีหินเยอะ และได้ปีนป่ายค่อนข้างสูง อ้อ! อย่าลืมชิมแตงโมนะคะ แตงโมที่นี่หว๊าน หวาน ราคาเริ่มต้นชิ้นละ 10 บาท
หลังจากผ่านซำแคร่มาได้ เพื่อนจะพบกับป้ายถ่ายรูป ที่เหมือนจะเป็นจุดสุดท้าย แต่ไม่ท้ายสุด แวะถ่ายรูปที่ป้าย ผู้พิชิตภูกระดึง และพักเหนื่อยที่นี่ก่อนได้เลยค่ะ
หลังแป ภูกระดึง เดินกี่กิโล
หลังจากถ่ายรูปกับป้ายผู้พิชิตภูกระดึงเสร็จแล้ว เพื่อนๆ ยังไม่เห็นที่พักนะคะ เพราะว่าต้องเดินทางต่อบนหลังแปไปยังศูนย์บริการนักท่องเที่ยวอีกประมาณ 3.5 กิโลเมตร ไฮไลท์ของการเดินเส้นทางนี้คือ ต้นไม้เดียวดายค่ะ ใครเดินผ่านก็ต้องแวะถ่ายรูป เพราะน้องเป็นต้นไม้ต้นเดียวที่เกิดแบบเดียวดายอยู่บนเส้นทางนี้
ถึงศูนย์บริการนักท่องเที่ยวภูกระดึง
ให้ไปรับกระเป๋าสัมภาระที่ฝากลูกหาบไว้ได้เลย หลังจากนั้นให้เพื่อนๆ นำตั๋วจองเต้นท์ ไปแลกเต้นท์และที่นอนกับเจ้าหน้าที่ในศูนย์บริการนักท่องเที่ยวได้เลย หากต้องการเช่าเบาะรองนอน ถุงนอน ผ้าห่มเพิ่มก็แจ้งกับเจ้าหน้าที่ได้เลยนะ และจะมีเจ้าหน้าที่เดินพาเราไปเต้นท์นอนของเรา
รีบเก็บสัมภาระและอาบน้ำก่อนมืด การอาบน้ำบนภูกระดึงค่อนข้างเป็นเรื่องที่ท้าทาย โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่เที่ยวในหน้าหนาว เพราะอากาศจะหนาวเย็นมาก และไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่น แต่ซูโม่แอบได้ยินมาว่า ใครอยากอาบน้ำอุ่น ให้ไปขออาบกับร้านค้าที่ศูนย์อาหารได้ ส่วนราคาซูโม่ก็ไม่แน่ใจค่ะ เพราะซูโม่อาบน้ำเย็นท้าลมหนาวขั้นสุด พออาบไปสักพักก็เริ่มชินกับน้ำ จะรู้สึกหนาวอีกทีก็ตอนเช็ดตัวนู้นเลย
เตรียมตัวไปรับประทานอาหาร หมูกระทะจะเยียวยาทุกสิ่ง
ใครที่มาภูกระดึงถึงจุดนี้แล้วคุณอย่าลืมพกเงินมาเยอะๆ นะ แต่ถ้าไม่อยากพกเงินสดใช้แอพพลิเคชั่นโอนเงินในมือถือก็ได้เช่นเดียวกันจ้า
เมนูยอดฮิตบนภูกระดึงในช่วงหน้าหนาว คือ หมูกระทะ! นั่นเอง โดยร้านค้าส่วนใหญ่จะขายเป็นชุด ชุดละประมาณ 500 บาทนะคะ ใครไม่อยากทานหมูกระทะก็มีอาหารตามสั่ง ข้าวต้ม ก๋วยเตี๋ยว ราคาเริ่มต้นประมาณ 70 บาท ส่วนเมนูของหวานก็มีปังปิ้ง ชากาแฟ นมสด มีครบ ราคาเริ่มต้น 20 30 บาท เลือกร้านได้เลย เขาควบคุมราคาอาหารแต่ละร้านเท่ากันค่ะไม่ต้องกังวลว่าทานร้านนั้นแพงกว่าร้านนี้ ทานร้านนี้แพงกว่าร้านนั้น และแต่ละร้านก็มี Option ดีๆ ให้นักท่องเที่ยวชาร์ตแบตมือถือได้อีกด้วย
สำหรับการมาท่องเที่ยวที่ภูกระดึง ที่นี่เป็นจุดละลายทรัพย์ได้เป็นอย่างดีค่ะ ใครทานเยอะก็เตรียมเงินมาหนักๆ รับรองอิ่มท้อง และอยู่สบายอย่างแน่นอน ใครว่ามาภูกระดึงนั้นลำบาก อาจจะลำบากแค่ตอนเดินขึ้น มาพอมาถึงแล้วมันคือสวรรค์นะจ๊ะ
(แอบกระซิบบอกอีกว่า ถ้าใครโชคดีจะได้เจอน้องกวางเดินมาทักทายที่โซนอาหารด้วยน้าาา)
แจกทริคก่อนเข้านอน
- สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการปั่นจักรยานในวันถัดไป จะต้องไปเช่าจักรยานไว้ตั้งแต่วันที่มาถึงนะคะ ไปเช่าหลังกินข้าวเย็นก็ได้ร้านน่าจะปิด 2 ทุ่ม มีให้เลือก 2 แบบ คือ จักรยานล้อโต 410 บาท กับจักรยานล้อเล็ก 360 บาท
- อย่าลืมซื้อน้ำเปล่าไปไว้ดื่ม น้ำเปล่าบนภูกระดึงราคาค่อนข้างแรงนะคะ เริ่มต้น 20 25 บาท ขึ้นไป แล้วแต่ปริมาณขวดน้ำ
- เข้าห้องน้ำให้เรียบร้อย
- เช็คเต้นท์นอนก่อนปิดไฟ หากเที่ยวในช่วงปลายฝนต้นหนาว ก็จะเจอน้องทากที่แอบมาดูดเลือดเราได้ค่ะ การนอนในถุงนอนจะปลอดภัยกว่า หากท่องเที่ยวในหน้าหนาว แทบจะไม่เจอน้องทากแล้ว แต่ก็ระวังสัตว์มีพิษอื่นๆ เช่น แมงมุม ตะขาบ แมงป่อง นะคะ
ขั้นตอนการเตรียมตัวก่อนขึ้นภูกระดึง
- พกเงินสด และควรมีเงินในแอพพลิเคขั้นธนาคารด้วย
- สุขภาพต้องแข็งแรง ไม่เจ็บป่วยก่อนเดินขึ้น เช่น ไข้ตัวรุมๆ ท้องเสีย ปวดหัว เจ็บข้อเท้า มีโรคประจำตัวเช่น เบาหวาน ความดัน ไทรอยด์ (ควรตรวจสุขภาพก่อนเดินทางด้วยอย่าฝืนตัวเอง)
- รองเท้าเพื่อนๆ จะใช้รองเท้าผ้าใบ หรือ รองเท้าหุ้มข้อก็ได้ค่ะ เลือกรองเท้าที่มีพื้นหนา พื้นไม่บางจนเกินไป เตรียมรองเท้าแตะสำรองไปด้วย
- ยาประจำตัว ยาสามัญประจำบ้าน เผื่อไม่สบายตอนอยู่บนภูกระดึง แม้ข้างบนจะมียาขาย แต่พกไปด้วยจะอุ่นใจมากกว่า
- ทิชชู่เปียกเผื่อไม่อยากอาบน้ำในช่วงหน้าหนาว ใช้ทิชชู่เปียกเช็ดทำความสะอาดร่างกายได้ค่ะ
- เตรียมใจให้พร้อม ใจพร้อมกายพร้อมเราทำได้แน่นอน
บทส่งท้าย
ดังนั้นการเดินบนภูกระดึงตั้งแต่จุด Start มาจนถึง ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวจึงใช้ระยะทางประมาณ 8.8 กิโลเมตร ซึ่งใช้เวลาประมาณ 5-8 ชั่วโมง ในการเดินขึ้นอยู่กับความสามารถของแต่ละคนด้วย พอมาถึงก็เหนื่อยล้าแล้ว ควรพักเอาแรงในวันที่เดินขึ้น และเริ่มท่องเที่ยวบนภูกระดึงในเช้าวันถัดไปค่ะ ซึ่งเดี๋ยวน้องซูโม่จะมาเล่าต่ออีกบทความนะคะ ของการท่องเที่ยวตามผาต่างๆ ว่าเป็นอย่างไร ฝากเพื่อนๆ ติดตามไว้ด้วยน้า
ปล. เนื้อหาและภาพภ่าย น้องซูโม่เขียนขึ้นมาเองจากประสบการณ์ไปเที่ยวมาจริง ไม่อนุญาตให้ Copy ดัดแปลง และตัดต่อเนื้อหาส่วนใดส่วนหนึ่ง หากตรวจพบปรับครั้งละ 50,000 บาท รูปภาพปรับรูปละ 50,000 บาท นะคะ